บ้านเราเหมาะกับหลังคาแบบไหน ใช่หลังคาจั่วหรือเปล่า

หลังคาบ้าน คือสิ่งที่ปกคลุมตัวบ้านให้บ้านและคนให้บ้านปลอดภัย ไม่ว่าจะกันลม กันฝน กันแดด แล้วหลังคาแบบไหนกันนะที่นอกจากจะป้องกันความปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้บ้านไม่ร้อน ระบายอากาศดี ลมเข้าได้พอเหมาะ แถมราคาค่าก่อสร้างไม่แพงจนสร้างไม่ไหว คำตอบก็คือหลังคาจั่วนั่นเองครับ เรามาดูกันครับว่าหลังคาจั่วเป็นแบบไหน และเหมาะกับบ้านแบบไหนกันบ้าง

ด่านแรกที่ความร้อนจากดวงอาทิตย์ส่งมายังบ้านของเราก็คือหลังคา ทำให้หลายคนให้ความสำคัญกับหลังคามากขึ้น นอกจากคำถามว่า หลังคาสีอะไรดี ใช้กระเบื้องอะไรดี ก็เริ่มมีคำถามใหม่ ๆ เกิดขึ้นว่า ใช้หลังคาแบบไหนบ้านถึงจะไม่ร้อน แต่ก่อนจะตอบคำถามนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การป้องกันไม่ให้บ้านร้อนนั้นมีหลายปัจจัยที่สามารถช่วยได้ เช่น ทิศทางการวางตำแหน่งของบ้าน แต่ที่หลังคามีความสำคัญในการป้องกันความร้อนได้นั้น ก็เพราะว่าปริมาณความร้อนส่วนใหญ่ที่เกิดในบ้านมาจากด้านบนของบ้าน หรือทางหลังคานั่นเอง 

ทำความรู้จักกับหลังคาทรงจั่วคืออะไร

เรามาทำความรู้จักกับหลังคาทรงจั่วกันครับ หลังคาทรงจั่ว เป็นแบบหลังคาบ้านที่เราเห็นกันทั่วไป และพบได้บ่อยในเมืองไทยของเรา ซึ่งมีลักษณะเป็นทรงหน้าจั่วสามเหลี่ยมทอดยาวไปตลอดตัวหลังคา ซึ่งทรงหลังคาจะมีลักษณะเป็นทรงลาดชันเอียงลาดลงมา โดยส่วนที่ประกบจะเป็นส่วนที่สูงที่สุด หรือพูดให้ง่ายๆ ก็คือเป็นทรงสามเหลี่ยมนั่นเองครับ 

หลังคาจั่ว ถือเป็นหลังคามาตรฐานที่คุ้นชินกันเป็นอย่างดี เพราะเข้ากับบ้านได้หลากหลายสไตล์ แถมยังระบายอากาศได้ดี รับลมได้ดี และราคาในการก่อสร้างไม่แพงอีกด้วย

หลังคาจั่วเหมาะกับบ้านแบบไหน

แม้เราจะเห็นหลังคาจั่วกันบ่อยๆ แต่แท้จริงหลังคาจั่วเหมาะกับบ้านแบบไหน ต้องบอกว่าเหมาะกับบ้านหลากหลายสไตล์เลยครับทั้งโมเดิร์น ทรงไทยก็ยังได้ แต่จะเหมาะสุดๆ กับบ้านที่อยู่ในเขตร้อนชื้นแบบประเทศไทยของเราครับ เพราะหลังคาแบบนี้เป็นหลังคาที่ถูกออกแบบมาให้ระบายอากาศได้ดี ช่วยระบายความร้อนภายใต้หลังคาได้ดี ที่สำคัญหากวางในทิศที่ถูกต้องเหมาะสมยังรับลมได้ดี เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบบ้านเราด้วย  เรามาดูกันดีกว่าครับว่าทำไมถึงบอกว่าหลังคาจั่วถึงเหมาะกับบ้านในเมืองไทยของเรา

1. ระบายอากาศได้ดี

ด้วยความที่บ้านที่มีหลังคาจั่วสามเหลี่ยมที่ทอดยาวตลอดตัวหลังคา จะทำให้ทรงของหลังคามีการยกสูงขึ้น จึงทำให้มีพื้นที่ใต้หลังคาเยอะ ส่งผลให้สามารถระบายความร้อนใต้หลังคาได้ดีมาก เพราะว่าโดยปกติแล้วความร้อนในตัวบ้านจะลอยตัวขึ้นมาด้านบน ซึ่งหากหลังคามีพื้นที่ใต้หลังคาเยอะและมีช่องระบายอากาศอยู่อย่างหลังคาจั่ว อีกทั้งอากาศที่อยู่ใต้ผืนหลังคาจั่ว ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนฉนวนกันความร้อน ช่วยกั้นอากาศร้อนไม่ให้กลับเข้ามาภายในห้องได้อีกด้วย จึงทำให้บ้านของเราระบายอากาศได้ ไม่ร้อนอบอ้าว และบ้านไม่มีความร้อนกักอยู่ในตัวบ้านมากเท่าหลังคาแบบอื่นๆ

2. รับลมเข้าบ้านได้ดี

หลังคาจั่วนั้นได้รับการออกแบบมาให้ลมที่พัดจากภายนอกสามารถเข้ามาบริเวณหลังคาได้ โดยหลังคานั้นจะปะทะกับลมทั้งสองด้านที่ลาดชัน จึงทำให้อากาศจากภายนอก หรือลมจากภายนอกไหลเข้าสู่ตัวบ้านบริเวณหลังคาจั่วที่มีการยกสูงและเป็นที่กักเก็บอากาศเย็นๆ ไว้ ทำให้บ้านไม่ร้อน รับลมได้ดี ถือเป็นทรงหลังคาที่มีประสิทธิภาพในการรับลมได้ดี ดังนั้นหากบ้านของเราตั้งอยู่ในทางทิศที่รับลมและทิศที่เหมาะสมก็จะทำให้บ้านของเรามีลมเข้ากำลังดี เย็นสบายเลยละครับ แน่นอนว่าก็จะทำให้เหมาะกับบ้านในเมืองไทยที่รู้กันดีว่าอากาศร้อนขนาดไหน 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องระวังในเรื่องการหันทิศบ้านด้วยนะครับ ถ้าหันผิดลมที่บอกว่าจะเข้าได้ดี อาจพาลมร้อนๆ เข้ามาในตัวบ้านแทนก็ได้นะครับ

3. การก่อสร้างไม่ยุ่งยาก

สำหรับการก่อสร้างหลังคาจั่วนั้น ด้วยความที่เป็นหลังคาที่คนไทยคุ้นเคยกันมาช้านาน ทำให้หลังคาจั่วเป็นหลังคาที่ช่างก่อสร้างคุ้นเคยและชำนาญกันเป็นอย่างดี ทำให้การก่อสร้างเป็นเรื่องไม่ยุ่งยากหรือต้องหาช่างผู้ชำนาญได้ยากจนเกินไป  อีกทั้งโครงสร้างหลังคาจั่วยังมีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อนเท่าหลังคาทรงปั้นหยาและมนิลาอีกด้วย

4. ค่าก่อสร้างหลังคาจั่วไม่แพง

ในส่วนของค่าก่อสร้างหลังคาจั่วนั้น ถือว่ามีราคาถูกกว่าหลังคาทรงปั้นหยาและมนิลา เนื่องจากมีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อนทำให้ประหยัดค่าวัสดุต่างๆ รวมถึงอย่างที่บอกไปว่าหลังคาจั่วคือหลังคาที่คนไทยคุ้นเคยกันมาช้านาน จึงหาช่างที่ชำนาญได้ไม่ยาก ทำให้นอกจากค่าวัสดุในการก่อสร้างจะไม่สูงแล้ว ค่าช่างก่อสร้างก็อาจจะไม่สูงมากด้วยเช่นกัน ฉะนั้นบอกได้เลยว่าถ้าต้องการสร้างหลังคาจั่วนั้นบอกเลยว่าถูกกว่าหลังคาทรงปั้นหยาและมนิลาแน่ๆครับ

ข้อต้องระวังของหลังคาจั่ว

ใครที่จะสร้างหลังคาทรงนี้อย่าลืมข้อต้องระวังของหลังคาจั่วกันด้วยนะครับในเรื่องของฝนที่อาจสาดเข้ามาเยอะได้ จึงควรทำกันสาดเพิ่มเติมด้วย ไม่เพียงเท่านั้นทิศของบ้านก็สำคัญ แม้จะหลังคาจั่วจะรับลมได้ดี แต่หากบ้านหันหน้าอยู่ผิดทิศ บ้านของเราก็อาจไม่ได้รับลมดีก็ได้นะครับ 

ส่วนใครที่ถือเรื่องฮวงจุ้ย ตามหลักของฮวงจุ้ยอาจไม่แนะนำมากครับ เนื่องจากหลังคาจั่วมีมุมแหลมคม จึงเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะมีมุมแหลมคม อาจส่งผลให้คนในบ้านเจ็บป่วย มีความเสี่ยง และเก็บเงินไม่อยู่ได้ เพราะหลังคาจั่วมีลักษณะเทลาดออกข้างๆ ทำให้กระแสชี่จะไหลออกด้านข้าง เมื่อเวลาฝนตก น้ำฝนที่เป็นตัวแทนของทรัพย์จะไหลออกหมด ซึ่งทางแก้ก็คือการทำรางน้ำฝนที่ปลายหลังคา เพื่อรองรับน้ำฝนซึ่งหมายถึงเป็นการเก็บทรัพย์เข้าบ้านได้แทนได้ครับ

คงได้คำตอบกันแล้วนะครับว่า หลังคาจั่วคืออะไร เหมาะกับหลังคาแบบไหน และมีข้ออะไรต้องระวัง อย่าลืมนำไปพิจารณาในการตัดสินใจเลือกสร้างหลังคาให้บ้านของเรากันนะครับ