Neighborhood Guide: เมืองเชียงราย
เชียงราย จังหวัดที่อยู่เหนือสุดและเป็นประตูเศรษฐกิจของประเทศไทย หากใครได้มาเยือนเป็นต้องติดอกติดใจ ภูเขาก็สวย อากาศก็ดี ผู้คนเป็นมิตร แถมยังเป็นเมืองแห่งศิลปะที่โด่งดังระดับประเทศ จึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติจะหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
แน่นอนว่าการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยและความต้องการยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม กระจายไปในแต่ละทำเล ซึ่งมีความแตกต่างในแง่การใช้ประโยชน์ของพื้นที่ ผู้อยู่อาศัย ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกันหรืออาจจะคล้ายคลึงกันในบางทำเล Baania จะพาไปทำความรู้จักกับย่านตัวเมืองเชียงราย(สีเขียวอ่อน) รวมถึงย่านเวียงชัย(สีเขียวเข้ม) ที่อาจจะคาบเกี่ยวกับย่านนี้อยู่เล็กน้อย อยากรู้จังว่าอยู่ย่านนี้แล้วการใช้ชีวิตจะเป็นอย่างไรนะ?
ขอบเขตพื้นที่: รีวิวฉบับนี้จะพูดถึง 2 โซนหลักๆ จากแผนที่ด้านบน คือเมืองเชียงราย(สีเขียวอ่อน) และเวียงชัย(สีเขียวเข้ม) มีทั้งหมด 11 ย่านด้วยกัน ได้แก่ ย่านในเมือง, ย่านเกาะทอง-หนองบัว, ย่านสนามบินเก่า, ย่านรอบเวียง, ย่านป่าอ้อดอนชัย, ย่านสันทรายหลวง, ย่านขนส่งใหม่, ย่านหัวดอย, ย่านแม่กรณ์, ย่านดอยสะเกิ้น และย่านเวียงชัย
ที่มาภาพ: www.chiangraiairportthai.com, www.landezine.com, www.navalandchiangrai.wordpress.com
Tags: #สนามบินเก่า #แม่กรณ์ #รอบเวียง #โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ #เซ็นทรัลพลาซาเชียงราย #พ่อขุนเม็งราย #ป่าอ้อดอนไชย #วัดพระแก้ว #โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค #หนองปึ๋ง #สันทรายหลวง #เวียงชัย #ดอยสะเกิ้น #ถนนบายพาสตะวันออก
ภาพรวมของย่าน: ศูนย์กลางความเจริญที่สามารถหลีกหนีความวุ่นวาย
บริบทของทั้ง 2 ย่านดูจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะย่านเมืองเชียงรายหรือจะอาจเรียกได้ว่าย่านใจกลางเมือง จะมีลักษณะของความเป็นสังคมเมือง มีความศิวิไลซ์ คับคั่งไปด้วยรถราและผู้คน เป็นศูนย์กลางการบริหาร ธุรกิจ สถานศึกษา ธนาคาร การบริการ การคมนาคมของจังหวัดเชียงราย มีถนนพหลโยธิน (ถนนสายเอเชีย) พาดผ่านพื้นที่เมือง ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่ใช้เชื่อมต่อในระดับจังหวัด ภูมิภาค และในระดับประเทศ
ส่วนโซนเวียงชัยนั้นจะอยู่ตัดกับโซนเมืองเชียงรายฝั่งทิศตะวันออกของเมือง มีความเป็นชุมชนชานเมือง บรรยากาศสงบ รถราไม่พลุกพล่าน เป็นที่ตั้งของโครงการบ้านจัดสรรหลายโครงการเนื่องจากมีพื้นที่ในการพัฒนาค่อนข้างมาก อีกทั้งมีถนนบายพาส (ถนนวงแหวนฝั่งตะวันออก) ที่เปิดใช้บริการ ทำให้การเดินทางเข้า-ออกตัวเมืองหรือไปยังสนามบินเชียงรายสะดวก
คนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้: คนทำงาน นักเรียน-นักศึกษา นักท่องเที่ยว
โซนเมืองเชียงรายส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ทั้งหน่วยงานราชการ, โรงพยาบาล, โรงเรียน, ห้างสรรพสินค้า, สถานีขนส่งเชียงราย นอกจากคนในพื้นที่ที่มีบ้านอยู่ในย่านนี้แล้วยังมีกลุ่มคนทำงานที่จะต้องเข้ามาทำงานในตัวเมือง นักเรียน นักศึกษาที่มาเข้าโรงเรียนในตัวเมือง รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักในตัวเมือง เพราะสะดวกทั้งการเดินทาง และมีสาธารณูปการที่เข้าถึงได้ง่าย
ส่วนโซนเวียงชัยนั้นเป็นกลุ่มที่รักความสงบ หลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมือง นอกจากคนในพื้นที่ดั้งเดิมแล้วยังมีกลุ่มข้าราชการ นักธุรกิจ รวมถึงกลุ่มลองสเตย์ที่ซื้อบ้านอยู่โซนนี้ เพราะไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เรื่องการเดินทางจึงไม่ใช่อุปสรรคต่อการอยู่อาศัย
สิ่งที่คาดหวังจากย่านนี้: ความสะดวกและการพักผ่อนที่เข้าถึงได้ง่าย
แน่นอนว่าการอยู่อาศัยในเมืองนั้นต้องมาพร้อมกับความสะดวกสบายในทุกด้าน ในเมืองเชียงรายสามารถตอบโจทย์นั้นได้อย่างครบถ้วน เพราะเป็นแหล่งที่ตั้งของสิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทางก็สะดวก ทั้งการเดินเท้า รถส่วนตัว หรือรถโดยสาร แม้บางเวลาที่อยากจะปลีกตัวจากความวุ่นวายเพื่อไปยังแหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะ สนามกีฬา หรือหาร้านอาหารร้านกาแฟนั่งชิลล์ๆ ก็สามารถไปได้โดยง่าย ส่วนคนที่อยู่โซนเวียงชัยนั้น นอกจากบรรยากาศ และอากาศที่ดีที่คุณสามารถสัมผัสได้ในแต่ละวันแล้ว หากคุณต้องการที่จะเข้าสู่ตัวเมืองเพื่อมาทำธุระก็ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
ที่มาภาพ: www.oknation.nationtv.tv/blog/aumboon
การใช้ชีวิตของคนในย่านนี้: โซนเมืองเน้นความสะดวก โซนเวียงชัยเน้นความสงบ
อย่างที่บอกไปว่าบริบทของทั้ง 2 โซนนี้ค่อนข้างแตกต่างกัน คนที่อยู่ในโซนเมืองเชียงรายจะชอบการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการเดินทาง การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่าย แม้ในตัวเมืองจะมีความวุ่นวายทั้งรถราและผู้คน แต่ก็รู้สึกรับได้กับบริบทนี้ ส่วนคนที่อยู่โซนเวียงชัย แน่นอนว่าชื่นชอบการอยู่ในชุมชนที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย ใกล้ชิดธรรมชาติ บรรยากาศสงบ หรือพูดได้ว่าเป็นคน “รักสงบ” นั่นเอง
สิ่งที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับย่านนี้: หอนาฬิกาเปลี่ยนสียามค่ำคืน และสวนน้ำขนาดใหญ่ของเมือง
“ณ ราตรีหนึ่ง ซึ่งยังฝังใจ เชียงรายฟ้าแจ่ม...” บทเพลงเชียงรายรำลึกที่คุณสามารถหาฟังได้จากที่ไหนก็ได้ แต่หากคุณได้มาที่ย่านนี้โปรดอย่าพลาดชมสีสันของหอนาฬิกาเปลี่ยนสีแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนนบรรพปราการ ออกแบบโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เริ่มก่อสร้างแทนหอนาฬิกาเดิมที่มีสภาพทรุดโทรมเมื่อปี พ.ศ. 2549 ทุกๆ วันในเวลา 19.00 น. 20.00 น. และ 21.00 น. จะมีเสียงเพลงดังขึ้นพร้อมทั้งแสงสีที่เปลี่ยนไป จุดประสงค์เพื่อสร้างความสวยงาม อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนา และเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม
ส่วนในโซนเวียงชัยก็ไม่น้อยหน้า มีสวนน้ำนาวาแลนด์ รีสอร์ทขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงรายที่เดินทางได้สะดวกสบาย จากอำเภอเมืองเชียงรายมาทางอำเภอเวียงชัยประมาณ 8 กิโลเมตร มีเครื่องเล่นสไลเดอร์สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ สะดวก สะอาด และทันสมัย พร้อมบริการเครื่องดื่มและอาหารมากมาย
ตลาดที่อยู่อาศัยของย่านนี้: ราคากลางที่อยู่อาศัยต่ำกว่า 5 ล้าน สูงสุดอยู่ที่ย่านขนส่งใหม่
แม้พื้นที่เมืองจะมีขนาดเล็ก มีการกระจุกตัวของความเจริญเฉพาะจุด แต่ยังคงได้รับความสนใจจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อย มีทั้งกลุ่มบ้านจัดสรร ทาวน์โฮม โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่กระจุกตัวอยู่บริเวณแยกแม่กรณ์ ซึ่งใกล้กับห้างสรรพสินค้าและโรงพยาบาล โดยราคาเฉลี่ยต่อหน่วยพื้นที่สำหรับโครงการประเภทคอนโดมีราคาอยู่ที่ 47,000 บาท/ตร.ม. โครงการประเภทบ้านจัดสรรอยู่ที่ 25,000 บาท/ตร.ม. และภาพรวมโครงการในพื้นที่ทั้งหมดมีค่าเฉลี่ยราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ 33,000 บาท
ราคาที่อยู่อาศัยในพื้นที่เมืองเชียงราย ส่วนใหญ่มีราคากลางที่อยู่อาศัย (Median Selling Price) ต่ำกว่า 5 ล้านบาท บริเวณโซนศูนย์กลางเมืองมีราคากลางที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือโซนทิศใต้ บริเวณที่ถัดลงมาจากแยกแม่กรณ์ หากเทียบในระดับย่าน ย่านที่มีราคากลางที่อยู่อาศัยสูงสุดคือ ย่านขนส่งใหม่ (3.06 ล้านบาท) รองลงมาคือย่านสนามบินเก่า (3.05 ล้านบาท) และย่านแม่กรณ์ (3.03 ล้านบาท) ซึ่งบริเวณเมืองเชียงรายที่มีราคากลางที่อยู่อาศัยสูงสุดเป็นพื้นที่ส่วนขยายตัวออกจากย่านในเมืองมาทางทิศใต้
สิ่งที่จะทำให้คุณหลงรักย่านนี้: วิถีชีวิตที่แตกต่างแต่กลมกลืนระหว่างเมืองและชานเมือง
แม้ว่าบริบทของทั้งสองโซนจะแตกต่างกัน แต่ก็ใช่ว่าความเป็นเมืองและชานเมืองจะถูกแบ่งแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง วิถีชีวิตของโซนเมืองเชียงรายอาจจะพบกับผู้คนที่ดูเร่งรีบ แต่การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกง่ายและมีรองรับอย่างครบครัน ส่วนโซนเวียงชัยดูจะเป็นแนววิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์มากกว่า เพราะได้ใกล้ชิดและสัมผัสกับธรรมชาติมากกว่า ทั้งสองโซนถูกเชื่อมโยมด้วยถนนสายบายพาสตะวันออก และถนนพหลโยธิน ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 20 นาที ไม่ว่าจะต้องการใช้ชีวิตแบบมีสีสันภายใต้ความสะดวกต่างๆ ก็สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้ไม่ยาก ในทางกลับกันก็สามารถใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ในบรรยากาศแบบชานเมืองได้ง่ายๆ เช่นกัน
บทความแนะนำ