หากพูดถึงไม้ประดับ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ต้นปาล์มประดับ ไม้ยืนต้น ทรงพุ่มสวย ให้ความเขียวขจี สำหรับคนรักธรรมชาติ ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สามารถหาได้ง่ายตามแหล่งเพาะพันธุ์ไม้ทั่วไป Baania จึงขอนำทุกท่านมารู้จักกับ ต้นปาล์มประดับ รับรองเลยว่า เมื่อท่านอ่านบทความนี้จบแล้ว ท่านสามารถเลือกซื้อต้นปาล์มมาปลูกไว้ที่บ้านได้อย่างแน่นอน
เริ่มกันที่การทำความรู้จักกับสายพันธุ์กันเสียก่อน มาดูกันสิว่ามีสายพันธุ์อะไรกันบ้างที่ผู้คนมักนิยมนำไปตกแต่งบ้าน
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Normanbya normanbyi. ลำต้นอวบ ใบย่อยจะเป็นพวงแผ่ออกทุกทิศทาง สูงได้ถึง 20 เมตร แต่ความสูงที่กำลังดี คือ 2 - 5 เมตร และเมื่อผลสุกจะให้สีแดง
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Phoenix sylvestri. ไม้ใหญ่ยืนต้น ความสูงที่เหมาะสมคือ 4 - 5 เมตร มักจะพบเห็นได้ในโครงการบ้านจัดสรร เพราะให้ความสวยงาม และดูมีราคา
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Hyophorbe ' Cherry. ปาล์มลูกผสม เหมาะกับการปลูกโชว์ลำต้นเป็นกลุ่มในพื้นที่กว้าง ๆ
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Hyophorbe lagenicaulis. เหมาะกับการเลี้ยงในกระถาง เพื่อโชว์ทรวดทรงที่สวยงาม
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Elaeis guineensis. ปาล์มลำต้นขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 20 เมตร เหมาะกับปลูกพื้นกว้าง กลางแจ้ง
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Washingtonia robusta. เป็นปาล์มที่กำลังได้รับความนิยม เหมาะกับปลูกเรียงเป็นแถว
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Coccothrinax crinita. ปาล์มต้นเล็ก ที่ราคาค่อนข้างแพง เพราะต้นโตช้า
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Copernicia macroglossa. ปาล์มต้นเล็ก ปลูกลงกระถางได้เมื่อต้นเล็ก และค่อยย้ายลงดินเมื่อโต
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Carpentaria acuminate. ปาล์มโตเร็ว เลี้ยงง่าย สูงประมาณ 2 - 4 เมตร และทนน้ำท่วมได้ดี
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Livistona chinesis. เหมาะกับการปลูกลงพื้นที่กว้าง ลำต้น และใบลู่ลมได้ดี
ปาล์มประดับทั้ง 10 สายพันธุ์ ที่ได้หยิบยกมาฝากแก่ผู้อ่านนั้น ล้วนมีลักษณะ และพื้นที่ในการปลูกแตกต่างกันออกไป บางต้นปลูกได้ในกระถาง และย้ายไปปลูกลงดินเมื่อโต บางต้นกลับต้องการพื้นที่กว้าง เพื่อรองรับการแผ่ขยายของลำต้น และกิ่งใบ
มาต่อกันที่การปลูกต้นปาล์มประดับภายในบ้าน ให้ดูสง่า สวยงาม เปลี่ยนโฉมบ้านให้ดูธรรมชาติ
1. เลือกสายพันธุ์ให้ตรงตามความต้องการ และเหมาะกับขนาดพื้นที่บ้าน ซึ่งท่านควรเดินทางไปเลือกพันธุ์ที่แหล่งจำหน่ายด้วยตนเอง เพราะจะช่วยให้ท่านได้เห็นต้นที่แท้จริง และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ
2. นำพันธุ์ที่ได้มาปลูกลงกระถาง หรือบนพื้นดิน หากปลูกบนดินควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 3 เมตร เพื่อช่วยในการแผ่ขยายของราก และลำต้น
3. การวางแนว ในกรณีปลูกลงดิน สามารถวางแนวได้เลยไม่มีแบบตายตัว โดยท่านอาจจะปลูกแบบเรียงแถว หรือสลับฟันปลา
4. ควรปลูกในพื้นที่โล่งแจ้ง เพราะปาล์มต้องการแสงแดดอย่างเพียงในการเจริญเติบโต
ดินที่ปลูกควรมีค่า pH ไม่ต่ำกว่า 7 เพราะดินจะเป็นกรด หรือดินเปรี้ยว
5. การรดน้ำและใส่ปุ๋ย ให้ทำเดือนละ 3 ครั้ง หากฝนตกก็อาจจะลดจำนวนลง
6 วิธีดูแลต้นปาล์มให้ลำต้นสวย ใบเขียว ไร้ศัตรูพืชมารบกวน โดยเริ่มกันที่
1. ดิน หากปลูกปาล์มลงในดินที่มีค่า pH ต่ำกว่า 7 ให้ทำการแก้ไขโดยใช้ปูนขาว ไดโลไมท์ เปลือกหอย ขี้เถ้า เพื่อช่วยลดความเป็นกรดในดิน
2. แสงแดด ปาล์มประดับเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดเพียงพอ ประมาณ 5-6 ชั่วโมงต่อวัน
3. ปริมาณน้ำ ควรมีการติดตั้งสปริงเกอร์ หรือระบบหยดน้ำ เป็นตัวช่วยในการรดน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากประเทศไทยมีช่วงฤดูแล้งที่ค่อนข้างยาวนานประมาณ 3-5 เดือน
4. การใส่ปุ๋ย ซึ่งปริมาณการใส่ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ สำหรับปาล์มน้ำมันที่เป็นทั้งพืชเศรษฐกิจ และไม้ประดับ จะมีอัตราการใส่ปุ๋ยในช่วงปีแรกประมาณ 5 กิโลกรัมต่อต้น และเมื่อปาล์มผลิตน้ำมันแล้วในปีถัดไปปริมาณปุ๋ยก็จะเพิ่มขึ้นประมาณ 1 เท่าตัว สำหรับปาล์มชนิดอื่นปริมาณการใส่ปุ๋ยจะไม่สูงเทียบเท่าปาล์มน้ำมัน
5. การวางกองทางใบ คือ การนำใบปาล์มที่แห้ง หรือเหี่ยวมาวางกองบริเวณโคนต้น เพื่อช่วยรักษาระดับความชื้น แต่หากไม่มี ก็สามารถนำขี้เลื่อย แกรบ กาบมะพร้าว หรือเศษฟางมาปิดคลุมแทน
6. การกำจัดศัตรูพืช ซึ่งต้องอาศัยการสังเกตของท่าน ในช่วงที่ท่านรดน้ำ หรือใส่ปุ๋ย และถ้าให้ดีทุกเดือนท่านควรจะเดินมาสังเกต และหากพบศัตรูพืช ให้ทำการฉีดพ่นด้วยสารเคมี
ทั้ง 6 วิธีจะช่วยในการดูแลรักษาต้นปาล์มน้ำมัน ให้คงความสวยงาม พร้อมกับใบเรียวยาวที่คงความเขียวขจี และลำต้นที่แข็งแรง ไม่มีโรคมารบกวน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ ต้นปาล์มประดับ ที่ไม่ได้มีดีแค่ตกแต่งบ้านเพียงเท่านั้น บางพันธุ์ยังสามารถนำผลไปจำหน่ายได้อีกด้วย และหากท่านลองนำไปปลูกแล้ว ปาล์มประดับสามารถเจริญเติบโตได้ดี ไม่มีแมลงมารบกวน ก็สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ เพราะในปัจจุบันหลายท่านนิยมหันมาปลูกปาล์มประดับกันอย่างแพร่หลาย
ที่มาภาพประกอบ :