เชื่อว่ามากกว่า 90% ของเจ้าของบ้านที่ซื้อบ้านจากหมู่บ้านจัดสรรต้องมีการต่อเติมบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้นกว่าเดิม หรือแม้แต่กระทั่งคนที่ไม่ได้ซื้อบ้านจากหมู่บ้านจัดสรรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่อาจจะมีสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นหรือมีงบประมาณสำหรับการเพิ่มหรือปรับปรุง ก็อยากทำให้บ้านนั้นกว้างขวางมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น จึงเป็นการดีถ้าหากว่าก่อนที่เราจะลงมือจ้างผู้รับเหมาเข้ามาทำการสร้างเสริมต่อเติมส่วนใดในบ้านนั้น เรามีความรู้ด้านกฎหมายและเทคนิคการดูแลและควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปในทิศทางที่เราต้องการ และสิ่งที่เราจำเป็นและควรต้องรู้มีดังนี้
ได้บอกไว้ว่าการเพิ่มหรือลดเนื้อที่ของพื้นและของหลังคารวมกันหากเกินกว่า 5 ตารางเมตร ต้องขออนุญาตองค์กรที่มีอำนาจในเขตนั้น ถ้าบ้านตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนจะทำการต่อเติมบ้านก็ต้องขออนุญาตสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
แต่ในกรณีอยู่ต่างจังหวัดก็ขออนุญาตกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจังหวัดนั้น ๆ โดยยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้าง, ดัดแปลง, รื้อถอนอาคาร โดยเมื่อยื่นแบบแล้วจะต้องได้รับใบอนุญาตภายใน 45 วันนับแต่วันที่ยื่นขออนุญาตก่อสร้าง
เมื่อได้ใบอนุญาตก่อสร้างมาแล้วเรื่องของกฎหมายก็ไม่ได้จบแค่นี้ ในการต่อเติมนั้นควรทราบด้วยว่า การต่อเติมอาคารนั้นหากก่อเป็นผนังทึบจะต้องเว้นระยะห่างจากแนวเขตข้างเคียงไม่น้อยกว่า 0.5 เมตร รวมถึงระยะห่างชายคาหรือกันสาดด้วย
เมื่อมั่นใจว่าทุกอย่างที่วางแผนไว้ไม่ขัดกับกฎหมายและไม่ขัดใจกับเพื่อนบ้านแล้วก็กลับมาดูที่การก่อสร้างเพราะอย่าลืมว่าการก่อสร้างครั้งนี้เป็นการเพิ่มเติมโครงสร้างใหม่เข้าไปผนวกกับโครงสร้างเดิม ดังนั้นการคำนวณน้ำหนักจึงมีความสำคัญและสัมพันธ์กับการลงเสาเข็ม เพราะหากไม่ตอกเสาเข็มจะทำให้บ้านทรุดตัวประมาณปีละ 3 เซนติเมตร ดังนั้นการแก้ไขปัญหานี้จึงควรวางแผนตั้งแต่การตอกเสาเข็มและอีกจุดที่มักเกิดปัญหาการทรุดตัว แยกตัว และแตกร้าว คือรอยรั่วบริเวณรอยต่อของหลังคา รอยผนังร้าวจากกายแยกตัวของอาคาร และรอยร้าวตรงมุมประตูหน้าต่าง จึงควรเน้นย้ำกับผู้รับเหมาในเรื่องของรอยต่อเหล่านี้ซึ่งอาจมีปัญหาได้ในอนาคต
หากสามารถทำความเข้าใจในการต่อเติมบ้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านกฎหมายหรือด้านการก่อสร้าง ก็จะทำให้ขั้นตอนการก่อสร้างนั้นเป็นไปอย่างลื่นไหล และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่น้อยคือการทำสัญญาจ่ายเงินตามงวดงานกับผู้รับเหมา เพื่อป้องกันการทิ้งงาน เพียงเท่านี้ก็ลดปัญหาไปได้พอสมควรมีเวลาเหลือให้ไปคิดเรื่องการตกแต่งบ้านกันต่อไป