รฟม.ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผู้โดยสารสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ใหม่หลังถูก สศช.ติงประเมินสูงไป สั่งยึดฐานสีม่วงเหนือ คลองบางไผ่-เตาปูน ที่ผู้โดยสารต่ำเป้ามาก “พีระยุทธ” เผยลดเป้าผู้โดยสารช่วง 4-5 ปีแรก เชื่อจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อโครงข่ายสมบูรณ์ ส่วนสีม่วงเหนือคาดผู้โดยสารเข้าเป้าหลังเปิดเดินรถสีน้ำเงินต่อขยายและมีระบบตั๋วร่วม พร้อมมั่นใจดันรถไฟฟ้า 5 สายที่เหลือ เข้า ครม.เปิดประมูลครบใน ธ.ค. 60
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าในปี 2560 ของ รฟม.ว่า จะมีอีก 5 โครงการที่อยู่ในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงิน 131,004.30 ล้านบาท ซึ่งล่าสุด รฟม.ได้ทำข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แล้ว คาดว่าจะเสนอประชุมบอร์ด สศช.ได้ในเดือน ก.พ. 2560 พร้อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม. วงเงิน 21,120 ล้านบาท ซึ่งได้ศึกษาแผนรายละเอียดเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ส่วนสายสีเขียวใต้ ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 9.2 กม. วงเงิน 9,529.54 ล้านบาท, สายสีเขียวเหนือ ช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 6.5 กม. วงเงิน 9,236.07 ล้านบาท, สายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทาง 16.4 กม. วงเงิน 85,288.54 ล้านบาท ได้เสนอเรื่องไปกระทรวงคมนาคมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือเสนอบอร์ด สศช. คาดว่าจะทยอยเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/60 และเปิดประมูลได้ภายในเดือน ก.ย.-ธ.ค. 60
ทั้งนี้ หลังจากเปิดเดินรถสายสีม่วงเหนือ ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน แล้วพบว่าจำนวนผู้โดยสารจริงไม่ตรงกับสมมติฐานที่ประเมินไว้ ทาง สศช.จึงให้ รฟม.ปรับประมาณการจำนวนผู้โดยสารของสายสีม่วงใต้ใหม่ โดยใช้ข้อมูลจากสีม่วงเหนือ ซึ่งทำให้คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารของสายสีม่วงใต้ในช่วง 4-5 ปีลดลงจากเดิม แต่จะค่อยๆ ปรับขึ้นไปเมื่อประชาชนมีการปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทาง ซึ่งตัวเลขผู้โดยสารนั้นมีผลต่อการประเมินผลตอบแทนการลงทุนโครงการ ดังนั้นจะต้องประเมินให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งข้อดีของสีม่วงใต้คือ เมื่อเปิดเดินรถ โครงข่ายจะมีการเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าสายอื่นแล้ว เช่น สถานีวังบูรพา ตัดกับสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
จากข้อมูลการศึกษาวิเคราะห์ และประมาณการจำนวนผู้โดยสารเดิม สายสีม่วงใต้จะมีถึง 477,098 คน/วัน โดยประเมินช่วงตั้งแต่ปี 2562 ถึงปี 2592 รวม 30 ปี โดยจัดลักษณะโครงสร้างค่าโดยสารตามระยะทาง โดยมีค่าแรกเข้า 12.20 บาท + 2.2 บาทต่อกิโลเมตร (ราคา ณ ปี 2552) ซึ่งมีการยกเว้นค่าแรกเข้าสำหรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าของ รฟม.
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหนือ ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน หลังจาก รฟม.ได้ปรับลดอัตราค่าโดยสาร จากเดิม 14-42 บาท เหลือ 14-29 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 59 ทำให้จำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ยเพิ่มมาอยู่ที่ประมาณ 23,000 คน/วัน เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 20% ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้บริการในช่วงเช้าและเย็น ซึ่งต้องยอมรับว่าแนวเส้นทางของสีม่วงเป็นที่อยู่อาศัย ไม่มีกิจกรรมเชิงพาณิชย์หรือย่านธุรกิจ จึงไม่เอื้อให้มีการเดินทางตลอดเวลา ซึ่งภาครัฐและท้องถิ่นจะหาแผนพัฒนาการใช้พื้นที่ตามแนวเส้นทาง
“ผู้โดยสารสายสีม่วงเหนือจะเพิ่มขึ้นอีก คงต้องรอ 2-3 ประเด็น คือ การต่อเชื่อมสีน้ำเงินช่วง 1 สถานี, สีน้ำเงินต่อขยายเปิดเดินรถครบวงจร, เกิดระบบตั๋วร่วมที่ทำให้ค่าโดยสารเป็นระบบเดียวกัน ซึ่งทาง สนข.กำลังสรุปเรื่องการจัดตั้งบริษัทตั๋วร่วมขึ้นมาบริหารจัดการ โดยผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องหารือกัน ประเด็นคือต้องยอมรับต้นทุนและกำหนดอัตราค่าโดยสารเดียวกันอย่างไร เพราะถ้ากำหนดค่าโดยสารแพงคนก็ไม่ใช้ ผู้ประกอบการขาดทุน ดังนั้นน่าจะมีจุดพอดีกับทุกฝ่ายที่ค่าโดยสารไม่แพงมาก และผู้ประกอบการอยู่ได้”
โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการ Shuttle Bus เชื่อมต่อสีม่วงกับสีน้ำเงิน (เตาปูน-บางซื่อ) ประมาณ 14,000 คน/วัน โดย รฟม.ได้จัดรถโดยสารปรับอากาศขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จากสถานีเตาปูน-บางซื่อ 15 คัน ให้บริการทุกวัน มีค่าใช้จ่ายประมาณ 210,000 บาท/วัน รถไฟชานเมืองเชื่อมระหว่างสถานีบางซ่อน-สถานีบางซื่อ วันจันทร์-ศุกร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายส่วนของรถไฟชานเมืองเชื่อม 1 สถานี 226,576 บาท/วัน
ที่มา: manager
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : thailandlogistics