พีดีเฮ้าส์เผยรับสร้างบ้านไตรมาส 2 ไม่คึก แถมผู้รับเหมาโดดร่วมวงแข่งราคาชิงแชร์ตลาด เร่งผนึกคู่ค้าชูคุณภาพบ้านที่แตกต่าง พร้อมจัดงานขายผ่านออนไลน์
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ตลาดบ้านสร้างเองในช่วงไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย. 61) พบว่า กำลังซื้อผู้บริโภคไม่คึกคักเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารประเภทต่างๆ เช่น อาคารพาณิชย์ โกดัง โรงงาน บ้านจัดสรร ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันปริมาณงานก่อสร้างลดลงมาก จึงหันเข้ามาแข่งขันในตลาดบ้านสร้างเองส่งผลให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ทั้งรายเล็กรายใหญ่เกิดการแข่งขันตัดราคากันรุนแรงยิ่งขึ้น และได้ขยายวงกว้างออกไปทั่วประเทศ
อย่างไรก็ดี ความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคนั้น มิได้ตัดสินใจด้วยเหตุผลเพียงแค่ราคาต่ำเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่สำคัญและใช้ประกอบการตัดสินใจควบคู่กัน อาทิ คุณภาพวัสดุและอายุการใช้งาน การให้บริการที่ครอบคลุมก่อนและหลังการขาย ความสะดวกในการติดต่อใช้บริการ ฝีมือหรือผลงานที่ผ่านมาและความน่าเชื่อถือ รวมถึงทีมงานและระบบจัดการอย่างมืออาชีพ เป็นต้น
สำหรับศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ปัจจุบันมีสาขาให้บริการรวมเกือบ 30 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 จังหวัดทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้ลูกค้าสะดวกในการติดต่อใช้บริการและประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งบ้านที่ก่อสร้างทุกหลังยึดถือคุณภาพวัสดุและบริการมาตรฐานเดียวกันตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้
นอกจากนี้ พีดีเฮ้าส์ ยังมีการพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการอยู่ตลอดเวลา ภายใต้ความร่วมมือกับคู่ค้าหรือพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและผู้ให้บริการต่างๆ ล่าสุดจับมือกับคู่ค้า ได้แก่ ลิกซิล ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์แบรนด์อเมริกันแสตนดาร์ด, แกรนด์โฮมมาร์ท ผู้นำเข้าและจำหน่ายสุขภัณฑ์และกระเบื้องเซรามิค, นวพลาสติก ผู้ผลิตและจำหน่าย ประตู-หน้าต่างแบรนด์วินด์เซอร์, ฮาโก้ อิเลคทริค (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า, เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตก่อสร้าง ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนฉาบตราเสือ เป็นต้น
วัตถุประสงค์หลัก ๆ ของการอัพเกรดมาตรฐานวัสดุสร้างบ้านของพีดีเฮ้าส์นั้น ก็เพื่อให้บ้านที่สร้างทุกหลังมีคุณภาพสูง มีความทันสมัย แตกต่างจากคู่แข่งขันในตลาดรับสร้างบ้าน และยังคงแนวคิดการสร้างบ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเอาไว้เช่นเดิม นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับผู้ผลิตวัสดุหรือสินค้าโออีเอ็มในประเทศ พัฒนาและผลิตวัสดุไม้สังเคราะห์หรือไม้เทียม เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุตกแต่งบ้านและเป็นทางเลือกให้ลูกค้า ที่ต้องการวัสดุที่สวยงามและทันสมัยในงบประมาณจำกัด
ด้านนางสาวถิรพร สุวรรณสุต กรรมการบริหารสายงานการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2561 นี้ บริษัทก้าวเข้าสู่ปีที่ 28 และเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านกลุ่ม Top 5 ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงถือในโอกาสนี้ ทำการปรับตัวในหลาย ๆ มิติอีกครั้ง ภายใต้กลยุทธ์ 5 R อันได้แก่ 1.Re-Quality 2.Re-Service 3.Re-Name Home design 4.Re-Price และ 5.Re-Communication
ประกอบด้วย การปรับผลิตภัณฑ์หรือการสร้างบ้านให้มีคุณภาพสูงและเน้นใช้ระบบพรีแฟบหรือสำเร็จรูปในการก่อสร้างมากขึ้น การให้บริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและสามารถแข่งขันได้โดยไม่เสียเปรียบ การออกแบบและตั้งชื่อแบบบ้านให้จดจำง่าย การปรับต้นทุนและราคาภายใต้แนวคิดคุณภาพเหนือราคา การสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่เน้นออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียมากขึ้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการเปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการภายใต้กลยุทธ์ 5 R ที่วางไว้ให้ผู้บริโภครับรู้ในวงกว้าง บริษัทฯ จึงได้จัดงาน “พีดีเฮ้าส์ ออนไลน์ โอเพ่นเฮ้าส์” ขึ้นในระหว่างวันที่ 8-12 มิถุนายน 2561 นี้ ผ่านทางเว็บไซต์หรือ www.thaionlinefair.com โดยได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ ภายใต้แคมเปญ “พีดีเฮ้าส์ ซุปเปอร์ ซัมเมอร์เซลล์” สำหรับผู้ที่สนใจและตัดสินใจจองสร้างบ้านในช่วงวันจัดงาน จะได้รับส่วนลดราคาบ้านและของแถมสูงสุด 800,000 บาท (ตามราคาบ้าน) งานนี้ตั้งเป้าปิดยอดจองรวม 100 ล้านบาท
Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania