การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดไฟบ้านได้มากที่สุด เป็นวิธีการสามัญสำหรับหลายครอบครัว ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้เราต้องประหยัดค่าไฟ พยายามลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่กระนั้น ก็ไม่สามารถเลิกใช้ไฟฟ้าได้ เพราะฉะนั้น การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า วิธีการใช้งาน รวมถึงการดูแลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ยาวนาน จึงเป็นสิ่งที่ควรทราบและปรับนำเอาไปใช้มากที่สุด
ท่านสามารถคำนวณค่าไฟ เพื่อคุมค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน โดยท่านจะทราบว่าบ้านท่านใช้ไฟไปแล้วกี่หน่วย ต้องเสียเงินค่าไฟเท่าไหร่ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงของเดือนถัดไป
กำลังไฟฟ้า (วัตต์) x จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า ÷ 1000 x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 วัน = จำนวนหน่วยต่อวัน (ยูนิต)
หลังจากได้จำนวนหน่วยยูนิตของบ้านท่านแล้ว จึงนำไปเทียบกับขั้นของราคาค่าไฟ เช่น 35 หน่วยแรก เหมารวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 85.21 บาท หน่วยหลังจากนั้นจะปรับขึ้นตามลำดับ
1. หลอดไฟ ขนาด 50 วัตต์ จำนวน 10 ดวง เปิดใช้งานวันละประมาณ 6 ชั่วโมง
วิธีคำนวณ
กำลังไฟฟ้า (วัตต์) ของหลอดไฟ คือ 50 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 10 ดวง ÷ 1000 x 6 ชม. = 3 หน่วย/วัน (เดือนละ 90 หน่วย)
2. ตู้เย็น ขนาด 125 วัตต์ หนึ่งตู้ เปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีคำนวณ
กำลังไฟฟ้า (วัตต์) คือ 125 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 1 ตู้ ÷ 1000 x 24 ชม. = 3 หน่วย/วัน (เดือนละ 90 หน่วย)
3. ทีวี ขนาด 300 วัตต์ จํานวน 1 เครื่อง เปิดใช้งานวันละ 5 ชั่วโมง
วิธีคำนวณ
กำลังไฟฟ้า (วัตต์) คือ 300 วัตต์ x มีจำนวนทั้งหมด 1 เครื่อง ÷ 1000 x 5 ชม. = 1.5 หน่วย/วัน (เดือนละ 45 หน่วย)
: สรุปใช้ไฟฟ้าทั้งหมด 225 หน่วยต่อเดือน
35 หน่วยแรก เหมารวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 85.21 บาท
115 หน่วยต่อไป หน่วยละ 1.1236 บาท = 190 x 1.1236 บาท
รวมทั้งสิ้น 213.48 บาท (190 ยูนิต คือ จำนวนที่ถัดมาจากแบบเหมา 35 ยูนิต = 225-35=190)
รวมเป็นเงินค่าไฟ คือ (85.21 + 213.48) = 298.69 บาท
การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน แต่ละชนิดมีการเลือกที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะการเลือกจากขนาด คุณภาพ ประเภทที่ช่วยให้ประหยัดไฟได้มากกว่า ตัวอย่างการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นภายในบ้าน ดังนี้
เลือกซื้อหลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมาะสมกับการใช้ หรือให้ขนาดวัตต์พอดีกับขนาดห้อง และควรเลือกใช้หลอด LED ที่ให้พลังงานไฟฟ้าต่ำ แต่ให้แสงสว่างเท่าหลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งช่วยให้ประหยัดไฟมากกว่า
เลือกเตารีดที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพราะจะง่ายต่อการรีด ประหยัดเวลาและช่วยประหยัดไฟฟ้าได้
ควรเลือกใช้สายชาร์ตของแท้ มีคุณภาพ จะช่วยชาร์ตไฟเร็วกว่า มีประสิทธิภาพ ไม่กินไฟ แถมยังไม่เป็นอันตรายต่อโทรศัพท์มือถือของท่าน
ควรเลือกตู้เย็นที่มีประหยัดไฟเบอร์ 5 ตู้เย็นแบบประตูเดียวจะกินไฟน้อยกว่าแบบตู้เย็น 2 ประตู
เลือกแอร์ที่มีประหยัดไฟเบอร์ 5 เลือกแอร์ที่มีคุณภาพ และเลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับห้อง
เคล็ดลับการประหยัดไฟแบบง่าย ๆ ที่ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้ได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟ หรือลดค่าใช้จ่ายของไฟฟ้าในส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้ ดังนี้
1. ปิดไฟหากไม่ใช้งาน ควรปิดไฟทุกครั้งหากไม่มีการใช้งาน หรือไม่มีคนอยู่ในห้อง
2. รีดผ้าจำนวนมากต่อครั้ง ควรตั้งปุ่มเตารีดหรือปรับระดับให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า และควรรีดผ้าครั้งละมาก ๆ ติดต่อกันจนเสร็จ อาจจะรีด 1 วันสำหรับผ้าใส่ 1 สัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยท่านประหยัดไฟ และไม่ต้องเสียเวลารีดบ่อย ๆ
3. เว้นระยะห่างจากผนัง ควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งระบายความร้อน หรือผนัง เพื่อที่ตู้เย็นจะสามารถระบายความร้อนได้สะดวก ช่วยให้ประหยัดไฟได้
4. การใช้แอร์ให้ประหยัดไฟ ควรตั้งอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส ปิดห้องให้สนิทมิดชิดทุกครั้งที่เปิดแอร์ ควรทำการบุผนังในเรียบร้อย เพื่อไม่ให้แอร์รั่วไหล และหมั่นทำความสะอาด ล้างแอร์อยู่เป็นประจำ
วิธีการดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของท่าน ส่วนใหญ่จะเน้นการทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด อย่าปล่อยให้เป็นคราบสกปรก หรือปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รับการดูแลจนเสื่อมประสิทธิภาพการใช้งาน
1. ถอดปลั๊ก เมื่อไม่ได้มีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น พัดลม เตารีด ควรถอดปลั๊กเก็บให้เรียบร้อย นอกจากจะประหยัดไฟแล้ว ยังช่วยถนอมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ยาวนานมากขึ้น
2. ทำความสะอาดเป็นประจำ เช่น แอร์ ตู้เย็น พัดลม ควรหมั่นดูแลรักษาทำความสะอาด นำมาล้างอยู่เป็นประจำ
3. ตรวจเช็คระบบท่อ เช่น แอร์ เครื่องซักผ้า ต้องมีการตรวจเช็คระบบท่อ การไหลของน้ำว่ามีปัญหาน้ำรั่วไหลหรือไม่ หากพบเจอต้องรีบทำการซ่อมแซมแก้ไขทันที
4. เปลี่ยนแผงไฟฟ้า แผงไฟฟ้าระบบควบคุมวงจรไฟฟ้าทั้งหมดของบ้านท่าน หากไม่เคยมีการเปลี่ยนจนสายไฟมีสีเหลืองหรือดำ ควรรีบเปลี่ยนทันที หากใช้งานมาเป็นเวลายาวนาน จนเกิดการเสื่อมประสิทธิภาพ อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดไฟบ้านได้มากที่สุด แต่ละชนิดจะมีวิธีการที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งาน การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพและมาตรฐาน นอกจากนี้ เคล็ดลับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ ปิดหรือถอดปลั๊กในส่วนที่ไม่ใช้งานเพื่อช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ต้องทำงานหนัก