บ้านหลังที่สองของนักออกแบบ
ผมเชื่อว่าหลายคนคงคาดไม่ถึงว่า ต้นซอยทองหล่อจะมีโฮมออฟฟิศที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของบ้านเก่าโครงสวย และสวนพรรณไม้ร่มรื่นกับต้นไม่ใหญ่อายุนับสิบๆ ปีรายล้อมอยู่ในอาณาเขตของบ้านพักและสถานที่ทำงานเหมือนเช่น โฮมออฟฟิศแสนเก๋ของ "แหวว - ลลิดา ลีละยูวะ" เซเลบริตี้อินทีเรียสาวมากฝีมือที่เคยฝากผลงานการออกแบบตกแต่งบ้านคนดังในหลากหลายวงการมาแล้วมากมาย อาทิ พัชราภา ไชยเชื้อ, ยูกิ ศรีกาญจนา และสุริยน ศรีอรทัยกุล ฯลฯ ซึ่งเธอคนนี้ยังเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบตกแต่งและรับเหมาก่อสร้างที่กำลังมาแรงอย่าง Lalida & Co. อีกด้วย
"ตอนนี้งานหลักแหววคือบริษัทอินทีเรียชื่อ ลลิดา แอนด์ โค ตอนนี้เราทำออกแบบสถาปัตย์ภายนอก – ภายใน แล้วก็ Turnkey Solution รับเหมาจนงานจบด้วยค่ะ พอเราย้ายออฟฟิศมาอยู่ที่ทองหล่อ ที่นี่เลยเหมือนเป็น Second Home ถ้าวันไหนทำงานดึกก็จะนอนอยู่ที่นี่เลย เพราะว่าชั้นบนเรามีห้องนอนด้วย"
เนื่องจากตัวอาคารเดิมเคยเป็นบ้านเก่ามาก่อน การรีโนเวทโดยใช้เวลาเพียงแรมเดือนนั้นถือว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก ก่อนที่คุณแหววจะเข้ามาปรับปรุงพื้นที่ 1 ไร่นี้ให้เป็นโฮมออฟฟิศแสนสวย อาคารเดิมประกอบไปด้วยโครงสร้างของบ้านปูนยุค 60 – 70 ต่างขนาด 3 หลัง เธอใช้บ้านหลังใหญ่สุดทำเป็นสำนักงาน ส่วนอีก 2 หลัง จะเป็น Next Project ที่เจ้าของบ้านขออุบไว้ก่อน
ด้วยโครงสร้างเดิมที่มีลักษณะเป็นแบบปิดทั่วทั้งหลัง แต่คุณแหววต้องการเปลี่ยนให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งสบายผ่อนคลายมากขึ้น และเห็นสามารถมองเห็นต้นไม้ใหญ่พร้อมศาลากลางสวนแบรนด์ Gavanii + Yotaka อินทีเรียสาวเลยไม่ลังเลที่บอกให้ช่างทุบตัวตึกเหลือเพียงเสาโครงหลักเท่านั้น จากนั้นเธอจึงออกแบบเลย์เอาท์ตามความต้องการ เน้นการเพิ่มช่องแสง Daylight ส่องเข้ามาในออฟฟิศให้มากที่สุด
ผู้หญิงเก่งนักสะสมงานศิลปะ
เมื่อก้าวเข้ามาในบริษัท Lalida & Co จุดแรกก็จะเห็นบริเวณ Reception Area ที่มีภาพเขียนของศิลปินไทยและต่างประเทศตกแต่งอยู่รอบผนังซึ่งถูกคุมโทนด้วยสีน้ำเงิน- ทองทุกด้าน ขณะที่เก้าอี้ "La Chaise" ของ Eames ก็ถูกวางเด่นเป็นพระเอกอยู่หน้าห้อง คอนเซปต์ของห้องรับแขกนี้คือการที่คุณแหววอยากให้ผู้มาเยือนทุกคนรู้สึก Chill out เหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่บ้าน
เดินถัดไปอีกนิดทางด้านซ้ายมือก็จะพบกับห้องประชุม 14 ที่นั่ง ซึ่งมีเก้าอี้ Lounge Chair ของ Alex Sander Mendini วางเรียงรายอยู่รอบๆ ส่วนผนังของห้องประชุมถูกออกแบบให้เป็นกระจกใสตัดกับขอบอลูมิเนียมสีดำตลอดแนวรอบด้าน มองเห็นพื้นที่สีเขียวด้านนอกเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดจากการประชุม ห้องนี้คุณแหววติดตั้งภาพเขียนขนาดใหญ่ของศิลปินไทยชื่อดัง พิสิษฐ์ พันธ์เทียน ไว้ พร้อมนำต้นเฟิร์นสีเขียวสดมาประดับเหนือโคมไฟบนโต๊ะยาวสร้างความรู้สึกอบอุ่นของห้องได้อย่างลงตัว
“หากทุกคนสามารถสื่อสารและแชร์ความคิดกันได้
ก็น่าจะทำให้การงานลื่นไหลและมีชีวิตชีวามากขึ้น”
เมื่อเปิดประตูกระจกบานใหญ่ของห้องประชุมออกไปอีกด้านก็จะพบห้องทำงานของพนักงานในบริษัท และแม้ว่าจะเป็นห้องที่มีคนใช้งานจำนวนมาก แต่กลับดูโล่งสบายตา ไม่มีความรู้สึกอึดอัดเหมือนออฟฟิศทั่วๆไป เพราะนอกจากจะเพดานห้องจะถูกยกสูงกว่าปกติแล้ว ผนังสีขาวสะอาดตายังมีกระจกใสที่ช่วยเปิดรับแสงให้เข้าสู่ภายในห้องได้ตลอดทั้งวัน
ที่น่าสนใจที่สุดก็คือโต๊ะทำงานของทุกคนจะไม่มีฉากหรือผนังใดๆมาขวางกั้นให้อึดอัด เนื่องจากคุณแหววมีความคิดว่าการนั่งทำงานในพื้นที่ปิด ไม่น่าจะเป็นผลดีนัก เธอเชื่อว่าการทำงานที่เป็นทีมเวิร์คเช่นนี้ นอกจากฟังค์ชั่นที่มีทุกอย่างครบแล้ว หากทุกคนสามารถสื่อสารและแชร์ความคิดกันได้ ก็น่าจะทำให้การงานลื่นไหลและมีชีวิตชีวามากขึ้น
เมื่อเดินผ่านห้อง Material Room ที่เจ้าของบ้านใช้เป็นห้องเก็บของวัสดุต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญกับงานดีไซน์ ก็จะพบกับห้องทำงานพาร์ทสำคัญมากของออฟฟิศ นั่นก็คือกลุ่มงานบัญชี ซึ่งห้องนี้คุณแหววได้ออกแบบให้ปิดทึบเนื่องจากพนักงานที่ทำงานในส่วนนี้ จะต้องใช้สมาธิกับการทำงานมากกว่าฝ่ายอื่นๆ ห้องนี้จึงถูกออกแบบให้แยกโซนจากส่วนอื่น ห้องบัญชีจะอยู่ติดกับห้องทำงานของคุณแหววที่มีประตูกระจกเชื่อมถึงกันได้ เนื่องจากพนักงานในส่วนนี้สามารถเดินเข้ามาพูดคุยปรึกษากันเรื่องตัวเลขและเอกสารได้ตลอดเวลา
ในส่วนของห้องทำงานคุณแหววเธอบอกกับเราว่านี่เป็นห้องทำงานในฝัน จากเดิมเคยมีออฟฟิศอยู่บนตึกพื้นที่จำกัด ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักทั้งที่เจ้าตัวเป็นคนที่ชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะ เมื่อย้ายออฟฟิศเข้ามาอยู่ที่นี่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น เธอจึงสามารถตอบโจทย์การตกแต่งของตัวเองมากขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะทำงานกระจก - ไม้ทรงสวยของ Carlo Mollino เก้าอี้ Butterfly Chair สีขาวนั่งสบายของ Marcel Wander เก้าอี้สีชมพูหวาน "Ro Chair" ของ Fritz Hansen ภาพเขียนชิ้นแรกที่เธอเริ่มสะสมของ "อ.ปัญญา วิจินธนสาร" ก็ถูกนำมาตกแต่งอยู่ข้างหลังโต๊ะทำงานตัวโปรดของเธอหลังจากซื้อเก็บมานาน ยังไม่รวมถึงภาพเขียนของ Takashi Murakami ที่อยู่ในห้องน้ำสีสวยทั้งสองห้อง และตุ๊กตาเซรามิคตัวโปรดของ Qu Guangci ที่เธอหอบหิ้วมาจาก Lane Crawford ฮ่องกง
“ถ้าเปรียบแบรนด์นี้เป็นผู้หญิงก็คงเป็นผู้หญิงที่มีรสนิยม
มีความโก้ ขณะเดียวกันกันก็ไม่ได้ฟู่ฟ่าจนฟุ่มเฟือยเกินเหตุ”
งานดีไซน์ร่วมสมัยในแบบของลลิดา
ความน่าสนใจของโฮมออฟฟิศหลังนี้ นอกจากห้องทุกห้องจะเต็มไปด้วยภาพเขียนชิ้นสำคัญของ "อ.ปรีชา เถาทอง" ศิลปินแห่งชาติปี 2552 สาขาทัศนศิลป์ และศิลปินฝีมือดีท่านอื่นๆแล้ว การที่คุณแหววปรับพื้นที่บนชั้นสองให้เป็นสัดส่วนของที่อยู่อาศัยได้ลงตัวอย่างชาญฉลาดก็นับว่าเป็นไอเดียที่ต้องชื่นชมอยู่ไม่น้อย เพราะในช่วงแรกเธอไม่มีความคิดว่าจะพักอาศัยอยู่ในออฟฟิศนี้เลย เนื่องจากคุณแหววเคยคิดมาเสมอว่าออฟฟิศเป็นที่ทำงานไม่ใช่ที่อยู่อาศัย แต่เพราะการทำงานในอาชีพนี้ มีความไม่แน่นอนในเรื่องเวลา จึงตัดสินออกแบบให้พื้นที่ชั้นสองถูกแบ่งออกเป็นห้องนอนใหญ่ และห้องเก็บเสื้อผ้า - เครื่องแต่งตัวที่เธอกำลังตกแต่งอยู่ในขณะนี้
ภายในห้องนอนของคุณแหววตกแต่งด้วยกระจกใสบานใหญ่ที่สามารถดึงแสงสวางเข้ามาจนไม่ต้องเปิดไฟในช่วงกลางวัน เพิ่มลูกเล่นและสีสันของห้องด้วยม่านผ้าสีเขียวสดตัดกับสีทองบนชายผ้าม่านทั้งสองมุมห้อง เตียงนอนสีขาวขนาดใหญ่ที่วางอยู่กลางห้องช่วยทำให้ห้องนอนในโฮมออฟฟิศแห่งนี้เป็นห้องแห่งการพักผ่อน และถูกแยกส่วนออกจากการทำงานอย่างแท้จริง
"แนวทางงานออกแบบของ Lalida & Co. เรียกว่า Art Of Eclecticism เป็นการนำเอางานศิลปะในยุคต่างๆมาทำให้ร่วมสมัยค่ะ จึงเป็น core ของการดีไซน์ออฟฟิศนี้ คือถ้าสังเกตออฟฟิศนี้ไม่ได้ดูโมเดิร์นมาก มีหลายๆ อย่างผสมกัน ยกตัวอย่างตัวโครงสร้างมันเป็นยุค 60 – 70 แต่พอเข้ามาข้างใน มันก็จะมีความเป็นคลาสสิกเพิ่มเข้ามานิดหน่อย เฟอร์นิเจอร์บางตัวดู Contemporary บางชิ้นก็ดูโมเดิร์น คือทุกอย่างจะมีรูปทรงศิลปะของยุคนั้นๆ อยู่ เช่นเดียวกันกับคาแรคเตอร์ของบ้านหลังนี้ จะว่าไปแล้วก็คงเหมือน Lalida & Co ค่ะ ถ้าเปรียบแบรนด์นี้เป็นผู้หญิงก็คงเป็นผู้หญิงที่มีรสนิยม มีความโก้ ขณะเดียวกันกันก็ไม่ได้ฟู่ฟ่าจนฟุ่มเฟือยเกินเหตุ ของแต่ละชิ้นจะบ่งบอกถึงรสนิยมของตัวบ้าน ของทุกชิ้นที่เลือกใช้จะต้องมีดีเทลต่างๆ กันไปค่ะ" คุณแหววอินทีเรียดีไซเนอร์สาวได้กล่าวไว้ในที่สุด
เรื่อง : ชวลิต อรุณทัต
ภาพ : ชัยธัช ศิรประภาชัย
บทความที่เกี่ยวข้อง
[Celebrity Homes] บ้านนี้มีรัก "พลอย-ชิดจันทร์ รุจิพรรณ" คุณแม่คนสวยและรวยมาก
[Celebrity Homes] บ้านหลังใหญ่กับหัวใจดวงเดิมของ "นุชนาถ ระวีแสงสรูย์"
[Celebrity Homes] บ้านและความอบอุ่นของ "บุ๋ม-ตรีรัก รักการดี"