ชีวิตวัยเยาว์ของผมบ้านเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกแตกต่างไปจากเพื่อนและคนทั่วไป เพราะครอบครัวเราอาศัยในตึกแถวใกล้ตลาด สภาพบ้านจึงต่างไปจากบ้านทั่วไปและบ้านในตำราสถาปัตย์ที่สอนกันในมหาวิทยาลัย
กว่าครอบครัวเราจะมีบ้านแบบคนอื่นเขาก็เป็นตอนที่ผมเรียนจบชั้นมัธยม นั่นหมายความว่าผมเลยไม่ได้อยู่ เพราะต้องเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ (ฮา)
ในตอนนั้นพวกเราเรียกขานบ้านหลังนี้ว่าบ้านสวนหรือบ้านห้วยแก้ว เพราะแม่ปลูกบ้านหลังนี้ในที่ดินซื้อไว้ที่ถนนห้วยแก้ว ซึ่งผมเคยเล่าให้ฟังว่าเป็นสวนสวรรค์ (เล็กๆ) สำหรับพวกเรา
ผมเดาว่าแม่ไม่ได้ปลูกบ้านทันทีหลังจากซื้อที่ดิน ด้วยเหตุผลส่วนครอบครัวคือยังไม่พร้อมด้านทุนทรัพย์ เพราะตอนนั้นพวกเราทุกคนยังต้องใช้เงินเพราะกำลังเรียนหนังสือกันอยู่ และด้วยเหตุผลส่วนบ้านเมือง คือข่าวว่าที่ดินเราอยู่ในเขตที่จะถูกเวนคืนเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เมื่อเรื่องเวนคืนที่ดินเงียบหายไป เมื่อแม่รวบรวมเงินได้มากพอ และเมื่อพี่ชายผมเรียนจบสถาปัตย์และพร้อมที่จะออกแบบบ้านให้ โครงการก่อสร้างบ้านจึงเริ่มขึ้น พร้อมการจัดสรรงบประมาณไม่เกินสองแสนบาท โดยแม่กำชับพี่ชายห้ามไม่ให้ค่าก่อสร้างบ้านบานปลายโดยเด็ดขาด
ถึงกระนั้นกว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมค่าติดตั้งไฟฟ้า ประปา และระบบอื่นๆ ค่าก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นเป็นสองแสนห้าหมื่นบาท สำหรับบ้านสองชั้น สามห้องนอน สามห้องน้ำ และเรือนบริการที่มีครัว ที่จอดรถ ห้องเก็บของ ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ที่ต่อมาใช้เป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ ห้องนอนแม่ ห้องนอนพี่ชาย หรือห้องนอนผม ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ผ่านมา
ในเวลานั้นยังไม่ค่อยมีใครเห่อบ้านทรงโรมัน ยังไม่มีใครหลงบ้านแบบแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ยังไม่มีใครตามกระแสบ้านคอนเท็มโพรารี่ไทยหรือล้านนาเหมือนในเวลานี้ หากกระแสบ้านแบบโมเดิร์นกำลังเป็นที่นิยม จึงเป็นที่มาของบ้านสวนที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา และที่สำคัญคือราคาไม่แพง
พี่ผมยังเลือกวิธีออกแบบบ้านตามแนวของอาจารย์สันธยา อิศรเสนา ณ อยุธยา ที่เน้นการวางผังบ้านตามทิศทางลม ไม่ใช่ตามที่หมอดูแนะนำ ป้องกันแดดกันฝนเต็มที่โดยการยื่นชายคายาวๆ ไม่กุดสั้นเหมือนบ้านฝรั่งที่คนอยู่ชอบอาบแดดและบ้านเมืองไม่ค่อยมีฝน โครงสร้างเป็นสี่เหลี่ยมง่ายๆ ไม่ใช่คดโค้งเฉไฉให้สร้างยาก คานอาจมีช่วงกว้างยาวกว่าธรรมดานิดหน่อย แต่มีขนาดเท่าๆ กันทั้งหลัง ประตูหน้าต่างรูปเหลี่ยมเปิดกว้างเต็มบานไว้คอยรับลม ไม่ซอยเป็นบานเล็กบานน้อยที่สวยแต่ไม่รับลม ส่งผลให้บ้านสวนของเราเป็นบ้านอยู่สบายและงามอย่างมีคุณค่า เหมือนนางสาวไทย (ฮา)
นอกจากแบบบ้านที่ทำให้สร้างง่ายประหยัดแล้ว ยังเป็นบ้านที่ไม่ตกแต่งประดับประดาใดๆ ให้เสียสตางค์ ทั่วทั้งบ้านเป็นเพียงผนังก่ออิฐฉาบปูนเรียบทาสี มีแค่ผนังหน้าบ้านกว้างสองเมตรเท่านั้นที่กรุกระเบื้องเซรามิคสีเขียว แต่ก็เป็นกระเบื้องจากเตาที่แม่ริม ราคาจึงไม่แพงเหมือนกระเบื้องนอกโมเสกหรือหินอ่อน
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกือบห้าสิบปี ทุกวันนี้บ้านสวนของผมยังอยู่ในสภาพเดิม เพียงแค่เก่าแก่ตามกาลเวลา ไม่ได้ปรับเปลี่ยนวัสดุ ไม่ได้ต่อเติมกันสาด และไม่ต้องแก้ไขกั้นห้องใหม่ ยิ่งอยู่เชิงดอยเลยไม่มีปัญหาน้ำท่วมเหมือนบ้านในกรุงเทพฯ
รูปแบบที่เรียบง่ายของบ้านทำให้ไม่ตกกระแสเหมือนบ้านทรงสเปน สไตล์ทิวดอร์ท หรือแบบมินิมอลิสม์ ยิ่งตอนนี้กระแสเรโทรโมเดิร์นกำลังได้รับความนิยม บ้านโบราณของผมเลยกลับมาร่วมสมัยอีกครั้ง (ฮา)
ผู้เขียน : ปริญญา ตรีน้อยใส
นามปากกาของ ศ.ดร.บัณฑิต จุลาสัย
เจ้าของหนังสือด้านสถาปัตยกรรม ถูกยกย่องจาก Dictionnaire de L'Architecture du XXe Siecle, Editions Hazan, Paris 1996
เป็น 1 ใน 3 สถาปนิกไทยประจำคริสต์ศตวรรษที่ 20