Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

10 วิธีแก้ปัญหาปวดก้นกบง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

ปัญหาปวดก้นกบเป็นปัญหากวนใจที่พบได้มากในปัจจุบัน แม้ในขั้นแรกเริ่มจะไม่เป็นปัญหาที่รุนแรงมากนัก แต่หากปล่อยไว้ให้เรื้อหลังอาจกลายเป็นการอักเสบจนยากแก่การรักษาหรืออาจทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ในที่สุด สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาอาการปวดตรงก้นกบนี้ สามารถบรรเทาได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งจะใช้ในกรณีที่มีอาการในระยะแรกเริ่ม สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วย 10 วิธีต่อไปนี้

ปวดก้นกบ

1. การประคบร้อนประคบเย็น 

เป็นอีกหนึ่งการรักษาทางเลือกที่ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้านด้วยตนเอง ทำได้โดยการนำผ้ามามัดเป็นก้อน แล้วเอาไปนึ่งให้พออุ่นประคบบริเวณก้นกบจนกล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวสลับกับการประคบเย็น ด้วยการนำผ้าห่อน้ำแข็งประคบสลับกันไปเป็นเวลาประมาณ 30 นาทีกล้ามเนื้อจะหดตัวและขยายตัว เหมือนการทำกายบริหารทำติดต่อกันประมาณ 3-5 วัน อาการจะดีขึ้นโดยลำดับและหายขาดในที่สุด วิธีนี้ไม่เหมาะกับคนที่ความดันโลหิตสูงและผู้ที่เป็นไมเกรนเรื้อรัง

ปวดก้นกบ

2. การปรับเปลี่ยนเก้าอี้และฟูกนอนใหม่

ลองสังเกตดูว่าหลังจากที่คุณนั่งเก้าอี้ประจำนานๆ ทุกครั้งที่ตื่นนอนแล้วมีอาการปวดที่ก้นกบ อาการปวดจากกิจกรรมทั้ง 2 อย่างนี้สามารถอนุมานได้ว่าเกิดจากวัสดุฟูกรองนั่งและฟูกที่นอนที่ไม่เหมาะสมกับสรีระมีความอ่อนนุ่มเกินไปหรือแข็งเกินไปทำให้เกิดการปวดอักเสบขึ้นเพื่อแก้ปัญหาควรเปลี่ยนที่นอนและเบาะรองนั่งที่เหมาะสมกับสรีระของคุณอาการปวดก็จะหายไป

ปวดก้นกบ

3. รับประทานอาหารรสจืด

หลายท่านที่ปวดกล้ามเนื้อกล้ามเนื้ออักเสบบ่อย ๆ มักเป็นบุคคลที่ชอบรับประทานอาหารรสจัดซึ่งอาหารรสจัดเหล่านั้นจะทำให้เลือดมีโซเดียมและมีค่าเป็นกรดมากกว่าปกติ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออักเสบได้ง่าย ทั้งยังทำให้สะโพกหย่อน โคนขาใหญ่ ขาดความสมดุลในร่างกายจนทำให้มีการลงน้ำหนัก ทั้งยังขาดสมมาตรนำไปสู่การเสื่อมของเอ็นยึดกระดูกและหมอนรองกระดูกในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย

ปวดก้นกบ

4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายหรือทำกายบริหารในท่าทางที่ถูกต้อง จะช่วยลดการอักเสบปวดตึงในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้ แม้ในช่วงแรก ๆ ของการออกกำลังกายอาจจะทำให้มีการอักเสบบ้างเล็กน้อยแต่เมื่อทำอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี การอักเสบนั้นจะหายไปจะได้กล้ามเนื้อแทน ทั้งนี้หากออกกำลังกายแล้วมีอาการปวดบริเวณก้นกบอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะหายให้หยุดทำ และลองหาท่ากายบริหารใหม่ ๆ

ปวดก้นกบ

5. ปรับเปลี่ยนกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการอักเสบของกล้ามเนื้อก้นกบ เช่น การนั่งย่อตัวเป็นเวลานาน นั่งเก้าอี้เป็นเวลานาน หรือแม้แต่การเดินหรือยืนในลักษณะที่ลงน้ำหนักข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไปก็เป็นสาเหตุของอาการอักเสบนี้ได้ ดังนั้นขั้นแรกต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าพฤติกรรมใดมีความเสี่ยง แล้วควรเลิกจากพฤติกรรมนั้นปรับเปลี่ยนสู่พฤติกรรมที่ถูกสุขลักษณะ 

ปวดก้นกบ

6. จัดลานหินนวดเท้า

ทำได้โดยการเลือกเอาบริเวณใดบริเวณหนึ่งนอกบ้าน นำก้อนหินที่โค้งมนไม่มีคมมาเรียงจนแน่นบริเวณ เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับเดินไปมาบริหารเท้า หรืออาจจะจัดเป็นลักษณะสวนหินก็ทำได้ แต่ควรทำความสะอาดบ่อย ๆ ป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำหมั่นตรวจดูการแตกร้าวของก้อนหินเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับผู้ใช้งาน วิธีนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการกระดูกพรุนหรือได้รับบาดเจ็บบริเวณฝ่าเท้า

ปวดก้นกบ

7. บริหารจิตและความเครียด

ความเครียดสะสมและภาวะกดดันจะทำให้มีกรดสะสมในกระแสเลือดสูง ออกซิเจนไม่สามารถไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เพียงพอ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ เมื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันอาจจะเกิดการอักเสบ ได้รับการกระทบกระเทือนจนฉีกขาดได้ง่าย อีกทั้งในด้านการรักษาตัว การฟื้นตัวก็เป็นไปได้อย่างช้า ๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณก้นกบก็เป็นส่วนสำคัญในการรับน้ำหนักในอิริยาบถการนั่ง

ปวดก้นกบ

8. อย่าอยู่ในอิริยาบถเดิม ๆ นานเกินไป

การอยู่ในอิริยาบถเดิมเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เกิดการถ่ายเทน้ำหนัก และการตกตะกอนของโซเดียมตลอดจนสารเคมีต่าง ๆ ในร่างกายมากจนเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณก้นกบเกิดการอักเสบ หากทำพฤติกรรมดังกล่าวติดต่อกันหลายวันอาจจะทำให้เกิดการปวดเรื้อรังจนยากแก่การรักษาได้ ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการเดินหรือการบิดกล้ามเนื้อ เพื่อทำการบริหารในระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ ของแต่ละวัน วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาการปวดก้นกบได้

ปวดก้นกบ

9. ประคบสมุนไพร

วิธีนี้อาศัยการประคบร้อนแต้จะประคบด้วยการทำลูกประคบสมุนไพร ด้วยการนำสมุนไพรต่าง ๆ เช่น ใบมะขาม ผิวมะกรูด เถาเอ็นอ่อน ไพรขมิ้น หรือสมุนไพรอื่น ๆมาห่อในห่อผ้าแล้วนำไปนึ่งก่อนที่จะวางประคบในบริเวณที่มีอาการปวด ต้องทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลาประมาณ 20 นาทีไม่ควรมากเกินไป ทำติดต่อกัน 3-7 วัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตไมเกรนเรื้อรัง และโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับอุณหภูมิไม่ควรใช้วิธีนี้ในการรักษา

ปวดก้นกบ

10. พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ

โดยปกติของมนุษย์นั้นเวลานอนหลับกล้ามเนื้อจะคลายตัวสำคัญมากในการสร้างกล้ามเนื้อทดแทนกล้ามเนื้อที่ตายหรือเสื่อมสภาพ ตลอดจนปรับสมดุลความเป็นกรดในเลือด และการนำออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย แต่ในบุคคลที่พักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ กล้ามเนื้อจะมีการหดเกร็งเป็นระยะจากการนอนดิ้น เลือดจะมีความเป็นกรดสูงจากกันพักผ่อนไม่เพียงพอและจากเกิดความเครียด ซึ่งล้วนแต่เป็นผลไม่ดีต่อกล้ามเนื้อทำให้เกิดความเจ็บปวด และอักเสบในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้นการแก้ปัญหาปวดที่ก้นกบต้องพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ กล่าวคือหลับสนิทไม่นอนในลักษณะหลับหลับตื่นตื่น ๆ

ปวดก้นกบ

สำหรับวิธีที่กล่าวมาในข้างต้นนั้นเป็นเพียงวิธีการบำบัดรักษาและปรับเปลี่ยนสำหรับผู้มีอาการในขั้นเริ่มต้น หากปัญหาการปวดก้นกบเป็นมานาน มีอาการปวดเป็นระยะอย่างเรื้อรังนับวันทวีความรุนแรงขึ้น ขออย่านิ่งนอนใจให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนหรือมีการติดเชื้อในบริเวณนั้น ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น 

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร