จังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจของกลุ่มภาคเหนือตอนบน ทั้งนี้จังหวัดเชียงรายมีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านบริเวณสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ จัดเป็นประตูเชื่อมโยงการค้า มีการลงทุนและการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ ได้แก่
ด่านชายแดนอำเภอแม่สาย ด่านชายแดนอำเภอเชียงของ ที่ปัจจุบันได้ประกาศให้เป็นพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาโครงข่ายคมนาคมให้เชื่อมโยง และพัฒนาไปสู่ระบบโลจิสติกส์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการเดินทางและขนส่งสินค้าช่วยกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค และเชื่อมโยงสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจได้อีกด้วย
กรมทางหลวง(ทล.) จึงมีแผนก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์)แนวใหม่สายเชียงใหม่-เชียงรายเพื่อลดเวลาเดินทางจากเชียงใหม่-เชียงรายไม่ถึง 2 ชั่วโมง โดยได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วยงบกว่า 30 ล้านบาทใช้ระยะเวลา 18 เดือน เส้นทางการศึกษาโครงการมีพื้นที่ครอบคุลม 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ (อำเภอดอยสะเก็ดและอำเภอแม่ออน), ลำปาง (อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอวังเหนือ), พะเยา (อำเภอเมืองพะเยาและอำเภอแม่ใจ) และเชียงราย (อำเภอพาน อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย)
แนวเส้นทางเริ่มตั้งแต่ทางหลวงหมายเลข 121 บริเวณบ้านสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด และมุ่งไปทางทิศตะวันออกผ่านเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ผ่านอำเภอเมืองปาน, อำเภอวังเหนือ, อุทยานแห่งชาติดอยหลวง, อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา จากนั้นมุ่งสู่จังหวัดเชียงรายผ่านอำเภอพาน และไปสิ้นสุดแนวเส้นทางตรงจุดเชื่อมต่อกับแนวโครงการก่อสร้างทางหลวงสายเชียงราย-เชียงของ ตอนเชียงราย-ขุนตาล ที่มีขนาด 4 ช่องจราจรที่บริเวณอำเภอเวียงชัย ระยะทางรวม 185 กิโลเมตร
เมื่อเปิดให้บริการจะใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่เมื่อเทียบการเดินทางเดิมโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 118 จากวงแหวนรอบนอกจังหวัดเชียงใหม่ถึงแยกแม่กรณ์จังหวัดเชียงราย ระยะทางประมาณ 179 กิโลเมตร ที่ใช้เวลาเดินทางกว่า 3.30 ชั่วโมงเนื่องจากเป็นเส้นทางคดเคี้ยว ลาดชัน ส่วนแนวใหม่นี้ออกแบบให้รถสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้การเดินทางมีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับค่าดำเนินโครงการเบื้องต้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักคือ 1.ค่าออกแบบและก่อสร้างประมาณ 8.86 หมื่นล้านบาท 2.พื้นที่เวนคืน 1.2 หมื่นไร่ และชดเชยสิ่งปลูกสร้าง 819 หลังโดยใช้งบเวนคืนประมาณ 2,567 ล้านบาท และ 3.ค่าบำรุงรักษา-บริหารโครงการราว 1 หมื่นล้านบาท รวมใช้งบทั้งหมดกว่า 1 แสนล้านบาทโดยจะมีการสร้างอุโมงค์ยาวกว่า 20 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน
โดยกระบวนการปัจจุบันหลังจากที่ได้ผลสรุปการศึกษาดังกล่าว ทล.จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา หากมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการโครงการดังกล่าวก็จะเข้าสู่กระบวนการสำรวจเพื่อออกแบบและศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ตั้งงบประมาณ ทำการเวนคืนที่ดินในแนวเส้นทางโครงการและดำเนินการก่อสร้าง โดยมีระยะเวลาดำเนินการโครงการ 8-10 ปี
มอเตอร์เวย์แนวใหม่สายเชียงใหม่-เชียงราย ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อการการกระจายความเจริญสู่พื้นที่ภาคเหนือ หากโครงการนี้เกิดขึ้นจริงนอกจากจะช่วยส่งเสริมพัฒนาระบบโครงข่ายทางหลวง และอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางและขนส่งสินค้าทั้งภายในและระหว่างประเทศ ด้วยเส้นทางที่มีมาตรฐานสูง มีการควบคุมการเข้า-ออกอย่างสมบูรณ์ และมีการเชื่อมโครงข่ายอย่างเป็นระบบแล้ว ยังช่วยกระจายการพัฒนาไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตลอดจนสามารถแก้ไขปัญหาหาจราจรได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
ที่มา : thansettakij