"ทุกวันนี้บุ๋มยังชอบไปกลับสลับกันระหว่างระหว่าง LA และเมืองไทยค่ะ คือจะอยู่ LA ประมาณ 2 เดือน อยู่เมืองไทย 3 เดือน สลับกัน เพราะตอนนี้บุ๋มทำธุรกิจอยู่เมืองไทย ก็เลยต้องใช้เวลาอยู่เมืองไทยมากหน่อย" นั่นเป็นประโยคแรกที่ "บุ๋ม-ตรีรัก รักการดี" อดีตนางแบบ- นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่กล่าวกับผม เพื่อเป็นการเริ่มต้นประโยคสนทนา...
ยึดทำเลเป็นที่ตั้ง
เธอเล่าว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณแม่อยากให้กลับมาอยู่เมืองไทย จึงตัดสินใจที่จะซื้อคอนโดส่วนตัวเอาไว้อยู่อาศัยใกล้ๆ บ้านหลังเดิมของครอบครัว เนื่องจากตนเองเป็นสาวโสดที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ประกอบกับบ้านเก่าที่คุณบุ๋มซื้อเอาไว้ให้คุณแม่และน้องชายนั้นไม่มีห้องส่วนตัวสำหรับเธอ
"ทุกวันนี้บุ๋มยังนอนห้องเดียวกับคุณแม่นะคะ ซึ่งให้บุ๋มอยู่แป๊บๆ นี่อยู่ได้ แต่ถ้าจะให้เราอยู่ทุกวันคงไม่สามารถ หรือบางทีบุ๋มก็อยากจะปลีกวิเวกอยู่คนเดียวบ้าง ก็เลยตัดสินใจซื้อคอนโดเอาไว้ที่เมืองไทยด้วย เพราะบุ๋มคุ้นเคยกับการอยู่คนเดียวมานานแล้ว แต่ทางคุณแม่ก็อยากให้บุ๋มอยู่ใกล้ๆ กัน บุ๋มเลยเลือกซื้อคอนโดที่นี่เพราะว่าใกล้บ้านมาก"
คอนโดที่ว่านี้เป็นโครงการของ ดิ อิสสระ ลาดพร้าว ซึ่งห้องพักของเธออยู่บนทำเลที่มองเห็นวิวและบรรยากาศระฟ้าทั่วกรุงเทพบนชั้น 30
"คุณบุ๋ม" เข้ามาอยู่อาศัยในคอนโดสุดหรูแห่งนี้ได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น หลังจากที่เธอตัดสินใจซื้อห้องชุดขนาด 138 ตารางเมตรด้วยราคา 11.2 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการตกแต่งนานถึงหนึ่งปีครึ่ง เพราะช่วงนั้นเธอใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่ ทิ้งช่วงไปนานกว่าจะกลับมาดูแลงานออกแบบตกแต่งห้องชุดที่เมืองไทย บนพื้นที่ขนาดใหญ่ในห้องแสนสวยของเธอประกอบไปด้วย ห้องนอนขนาดใหญ่จำนวน 3 ห้องนอน ห้องน้ำ 3 ห้อง โซนห้องรับแขกอีก 1 ห้อง และพื้นที่สำหรับทำครัวไซส์มินิอีกหนึ่งห้อง
"ตอนที่ตัดสินใจจะซื้อบุ๋มยังไม่เคยเห็นห้องจริงเลยนะคะ อาศัยดูภาพจากเว็บไซต์ของเขาแล้วโทรข้ามประเทศคุยกับฝ่ายขายของที่นี่ ฝ่ายขายก็น่ารัก อำนวยความสะดวกทุกอย่าง เขาบอกว่ามีห้องหลุดจำนอง เราก็สนใจทันที เพราะห้องหลุดจำนองจะราคาถูกกว่าราคาปัจจุบัน บุ๋มเลยนัดให้คุณแม่กับน้องชายพาอาจารย์ฮวงจุ้ยมาดูห้อง"
"ที่บุ๋มอยากได้ห้องขนาด 3 ห้องนอน เพราะตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะใช้เป็นห้องแต่งตัวหนึ่งห้อง เราเป็นคนที่มีเสื้อผ้าเยอะ ก็ตามสไตล์ผู้หญิงน่ะค่ะ อยากมีห้องเก็บของแต่งตัวเยอะๆ แล้วพอดีว่าห้องนี้เป็นห้องมุมพอดี วิวสวย ฮวงจุ้ยดี มองลงไปข้างล่างเห็นสระว่ายน้ำ ดวงบุ๋มต้องอยู่ใกล้น้ำ เพราะเกิดเดือนไฟ ใจร้อน"
"พอเช็คกับอาจารย์ที่มาดูให้ก็บอกตรงนี้แหละ ถูกโฉลกกับดวงเรา บุ๋มก็วางมัดจำเลยค่ะ สรุปว่าซื้อได้ในราคาเริ่มต้นเมื่อเปิดโครงการ ถือว่าราคาที่ดีมาก แล้วโชคดีที่คอนโดนี้มันใกล้บ้านคุณแม่ เพราะบุ๋มไม่ชอบรถติด ไม่อยากใช้ชีวิตบนท้องถนน บุ๋มคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่ LA แล้ว แม้ว่าเป็นเมืองใหญ่ รถจะติด แต่ยังมีทางให้เราซิกแซ็กได้ เวลานัดเจอใคร จะขอใกล้บ้านก่อน มันเดินทางไม่ไหว"
น้อย...แต่มากรายละเอียดและความรู้สึก
เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา อันดับแรกเราจะเจอกับห้องนอนแขกที่เจ้าของห้องคนสวยตกแต่งไว้อย่างเรียบโก้ในสไตล์ "Less Is More" มีเตียงนอนขนาดควีนไซส์สองเตียง ทุกส่วนของห้องจะเน้นพื้นที่เก็บของจำนวนมาก โดยห้องนี้คุณบุ๋มบอกกับเราว่าเธอจัดไว้รองรับเพื่อนฝูงคนสนิทที่มาพบปะสังสรรค์เฮฮากันตลอดทั้งคืน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีกลุ่มเพื่อนสาวสมัยมหาวิทยาลัยมาเยี่ยมเยือนกันสองสามครั้ง
ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ครัว มีตู้เย็นทรงวินเทจสีส้มจัดยี่ห้อดังขนาดใหญ่เป็นพระเอกของห้อง ปกติคุณบุ๋มจะไม่ได้ใช้พื้นที่ทำอาหารรับประทานเองสักเท่าไร เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ทำอาหารในห้องครัวก็จะมีหลักๆ อยู่ไม่กี่ชิ้น แต่เรียกได้ว่าครบถ้วนเต็มอารมณ์ห้องครัว ทั้งที่ดูดควัน ไมโครเวฟ และเตาไฟฟ้า ผนังอีกมุม รวมถึงพื้นครัวก็ปูทับด้วยหินอ่อนลายหรู
ภายในห้องรับแขกถูกแบ่งออกเป็นสองโซน โซนแรกคุณบุ๋มแบ่งพื้นที่ไว้วางโต๊ะรับประทานอาหารตัวยาวที่ทำจากไม้ ส่วนโคมไฟสี copper ทั้งสี่โคมที่ติดตั้งเหนือโต๊ะนั้นเธอและสถาปนิกคู่ใจช่วยกันไปเดินหามาเติมสีสันให้กับบริเวณนี้ ส่วนโซนถัดไปก็จะเป็นเคาน์เตอร์วางโทรทัศน์และเครื่องเสียง พร้อมของแต่งบ้าน ขาดไม่ได้คือโซฟาตัวโปรดที่ให้บรรยากาศสไตล์สแกนดิเนเวียยุค 50’s-70’s
"เมื่อ 2 ปีที่แล้วสี copper กำลังมาแรงค่ะ บุ๋มเลยเลือกมาแต่งห้อง เก้าอี้ที่นั่งก็สั่งทำให้แมตช์กับขาที่เป็น copper บุ๋มจะเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบที่ไม่เชยเร็ว พยายามเลือกเรียบๆ เท่ๆ คือไม่เอาต์ไปกับกาลเวลา แต่ยังไงด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงก็ต้องขอมีสีสดๆ บ้างเอาไว้ให้เป็นจุดเด่นของห้อง"
ความสุขบนชั้น 30
ระหว่างทางเดินไปยังห้องนอน คุณบุ๋มนำภาพถ่ายเซ็กซี่ช่วงที่เธอถ่ายแบบมาประดับไว้เป็นแกลลอรี่เล็กๆ เพื่อไม่ให้ผนังดูโล่งเกินไปนัก ก่อนที่จะพบกับรูปถ่ายชุดว่ายน้ำขนาดใหญ่ของเจ้าของติดอยู่ที่ปลายทางเดิน สิ่งที่สังเกตได้อย่างหนึ่งในบ้านของสาวสวยคนนี้คือหลายๆ มุมในทุกๆ ห้องจะถูกประดับไปด้วยเครื่องปะดับที่ทำมาจากวัสดุประเภทคริสตัล เทียนหอม และดอกไม้ที่เธอชื่นชอบ เธอให้เหตุผลว่าทั้งสามสิ่งนี้เป็นความชอบส่วนตัวที่จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้
"แสงเทียนมันโรแมนติกค่ะ แล้วมันยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย เวลาเดินผ่านแล้วชื่นใจ โดยเฉพาะตอนกลางคืน ที่นี่วิวสวยมาก นั่งมองวิวกรุงเทพ มีกลิ่นหอมของเทียนที่เราชอบ มีดอกไม้สวยๆ ช่วยสร้างบรรยากาศ อยู่ตรงนี้มีความสุขมากเลย"
เมื่อก้าวเข้ามายังห้องนอน โต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยไฟ LED เล็กๆ รอบกระจกบานสวยที่เธอสั่งทำมาเป็นพิเศษ ดูจะสะดุดตาเราเป็นสิ่งแรก กระจกบานนี้ถูกออกแบบมาให้เข้ากับกระจกบานอื่นๆ รอบๆ ห้อง ห้องถัดไปเป็นห้องแต่งตัว ห้องเก็บเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ดัดแปลงมาจากห้องนอนเดิม เพื่อเพิ่มขนาดพื้นที่ให้กับของรักของหวงหลากประเภท
เธอให้โจทย์กับผู้ออกแบบไปว่าต้องการตู้เสื้อผ้าที่ให้อารมณ์เหมือนกำลังช็อปปิงอยู่ในช็อปหรูๆ ราวเก็บเสื้อผ้าของเธอจึงไร้บานปิด แต่จะเน้นลิ้นชักหลายช่องเพื่อเก็บเครื่องประดับ ชุดชั้นใน และข้าวของกระจุกกระจิกแทน
"บ้านคือความอบอุ่นคือครอบครัว สำหรับบุ๋มแล้วไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือคอนโด ความรู้สึกของบุ๋มเหมือนกันหมดค่ะ" เธอให้นิยามคำว่าบ้านกับผมไว้เป็นประโยคสุดท้ายก่อนจากกันในเย็นวันนั้น…
เรื่อง: ชวลิต อรุณทัต
ภาพ: ชัยธัช ศิรประภาชัย
บทความแนะนำ