เผลอแป๊บเดียวก็จะเข้าสู่ช่วงปลายปีกันแล้วนะคะ และแน่นอนว่าหลายๆคนคงมีแพลนที่จะต่อเติมเสริมแต่งที่อยู่อาศัยหรืออาคาร ต่างๆที่คุณเป็นเจ้าของเพื่อต้อนรับปีใหม่ และการทาสีบ้านเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยค่ะ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ และความสวยงามของตัวบ้านหรืออาคารได้อย่างชัดเจน เคล็ดลับที่ Baania นำมาฝากในวันนี้เป็นเคล็ดลับที่รับรองว่า จะช่วยทำให้ การทาสีบ้านหรืออาคารของคุณง่ายขึ้นค่ะ รวมไปถึงการคำนวณงบประมาณในการเลืกกสีทาบ้านที่จะสามารถช่วยให้คุณจัดการค่าใช้จ่าย ได้อย่างแม่นยำ มีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย!
60-30-10
แหล่งที่มา: http://www.infinitydesign.in.th
เริ่มด้วยการจัดสัดส่วนแบบ 60-30-10 นั่นคือการเลือกใช้สีหลัก 60% สำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่ ต่อด้วยไฮไลท์อีกด้านนึง 30% ด้วยสี ที่เข้มหรือสดกว่า และอีก 10% ที่เหลือคือการใช้อุปกรณ์เสริมตกแต่งเช่น ขอบคิ้วบัว หน้าต่าง และอื่นๆ ที่มีสีสันแตกต่างจากสองสี ที่ใช้ไป เคล็ดลับนี้ถูกใช้อย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ โดยการทาสีแบบนี้จะทำให้พื้นที่ของคุณไม่ดูหนาแน่นจนเกินไปค่ะ
สีของหลังคา
แหล่งที่มา: กองบรรณาธิการ
ข้อต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือสีหลังคาที่มากับตัวอาคารหรือตัวบ้าน ที่มักจะถูกกำหนดสีของหลังคามาก่อนแล้ว หากคุณมีสีที่ชอบ อยู่แล้วในใจควรคำนึงด้วยว่าสีนั้นจะเป็นอย่างไรเมื่อใช้กับสีของหลังคาที่ถูกกำหนดมา เนื่องจากหลังคาเป็นพื้นที่ที่ถือว่าเด่นชัดที่ สุดค่ะ รวมไปถึงสำรวจการใช้วัสดุตกแต่งอื่นๆที่เข้ากันในการก่อสร้างเช่น อิฐ กระเบื้อง ไม้ ว่าสามารถเข้ากับสีในใจที่คุณต้องการหรือไม่
การรับแสง
แหล่งที่มา: กองบรรณาธิการ
อาจจะมีหลายครั้งที่เมื่อเราเลือกสีมาทาในพื้นที่จริงแล้วไม่ตรงตามแบบที่เราคิด การใช้แสงถือว่าเป็นเทคนิคที่ไม่ควรลืมเช่นกัน นะคะ เพราะสีเดียวกันหากเรานำไปทาในห้องที่มีการรับแสงที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแสงธรรมชาติจากดวงอาทิตย์หรือแสงของ หลอดไฟ สิ่งที่เรามองเห็นจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงค่ะ เมื่อคุณเลือกสีควรเลือกดูตัวอย่างที่มีการเข้าถึงของแสงที่ใช้จริงเพื่อ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ป้องกันความคลาดเคลื่อนของสีได้อย่างดีที่สุดค่ะ
ผลลัพธ์ของสี
แหล่งที่มา: กองบรรณาธิการ
ต้องขอบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ หากผลลัพธ์ของสีที่ได้ออกมาไม่ใช่แบบที่คิด เพราะวิธีดูผลที่ถูกต้องคือ รอดูสีอีกครั้งเมื่อ แห้งสนิท และทาทับให้ครบจำนวนรอบที่คุณกำหนดไว้ และการผสมน้ำในสีก็มีผลมากๆเช่นกันค่ะ ถ้าหากสีมีความเจือจางสีจะ ไม่ขึ้นตัว และทำให้สีใหม่ที่กำลังทากลบสีเดิมของผนังไม่ได้ เพราะฉะนั้นควรผสมน้ำแต่พอควรเท่านั้นนะคะ ข้อสำคัญคือต้องทาสี ให้ครบเที่ยวที่วางแผนไว้ ซึ่งมืออาชีพส่วนมากจะแนะนำให้ทาสองครั้งหลังจากการทารองพื้น ขอแนะนำเพิ่มเติมว่าหากคุณเลือก ใช้เฉดสีเข้ม อาจจะต้องใช้สีที่มีค่าอ่อนกว่า 1 เฉดทาเป็นสีพื้นหลังเพื่อที่สีเข้มจะได้ขึ้นสีชัดเจนขึ้นค่ะ
ตัดสินใจ
แหล่งที่มา: กองบรรณาธิการ
แต่จะทำอย่างไรหากคุณไม่สามารถเลือกสีโปรดได้? ไม่ยากค่ะ คำแนะนำของเราคือให้คุณถามตัวเองก่อนว่าสีไหนที่คุณไม่ชอบ แล้วค่อยๆตัดตัวเลือกออก ยิ่งถ้าหากคุณมีพัดที่มีสีอยู่มากกว่าพันสีอยู่ในมือ ยิ่งจะทำให้เป็นการยากที่คุณจะตัดสินใจได้ เพราะฉะนั้นการตัดตัวเลือกที่ไม่ใช่ออกไปก่อนจะช่วยทำให้คุณสามารถโฟกัสกับสีที่ถูกใจได้ง่ายขึ้นค่ะ หากคุณยังประสบปัญหา ในการเลือกสี Baania ขอแนะนำให้คุณปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และที่สำคัญอย่าเลือกสีเพราะความสวยงามเพียง เท่านั้นนะคะ เพราะสีสามารถส่งผลต่อความรู้สึกทางจิตใจและจะเป็นสิ่งที่คงอยู่กับบ้านของคุณ ไปเป็นเวลานาน คุณสามารถปรับ เปลี่ยนความรู้สึกของคุณได้เพียงเลือกสีที่แตกต่างกัน ในแต่ละห้อง และ Baania ขอแนะนำเทรนด์สีตกแต่งที่มาแรงในขณะนี้คือ สีฟ้าหรือสีขาวที่สามารถบ่งบอกได้ถึงแรงบันดาลใจ ความคิดและการตกแต่งแบบผ่อนคลาย, สีเทาหรือเมทัลลิค แสดงออกถึง ความหรูหรา ทันสมัย, สีเอิร์ทโทนแนวต้นไม้และหิน ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ, สีส้มตัดกับสีดำเพิ่มความอบอุ่นและน่าตื่นเต้น และสีพาสเทลทั้งหลายสามารถแสดงได้ถึงความลึกลับแบบอ่อนโยน โรแมนติก
คำนวณงบประมาณ
แหล่งที่มา: กองบรรณาธิการ
ก่อนดำเนินการทาสีบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังใหม่หรือทาสีบ้านเก่าให้ดูใหม่ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณควรรู้คืองบประมาณในการ ปรับปรุงสี โดยเริ่มต้นจากคำนวณพื้นที่ทาสี หากเป็นการทาสีภายนอกให้วัดพื้นที่รอบตัวอาคารหรือบ้านไม่ลบพื้นที่ประตู และหน้าต่าง (หน้ากว้าง x ความสูง รวมกับ ความลึก x ความสูง) หากเป็นภายในใช้วิธีการวัดคือ ความกว้าง x ยาว หรือถ้า หากต้องการทาทั้งภายในและภายนอกจงนำพื้นที่ทั้งหมดมารวมกันค่ะ
เมื่อทราบขนาดแล้ว ขั้นต่อมาคือ คำนวณปริมาณการใช้สีค่ะ สีขนาด 1 แกลลอนจะทาพื้นที่ได้ประมาณ 30 ตารางเมตร และควรคำนึงถึงการทาซ้ำด้วยเช่นกันเพราะการทาสีตัวอาคารหรือบ้านนั้นจะต้องมีการทาซ้ำอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น การทาสีภายนอกที่มีพื้นที่ประมาณ 300 ตารางเมตร หากทารองพื้น 1 ครั้ง จะใช้ปริมาณสี 10 แกลลอน และในการทาสีทับ ต้องทา 2 ครั้ง ใช้ปริมาณสี 20 แกลลอน ส่วนการทาแบบภายในค่ะ สมมติว่าวัดพื้นที่ๆได้ 450 ตารางเมตร ขั้นตอนคือทาสี รองพื้น 1 ครั้ง ปริมาณที่ต้องใช้คือ 15 แกลลอน และทาสีทับอีก 2 ครั้ง รวมเพิ่มอีก 30 แกลลอน
แหล่งที่มา: กองบรรณาธิการ
งบประมาณคร่าวๆจะอยู่บนพื้นฐานของเกรดสีที่คุณเลือกค่ะ ราคาของสีเกรดพรีเมียมมาตรฐาน ใช้ทาภายนอก ทั้งสีจริงรวม สีรองพื้นจะตกอยู่ประมาณ 60 บาท ต่อตารางเมตรค่ะ แต่ถ้าเปนเกรดทั่วไป จะเริ่มต้นจาก 40 บาท ต่อตารางเมตร ส่วนราคาสี ทาภายในหากเป็นเกรดพรีเมียม ราคาสีรวมสีรองพื้นและสีจริงจะอยู่ที่ 55 บาท ต่อตารางเมตร สำหรับเกรดสีทั่วไปจะตกราคา ตารางเมตรละ 35 บาท
หวังว่าเคล็ด(ไม่)ลับที่ Baania นำมาให้คุณในวันนี้จะสามารถช่วยให้คุณได้ไอเดียใหม่ๆในการทาสีบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหลังใหม่หรือหลังปัจจุบันหรือแม้แต่อาคารพาณิชย์ต่างๆนะคะ เรายังมี Checklist 6 ข้อน่ารู้ก่อนลงมือทาสี สำหรับให้คุณได้ดาวน์โหลดติดตัวกันค่ะ เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมให้คุณก่อนการลงมือปฎิบัติจริง หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้กำลังอยู่ในช่วงของการวางแผน หากคุณมีสีที่ชอบอยู่ในใจแล้ว ลงมือเลยค่ะ!
(Download PDF: 6 ข้อน่ารู้ก่อนทาสีบ้าน/อาคาร)
บทความที่เกี่ยวข้อง