การเลือกประตูไม้จะง่ายยิ่งขึ้น เมื่ออ่านเคล็ดลับเหล่านี้ ไม่ว่าผู้ซื้อกำลังตัดสินใจใช้ประตูบานเดียวหรือบานคู่ ปัญหาไม้มีเสียงดังในยามกลางคืน เนื้อไม้หด หรือบวมไปตามกาลและเวลาก็แก้ไขได้ง่าย มารู้จักเคล็ดลับการเลือกประตูไม้ตามขั้นตอนเหล่านี้กัน
โดยทั่วไป ประตูไม้มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 600-35,000 บาท ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อจะเลือกใช้ขนาด วัสดุ และการตกแต่งอย่างไร หากซื้อมาเพียงวัสดุเปล่า แล้วนำมาตกแต่ง หรือตัดต่อเองภายหลังราคาจะไม่สูงนัก ถ้าวัสดุมีความแข็งแรง ทนทานก็สามารถทำให้ราคาเพิ่มขึ้นมาได้อีก เช่น ประตูไม้สักแท้บานคู่ ทำสี และตกแต่งเรียบร้อยขนาดประตูบานละ 80*200 เซนติเมตร จะมีราคาอยู่ที่ 34,000 บาท โดยแบ่งเฉลี่ยบานละ 17,000 บาท ประตูวีเนียร์ยางขนาด 70*180 เซนติเมตร มีราคาบานละ 590 บาท ไม่มีการตกแต่ง และต้องติดตั้งใต้ร่มป้องกันฝนและแสงแดด ทั้งนี้หากซื้อผ่านโรงงานหรือเว็บไซต์ในช่วงโปรโมชั่น หรือซื้อต่อจากผู้ขายรายแรกจะทำให้ได้ราคาที่ถูกกว่า
เนื้อประตูที่ทำมาจากไม้จำปา ไม้สน และไม้ตะแบก จะมีราคาอยู่ที่ 1,500-9,000 บาทต่อบาน หาซื้อง่าย มีลวดลายเทียบเท่าไม้สัก และสามารถตกแต่ง ทำสีได้หลากหลาย แต่จำเป็นต้องดูในเรื่องแหล่งผลิตของวัสดุ หากประตูไม่ได้มาตรฐานกระบวนการอบหรืออาบน้ำยาไม่ดีจะทำให้ไม้เกิดการหด และยืดตัวตามสภาพอากาศ ควรติดตั้งไว้ภายในบ้าน เช่น ห้องครัว ห้องนอน หรือห้องทำงานจะดีที่สุด เนื่องจากวัสดุไม่ทนทานต่อความชื้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ไม้ประดู่หรือไม้ตะเคียนได้ แต่ราคาจะสูงขึ้นมาเล็กน้อย
ประตูไม้แบ่งออกเป็น 2 แบบให้เลือกคือ ประตูไม้จริงและประตูไม้ผสม โดยประตูไม้จริง ได้แก่ ไม้สัก ไม้เต็ง ไม้แดง และไม้รัง เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพอากาศเป็นอย่างมาก ให้ลวดลายที่สวยงาม และผิวสัมผัสตามธรรมชาติ แต่มีราคาสูง ต้องคอยดูแลรักษาบ่อยครั้ง
ส่วนไม้ผสม ได้แก่ ไม้พีวีซี (PVC) ไม้ยูพีวีซี (uPVC) และไม้เอนจิเนียร์ ซึ่งจะนำใยสังเคราะห์ ไม้อัด หรือผงไม้เข้าไปรวมกับสารเคมีบางอย่าง เพื่อให้ได้ประตูที่มีราคาถูก ดูแลรักษาง่าย คงทน แต่มีลวดลายของไม้น้อยลงไปจนถึงไม่มีเลย ในการเลือกใช้ให้คำนึงถึงการตกแต่งของบ้าน และการใช้งานประกอบ ตัวอย่าง ห้องน้ำหลังบ้าน สามารถใช้ประตูไม้ผสมได้ เพราะไม่เป็นจุดนำสายตาเหมือนหน้าบ้าน
เนื่องจากวงกบเป็นจุดรับแรงกระแทกของประตูมาก จึงต้องใช้ไม้ที่มีความแข็งแรงทนทาน เช่น ไม้แดง ไม้ตะแบก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้ตะเคียน หรือไม้ยูพีวีซีที่จะไม่โก่ง ยืด หรือหดตัว เพราะจะทำให้ประตูไม่สามารถปิดแน่นสนิทพอดีกับวงกบได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณของผู้ซื้อ ความเหมาะสมของประตู และการตกแต่งของตัวบ้าน จะช่วยให้เกิดความสวยงามมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง หน้าบ้านเป็นประตูไม้ 3 ลูกฟัก บานเดียวสีน้ำตาลแก่ และออกแบบในสไตล์วินเทจสีขาวหลังคาเขียว วงกบของประตูจึงควรเป็นไม้ตะเคียน เนื่องจากให้สีที่ใกล้เคียงกัน
ให้ดูจากขนาดของบ้านและจำนวนคนที่อาศัยภายในบ้าน หากมีบ้านใหญ่มีผู้อาศัยหลายคนควรเป็นประตูบานคู่ แต่หากบ้านมีขนาดเล็กคนน้อยถึงปานกลางควรเป็นประตูบานเดี่ยว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อด้วย โดยปกติแล้วบ้านประตูเดี่ยวจะมีความแข็งแรง และอายุการใช้งานมากกว่าประตูบานคู่ เนื่องจากถูกใช้งานในเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่สำหรับบานประตูคู่จะถูกใช้ในหลายส่วนมากกว่า เช่น ใช้ก้น สะโพก หรือหัว ดันประตูได้หลายจุด แต่ประตูไม้เดี่ยวจะทำได้เพียงศอก ขา หรือหัวได้บางจุดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บานประตูคู่มีโอกาสชำรุดและเสียหายง่าย
สำหรับบานประตูแบบเปิด-ปิด และแบบติดบานพับ จำเป็นต้องทำบังใบ เพราะจะช่วยยึดประตูทั้งสองบานให้เข้าหากันเสมอ ช่วยสร้างทิศทางของการใช้ประตู และยังช่วยป้องกันฝน ฝุ่น แสงแดด เสียง หรืออากาศจากภายนอกที่เข้ามาสู่ตัวบ้านได้
บังใบที่ติดบานประตูยังสามารถปกปิดช่องว่างของประตูเมื่อมีการยืดหรือหดตัวได้ แต่หากเป็นบานประตูแบบเลื่อนหรือบานสวิง ที่มักอยู่ภายในบ้าน อาคาร หรือห้างนั้นไม่มีความจำเป็นต้องติด เนื่องจากไม่มีสิ่งสกปรกในพื้นที่อยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น นายเคลี่ติดตั้งบานประตูเปิด-ปิดหน้าบ้าน เขาได้ทำบังใบเพื่อป้องกันโจร และป้องกันสภาพแวดล้อมภายนอกเข้ามา แต่นายเบียร์ติดตั้งบานไม้สวิงในห้างสรรพสินค้า และเขาไม่ทำบังใบ เนื่องจากภายนอกร้าน และภายในร้านมีสภาพอากาศที่เหมือนกัน
เหตุเกิดจากเนื้อไม้ และอุปกรณ์การใช้งาน โดยปกติแล้วประตูไม้ที่ซื้อมานั้นมี 2 แบบ คือไม้ใหม่และไม้เก่า โดยมีความแตกต่างกันในเรื่องราคา ไม้ใหม่จะมีอายุน้อยกว่าไม้เก่า จึงทำให้เนื้อของประตูยังคงมีความชื้นภายในไม้อยู่ เมื่อตกกลางคืนความชื้นจากสภาพแวดล้อมภายนอกจะผ่านบานประตูเข้ามา จะทำให้ไม้เกิดการคายน้ำทำให้มีการเสียดสีกับวงกบ หรือบังใบจนเกิดเสียงดัง หากปล่อยไว้ 1-2 ปี เนื้อไม้จะเริ่มแห้งจนเสียงหายไปเหมือนกับไม้เก่า
อีกกรณีหนึ่งคือ การใช้งานประตูนาน โดยไม่ได้ดูแลเท่าที่ควรจนข้อต่อบานพับมีสนิม และเกิดเสียงดัง แก้ไขด้วยการหยดน้ำมันบานพับ 3-4 หยด จะช่วยให้ข้อต่อไม่ฝืด ตัวอย่าง นายเบียร์ นำประตูไม้สักเนื้อไม้เก่ามาติดตั้งไว้ที่หน้าบ้าน เมื่อตกกลางคืนจะมีเสียงดัง เมื่อเขาไปตรวจรอบๆ พื้นที่จึงพบว่า ปิดประตูไม่แน่นสนิท จึงมีลมพัดเข้ามาในตัวบ้าน และสังเกตข้อต่อบานพับไม่ได้ลงน้ำมัน เมื่อลมพัดผ่านจึงมีเสียงดัง นายเบียร์จึงนำน้ำมันมาหยด และปิดประตูให้สนิท
ประตูประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้เป็นประตูภายในบ้านเท่านั้น เนื่องจากมีราคาสูง และมีสีน้ำตาลที่ไม่ดูดซึมสีอื่นนอกจากสีของตัวไม้เอง จึงมักใช้เป็นไม้ดิบ เพื่อตกแต่งให้ความสวยงามด้วยลวดลายตามธรรมชาติ ตัวอย่าง นายติ ซื้อประตูไม้ดักลาสเฟอร์มาติดตั้งที่ห้องรับแขก และห้องทำงาน เพราะเป็นจุดที่มีผู้คนเดินผ่านบ่อยครั้ง จึงทำให้มองเห็นรายละเอียดของลายไม้
มีด้วยกัน 2 วิธีคือ ใช้เครื่องและใบเจียรขนาด 4 นิ้ว ไปปั่นบริเวณที่บานประตูบวมจนกว่าจะหายบวม หรือสามารถเปิด-ปิดประตูได้ พร้อมทาสีเก็บรายละเอียดเพื่อตรวจเช็กและปกปิดอีกที ควรระวังการปั่นอย่าให้เว้าจนเกินไป เมื่อไม้แห้งลงอาจมีช่องว่างได้
อีกวิธีหนึ่งคือ การปล่อยให้จุดที่บวมแห้งไปเอง (อาจเป็นไปได้ยากในหน้าฝน) แล้วค่อยนำโพลียูรีเทน หรือแลคเกอร์ มาทาลงไปตรงจุดที่เคยมีอาการบวม หากสันนิษฐานว่ามีจุดอื่นด้วย สามารถทาได้ทั้งแผ่น 3-4 ครั้ง เพื่อป้องกันอากาศเข้ายังเนื้อไม้และเกิดความชื้นอีก ตัวอย่างเช่น นายนา นำประตูไม้สักเนื้อไม้ใหม่มาติดตั้งที่ห้องครัวในบ้าน ถูกความชื้นจากฝนทำให้บวมเป็นอย่างมาก เขาจึงเปิดประตูทิ้งไว้ แล้วนำผ้าม่านมากั้นแทน ผ่านไป 3 วัน ไม้ที่บวมแห้งไปเอง จึงทาโพลียูรีเทน หรือแลคเกอร์แทนการใช้เครื่องเจียร เพราะอาการบวมของประตูมีมากเกินไป หากใช้เครื่องเจียรอาจทำให้มีช่องว่างสูง
มีด้วยกัน 2 วิธีคือ นำขอบคิ้วไม้ที่มีสีเหมือนกันมาวางขอบเสริมประตู เพื่อปิดช่องว่าง สามารถรื้อถอดได้ง่ายหากไม้ดังกล่าวมีการขยายตัวในฤดูอื่นๆ อีกวิธีคือ ทำวงกบประตูขึ้นมาอีกชั้น แต่ควรเผื่อพื้นที่เอาไว้เวลาไม้บวมขึ้นมา อาจทำไว้ชั่วคราวให้สามารถถอดออกง่ายได้เช่นกัน ตัวอย่าง นายอาร์ มีประตูไม้แดงบานเดียวหน้าบ้าน เมื่อฤดูร้อนผ่านมา เนื้อไม้จึงหดตัวลง เขาได้ทำการเพิ่มวงกบอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้ไม่มีช่องว่าง และป้องกันอันตรายที่เข้ามาจากหน้าบ้าน
ทั้งหมดคือเคล็ดลับการเลือกและดูแลประตูไม้ให้เหมาะกับสภาพอากาศและการตกแต่งของบ้าน ช่วยให้บานประตูมีอายุการใช้งานยืนยาว แก้ไขปัญหาในเรื่องของการหด หรือขยายตัวของเนื้อไม้ได้อย่างถูกต้อง