“หลังคา” เป็นองค์ประกอบของบ้านที่จะช่วยคุ้มครองบ้านเราให้ปลอดภัยจากแดด ลมและฝน ให้เราได้อยู่อย่างสุขสบายปลอดภัย ไม่ร้อน ไม่หนาว แต่หากได้ผู้รับเหมาหรือช่างที่ก่อสร้างไม่ดี หลังคาจะกลายเป็นจุดที่มักเกิดปัญหารั่วซึมลงมาอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อน้ำรั่วเข้าบ้านเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ พื้นไม้สวยๆ ก็อาจจะเสียหายและพังได้ แย่หน่อยอาจจะถึงขั้นฝ้าเพดานถล่มลงมาได้เลยนะครับ หลังคาจึงเป็นจุดที่ท่านเจ้าของบ้านควรให้ความสำคัญและต้องเข้าไปดูตั้งแต่กระบวนการก่อสร้างเลยทีเดียว เพราะถ้ารอไปตรวจตอนเสร็จแล้ว กว่าจะรอให้ฝนตกแล้วรู้ตัวตอนนั้นอาจจะสายไปแล้วก็ได้ Baania มีแนวทางการตรวจวัสดุหลังคามาให้ลองทำตามกันนะครับ
ก่อนการเลือกวัสดุมุงหลังคา ควรตรวจสอบกับทางผู้ผลิตหรือจากคู่มือว่า วัสดุมุงหลังคาดังกล่าวมีขนาด ระยะแปหรือระแนง และ องศาความลาดชันของหลังคาที่สามารถติดตั้งได้เท่าใด แล้วตรวจสอบกับแบบก่อสร้างว่าแบบเขียนถูกต้องกับสเปคของวัสดุมุงหลังคาหรือไม่ บางท่านอาจจะอยากได้หลังคาแบนๆ แต่วัสดุมุงหลังคาบางประเภทมีความเอียงขั้นต่ำอยู่ซึ่งอาจจะทำให้มุงไม่ได้ครับ
เมื่อได้วัสดุมุงหลังคามาแล้ว ควรตรวจสอบว่าแต่ละแผ่นมีรอยแตกร้าวหรือหักตามมุมมาจากโรงงานหรือจากร้านค้าหรือไม่ ถ้ามีจำนวนมากต้องสั่งเปลี่ยน หรือคัดทิ้งเพื่อใช้เฉพาะแผ่นที่คุณภาพสมบูรณ์ เพราะรอยแตกเล็กๆ จะเป็นจุดที่น้ำจะซึมเข้าได้
2. ตรวจสอบการเตรียมโครงหลังคา
ขั้นตอนนี้ท่านเจ้าของบ้านอาจจะไม่ถึงขั้นต้องปีนขึ้นไปดูบนหลังคา แต่ให้ตรวจสอบด้วยการประมาณด้วยสายตาในเรื่องการโครงหลังคาก่อนจะปู ว่ามีการวางจันทัน แป โดยที่เว้นระยะห่างกันอย่างเรียบร้อยและมีการเอียงองศาที่ถูกต้องแบบหรือไม่ ซึ่งอาจจะขอให้ช่างลองทาบวัดองศาดูก็ได้ครับ และโครงหลังคาต้องมีระยะยื่นชายคาห่างจากผนังอาคารตามแบบ ทั้งนี้ควรมีระยะยื่นเพียงพอเพียงป้องกันฝนสาด
3. ตรวจสอบระหว่างการปูหลังคา
การเตรียมเอาวัสดุมุงหลังคาขึ้นไปวางบนหลังคาก่อนปู ต้องกระจายน้ำหนักของวัสดุเพื่อไม่ให้โครงหลังคารับน้ำหนักมากเกินไป และเสี่ยงต่อการร่วงหล่นเนื่องจากมีการซ้อนชั้นกันมากเกินไป ระหว่างการปูช่างต้องเดินบนโครงสร้างเหล็กในบริเวณที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ (บริเวณใกล้กับเสาและคาน) ยกเว้นแต่จะจำเป็นต้องเดินเหยียบกระเบื้อง เพื่อป้องกันกระเบื้องที่อาจเสียหายได้ และในขณะที่ปูให้ตรวจดูว่าช่างวางวัสดุมุงหลังคาแบบวางสลับกัน โดยที่รอยต่อที่วัสดุมุงด้านข้างต้องสลับกันในแต่ละชั้นเพื่อไม่ให้หลังคารั่วจากรอยต่อที่วางผิด
ส่วนการวางปูนทรายเพื่อวางครอบสันหลังคา ใช้การมองดูว่ามีการเก็บงานและวางครอบหลังคาได้ระดับเท่ากัน หลังจากนั้นต้องมีเก็บรายละเอียดปูนส่วนเกินออกและมีการทำความสะอาด ถ้าต้องการให้หลังคาดูสวย ควรมีการทาสียาแนวด้วย
4. ตรวจความเรียบร้อยหลังปูหลังเสร็จ
สำหรับการตรวจจากด้านใต้หลังคา ให้ดูว่าต้องไม่มีแสงลอดเข้ามาใต้หลังคา ส่วนภายนอกให้ดูความเรียบร้อยโดยรวมในการปูวัสดุปูหลังคา เช่น แนววัสดุมุงหลังคาทั้งด้านแนวเชิงชายและด้านขนานปั้นลมได้แนวถูกต้องและซ้อนทับกันสนิท รวมไปถึงองค์ประกอบหลังคาในส่วนอื่นๆ ได้แก่ ปั้นลม เชิงชาย ครอบหลังคา ส่วนในร่องน้ำตะเฆ่รางให้ตรวจดูว่าไม่มีเศษวัสดุและเศษปูนเหลืออยู่ อาจกำชับให้ช่างทำความสะอาดก่อน แล้วจึงค่อยตรวจด้วยการมองดูอีกที
5. ตรวจสอบการรั่วซึม
สุดท้ายเป็นการตรวจสอบการรั่วซึม อาจจะลองใช้สายยางฉีดน้ำ หรือ รอดูตอนฝนตก เพื่อดูว่าจะเกิดรอยรั่ว หรือจุดที่เสี่ยงต่อน้ำเข้าได้ ซึ่งหากเป็นบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงหรือตกแต่งด้วยไม้ภายในบ้าน ควรจ้างรถน้ำให้มาฉีดทดสอบก่อนที่จะถึงขั้นตอนตกแต่งภายใน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
ก็หวังว่าทุกท่านจะได้หลังคาที่สวยงาม ไร้รอยรั่ว และอยู่คู่กับบ้านไปนานๆ นะครับ แล้วอย่าลืมหมั่นตรวจสอบด้วยว่าหลังคาที่ชำรุดหรือไม่ เพราะมีหลายครั้งที่กระเบื้องหลังคาแตก เนื่องจากมีกิ่งไม้หล่นใส่แล้วเราไม่รู้ สุดท้ายคือ อย่าไปซ่อมบ้านหรือมุงหลังคาเอาตอนหน้าฝน ให้ทำก่อนถึงช่วงหน้าฝน เดี๋ยวจะว่าไม่เตือนนะครับ
ส่วนใครที่กำลังจะโอนบ้านใหม่ ลองดูบทความ Checklist ตรวจรับบ้านก่อนโอนได้ที่ลิ้งก์ด้านล่างนี้นะครับ