กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยตั้งศูนย์วิเคราะห์สินเชื่อ ที่สมุทรสาคร ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลของลูกค้าแทนเจ้าหน้าที่สินเชื่อ เพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการ ขณะเดียวกัน นำร่องติดตั้งเครื่อง LRM ชำระหนี้เงินกู้อัตโนมัติ 10 แห่งในกรุงเทพฯ
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ดำเนินงานตามแผน Transformation to Digital Services โดยใช้เทคโนโลยีบริการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินที่เข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่น GHB Smart Receipt บริการใบเสร็จรับชำระหนี้เงินกู้แบบอิเล็กทรอนิกส์ และภายในไตรมาส 3 จะเปิดตัวแอปพลิเคชั่น GHB Smart Queue ระบบจองคิวใช้บริการล่วงหน้า, GHBank Smart Booth บริการจองสิทธิ์ใช้บริการผลิตภัณฑ์พิเศษของงานมหกรรมต่างๆ ที่ ธอส. ไปออกบูธให้บริการ รวมทั้งเครื่องชำระหนี้เงินกู้อิเล็กทรอนิกส์ หรือ LRM ซึ่งเริ่มนำให้บริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบนำร่องจำนวน 10 เครื่อง และยังเตรียมนำเครื่อง VTM หรือ Video Teller Machine มานำร่องให้บริการลูกค้าในเร็วๆ นี้ บริการได้ทั้งฝาก – ถอน รับชำระหนี้เงินกู้ รวมถึงให้บริการด้านสินเชื่อ
ขณะเดียวกัน ธนาคารยังได้พัฒนากระบวนการทำงานภายในที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการ อาทิ การจัดทำศูนย์วิเคราะห์สินเชื่อ หรือ DATA ENTRY(DE) ซึ่งถือเป็นส่วนงานที่เป็นตัวกลางในการวิเคราะห์สินเชื่อ โดย DE จะทำหน้าที่บันทึกข้อมูลของลูกค้าแทนเจ้าหน้าที่สินเชื่อ จึงช่วยเพิ่มความรวดเร็วและคุณภาพในการพิจารณาสินเชื่อได้ ซึ่งปัจจุบันมีการจัดตั้ง DE แล้วหลายจุด อาทิ ศูนย์นครหลวง สมุทรสาคร และอมตะนคร (จ.ชลบุรี) และยังมีแผนเพิ่มไปยังสาขาภูมิภาคต่างๆ ต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ปฏิบัติการสินเชื่อนครหลวง (Premier Service Center : PSC) เป็นศูนย์พิจารณาอนุมัติสินเชื่ออย่างครบวงจรแบบ One Stop Service ในมาตรฐานเดียวกัน และเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการแก่ลูกค้าที่ยื่นกู้กับ ธอส.ผ่านโครงการของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ (Developer) การปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ของสาขา ธอส. เป็นสาขาสมาร์ท เพื่อให้บริการลูกค้าในรูปแบบใหม่ด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รองรับนวัตกรรมใหม่ เช่น การให้บริการผ่านแท็บเล็ตซึ่งช่วยให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องรับบริการที่เพียงหน้าเคาน์เตอร์ และการจองคิวใช้บริการล่วงหน้าผ่าน Application เป็นต้น
สำหรับผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 163,382 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 947,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงสิ้นเดือนเมษายน 2559 ถึง 6.60% สินทรัพย์รวมใกล้แตะ 1 ล้านล้านบาท หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 50,872 ล้านบาท คิดเป็น 5.37% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลง 0.40% หรือ 456 ล้านบาท มั่นใจว่าจะสามารถการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2560 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 178,224 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารจะยังคงมีแผนจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ออกมารองรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการมีบ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมมั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายระยะยาวภายใต้การบริหารในปี 2563 โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเป็น 1 ใน 3 ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ มีสินเชื่อรวม 1.15 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.2 ล้านล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเครื่องชำระหนี้เงินกู้อิเล็กทรอนิกส์ หรือ LRM มาเริ่มให้บริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกนำร่องจำนวน 10 เครื่อง ณ ที่ทำการสาขาของธนาคาร 5 แห่งที่มีผู้ใช้บริการชำระหนี้เงินกู้เป็นจำนวนมากในช่วงปลายเดือน แบ่งเป็น สำนักงานใหญ่ พระราม 9 จำนวน 4 เครื่อง, สาขาแฟชั่น ไอส์แลนด์ 2 เครื่อง, สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 2 เครื่อง, สาขาสุขสวัสดิ์ 1 เครื่อง และสาขาบิ๊กซี นวนคร 1 เครื่อง และหลังจากนี้จะทยอยนำตู้ LRM ไปติดตั้งเพิ่มเติมในบริเวณที่ลูกค้าเดินทางเข้าถึงง่ายและสะดวก อาทิ สถานีรถไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
โดยลูกค้าที่ชำระหนี้ผ่านเครื่อง LRM จะสามารถเลือกชำระหนี้ได้ทุกบัญชีเงินกู้ที่ต้องการ เพียงกดเลขที่บัญชีเงินกู้บัญชีใดบัญชีหนึ่งเพียงครั้งเดียว หรือสแกนบาร์โค้ดจากบัตรชำระหนี้เงินกู้ และใบแจ้งหนี้ ต่างจากการชำระเงินกู้ผ่านเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ หรือ CDM ทั่วไปที่ชำระได้ครั้งละบัญชีเท่านั้น จึงสามารถลดระยะเวลาการใช้บริการในแต่ละครั้งลงได้ จากนั้นลูกค้ายังสามารถรับใบเสร็จรับเงินได้ทันที ซึ่งในใบเสร็จจะระบุรายละเอียดครบถ้วนเหมือนการชำระเงินกู้ที่เคาน์เตอร์ปกติ ทั้งจำนวนเงินที่ชำระ อัตราดอกเบี้ย จำนวนเงินต้นคงเหลือ และค่าธรรมเนียม เป็นต้น
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ
Leave a Reply
ที่มา : sakhononline