5 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับที่นอนเพื่อสุขภาพดี
ที่นอนเพื่อสุขภาพคือผลิตภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนคำพูดที่กล่าวว่า “การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด” เพราะว่าที่นอนซึ่งทำให้การนอนหลับ หรือการนอนพักผ่อนนั้นเกิดความสบายมากที่สุด และไม่มีผลเสียต่อสรีระของร่างกายจัดว่าเป็นที่นอนเพื่อสุขภาพได้ทั้งสิ้น เพราะถ้านอนหลับสบาย พักผ่อนเพียงพอ ก็จะมีพลังในการดำเนินชีวิตเพื่อฝ่าพันกับปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญในยามตื่น ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับที่นอนเพื่อสุขภาพว่ามีความพิเศษอย่างไร
1. ที่นอนเพื่อสุขภาพคืออะไร
ที่นอนเพื่อสุขภาพนั้นไม่มีข้อกำหนดตายตัวว่าต้องเป็นที่นอนแบบไหน หรือใช้วัสดุอะไรโดยเฉพาะ เนื่องจากปัญหาสุขภาพของแต่ละคนล้วนแตกต่างกันไป ดังนั้นที่นอนเพื่อสุขภาพคือที่นอนซึ่งสามารถดูแลปัญหาทางสุขภาพได้ระหว่างการนอนหลับนั่นเอง ซึ่งปัญหาต่าง ๆ ที่สามารถช่วยบรรเทา หรือรักษาได้จากการใช้ที่นอนเพื่อสุขภาพยกตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องการนอนกรน การปวดเมื่อยหลัง รวมไปถึงโรคภูมิแพ้เป็นต้น
2. ที่นอนเพื่อสุขภาพที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร
ความชอบในเรื่องที่นอนนั้นแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละคน แต่ในภาพรวมนั้นที่นอนที่ดีควรจะไม่นิ่ม หรือแข็งจนเกินไป เพราะความนิ่มหรือความแข็งของที่นอนส่งผลโดยตรงกับความปวดเมื่อยระหว่างนอนหลับ รวมไปถึงระบบการหายใจในขณะนอนหลับด้วย และที่นอนเพื่อสุขภาพที่ดีต้องมีสรีระของที่นอนซึ่งสามารถรับน้ำหนักของผู้นอนได้อย่างเหมาะสม
3. วัสดุที่นิยมใช้ทำที่นอนเพื่อสุขภาพ
ที่นอนเพื่อสุขภาพนั้นส่วนมากจะทำมาจากวัสดุ 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ฟองน้ำ ใยมะพร้าว ยางพารา รวมไปถึงสปริง ซึ่งการเลือกใช้วัสดุก็แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม ลองมาดูกันว่าวัสดุทั้ง 4 ประเภทนี้มีคุณสมบัติอย่างไร
- ฟองน้ำ
การนำฟองน้ำมาทำที่นอนนั้นจะเป็นการนำฟองน้ำมาผสมกับสารเคมี และอัดให้แข็ง ซึ่งทำให้ที่นอนฟองน้ำนั้นมีความแข็งแรง น้ำหนักเบา ราคาไม่สูง แต่ถ้าใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานที่นอนฟองน้ำจะมีการยุบตัว ซึ่งการยุบตัวนั้นจะเป็นสาเหตุให้เกิดความปวดเมื่อยระหว่างนอนหลับนั่นเอง ดังนั้นเมื่อที่นอนฟองน้ำมีการยุบตัวก็ควรเปลี่ยนที่นอนใหม่
- ใยมะพร้าว
ที่นอนใยมะพร้าว เป็นที่นอนที่ผลิตจากการนำเส้นใยแข็งที่ได้จากกาบมะพร้าวมาผ่านกระบวนการต่าง ๆ จนกลายมาเป็นที่นอนใยมะพร้าว คุณสมบัติเด่นของที่นอนใยมะพร้าวคือมีความแข็ง ยุบตัวยาก ระบายอากาศได้ดี เพราะเส้นใยมีความโปร่ง มีความเป็นมิตรกับธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ชอบนอนบนที่นอนซึ่งมีความแข็ง แต่ข้อเสียของที่นอนใยมะพร้าวคือเมื่อเสื่อมสภาพจนเป็นขุยแล้วจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ
- ที่นอนสปริง
ที่นอนสปริงจัดว่าเป็นที่นอนซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาที่เหมาะสม มีความยืดหยุ่นสูง ไม่สะสมความชื้น สามารถรองรับสรีระของผู้นอนได้เป็นอย่างดี มีความเด้ง น้ำหนักเบา ซึ่งคุณภาพของที่นอนสปริงจะขึ้นอยู่กับตัวสปริงที่ใช้นั่นเอง โดยสปริงที่ใช้ก็มีหลายแบบทำให้มีคุณภาพที่แตกต่างกันไป ทำให้ราคาของที่นอนสปริงจะขึ้นอยู่กับคุณภาพ และจำนวนของสปริงที่ใส่ไว้ภายใน ส่วนข้อเสียของที่นอนสปริงคือถ้าใช้สปริงที่คุณภาพต่ำ สปริงจะยุบตัวแล้วไม่เด้งคืน รวมไปถึงหักได้ง่าย
- ที่นอนยางพารา
ที่นอนยางพาราคือการนำยางพาราแผ่นมาผ่านกระบวนการต่าง ๆ จนกลายเป็นที่นอนขึ้นมา ซึ่งคุณสมบัติเด่นของที่นอนยางพาราคือสามารถรองรับสรีระของผู้นอนได้ดีมาก ไม่นิ่ม หรือแข็งจนเกินไป ไม่ทำให้เกิดความปวดเมื่อย นอนหลับสบาย ซึ่งความหนาของที่นอนยางพาราจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้นอนเป็นสำคัญ ส่วนข้อเสียของที่นอนยางพาราคือเป็นที่นอนซึ่งมีน้ำหนักมาก และมีราคาที่แพง แต่ก็จัดว่าเป็นที่นอนซึ่งมีคุณภาพสมราคา
4. ปัญหาสุขภาพกับที่นอนเพื่อสุขภาพ
การเลือกที่นอนเพื่อสุขภาพให้เหมาะสมกับปัญหาทางด้านสุขภาพต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญนั้นจัดว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าถ้าเลือกใช้ที่นอนเพื่อสุขภาพผิดประเภทจากการช่วยรักษาสุขภาพ จะเป็นการทำลายสุขภาพ ลองมาดูตัวอย่างปัญหาสุขภาพกับการเลือกที่นอนอย่างถูกต้องว่าปัญหาเหล่านี้ควรเลือกที่นอนประเภทไหน
- การนอนกรน
การนอนกรนจัดว่าเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญปัญหาหนึ่ง เพราะการนอนกรนเป็นเรื่องของระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนกรน การเลือกที่นอนเพื่อสุขภาพควรเป็นที่นอนซึ่งไม่อ่อนนุ่มจนเกินไป เพราะถ้านุ่มเกินไปสรีระของผู้นอนจะจมลงไปกับที่นอน ซึ่งจะส่งผลกับระบบทางเดินหายใจ และกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดปัญหาการนอนกรน
- อาการปวดเมื่อยหลัง
อาการปวดหลังนั้นถือว่าเป็นปัญหาที่พบเจอได้บ่อยจากการนอน ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการกระจายน้ำหนักที่ไม่เหมาะสมในระหว่างการนอนนั่นเอง โดยตัวแปรของปัญหานี้นอกจากที่นอนซึ่งไม่เหมาะสมแล้ว อายุ และน้ำหนักก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังขณะนอนได้ด้วย ดังนั้นการเลือกที่นอนสำหรับคนที่มีอายุ และมีน้ำหนักเยอะ ควรเลือกที่นอนซึ่งสามารถกระจายน้ำหนักได้ดี อย่างเช่นผู้สูงอายุควรใช้ที่นอนสปริงที่ไม่นิ่ม หรือแข็งจนเกินไป ส่วนคนที่มีน้ำหนักเยอะควรเลือกที่นอนยางพารา เพราะสามารถกระจายน้ำหนักได้ดี
- อาการภูมิแพ้
หลายคนยังไม่รู้ว่าฝุ่นที่อยู่บนที่นอนนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดภูมิแพ้ เพราะที่นอนนั้นทำความสะอาดได้ยาก ส่วนมากจะทำความสะอาดแค่ผ้าปูที่นอน หมอน และปลอกหมอน ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดที่นอนอย่างสม่ำเสมอก็จะลดสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้
5. วิธีการทำความสะอาดที่นอนแบบง่าย ๆ
การทำความสะอาดที่นอนอย่างถูกต้องนั้นไม่ใช่เพียงแค่การเอาที่นอนไปตากแดด หรือเอาน้ำฉีด การทำความสะอาดที่นอนอย่างถูกต้องเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ใช้แสงแดด และควรทำความสะอาดที่นอนอย่างน้อย 3 เดือนครั้งเพื่อสุขภาพที่ดีในการนอน ลองมาดูว่าการทำความสะอาดที่นอนแบบถูกวิธี และสามารถกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่สะสมอยู่บนที่นอนนั้นมีวิธีการอย่างไร
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการทำความสะอาดที่นอนได้แก่ เครื่องดูดฝุ่น เบกกิ้งโซดา น้ำ กระป๋องฉีดน้ำ ผ้าสะอาด น้ำยาล้างจาน น้ำส้มสายชู เมื่อเตรียมอุปกรณ์ได้ครบแล้วก็ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
- ถอดผ้าปูที่นอนออกให้หมด ให้เหลือแต่ที่นอนเปล่า ถ้าไม่สามารถยกที่นอนออกมาได้สะดวกก็ทำในห้องนอน แต่ถ้ายกออกมาได้ให้ยกมาทำบริเวณกลางแจ้ง
- ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นบนที่นอนออกให้ได้มากที่สุด
- กรณีที่มีคราบเปื้อนสีน้ำตาลบนที่นอน ให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำเย็น แล้วฉีดไปในบริเวณที่มีคราบสกปรก
นำเบกกิ้งโซดาผสมน้ำแล้วฉีดให้ทั่วที่นอน โดยทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง - ดูดฝุ่นบนที่นอนอีกครั้ง
- จากนั้นให้นำที่นอนไปตากแดดให้แห้ง หรือถ้าไม่สามารถยกออกมาได้ก็ให้เปิดผ้าม่าน และหน้าต่างเพื่อให้ที่นอนโดนแสงแดดให้มากที่สุด พอที่นอนแห้งก็จัดที่นอนให้เป็นระเบียบ
จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการทำความสะอาดที่นอนให้ปลอดจากเชื้อโรค และไรฝุ่นด้วยตัวเองไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพียงแค่ต้องใช้เวลาบ้างเท่านั้นเอง ดังนั้นอย่าลืมทำความสะอาดที่นอนบ่อย ๆ เพื่อสุขภาพที่ดี
จากบทความนี้จะเห็นได้ว่าที่นอนเพื่อสุขภาพนั้นไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัว หรือเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยาก เพียงแค่ต้องรู้ว่าที่นอนประเภทต่าง ๆ นั้นมีคุณสมบัติแตกต่างกัน และเลือกใช้ที่นอนให้เหมาะสมกับสรีระ หรือปัญหาสุขภาพที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนอนกรน ปวดหลัง หรือภูมิแพ้ เพียงแค่นี้ที่นอนธรรมดาก็จะกลายเป็นที่นอนเพื่อสุขภาพได้ทันที