วิธีปูกระเบื้องผนัง หลายท่านจะอาจจะคิดว่า การปูกระเบื้องเป็นงานที่ยากไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง อยากรีโนเวทห้องใหม่ เปลี่ยนผนังห้องเพราะของเดิมทั้งเก่า และไม่ตรงกับสไตล์ แต่ครั้นต้องมาจ้างช่าง แถมยังมีราคาสูงเสียด้วย วันนี้ Baania จึงมี วิธีปูกระเบื้องผนังบ้านด้วยตนเองแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ที่ทุกท่านสามารถลงมือทำตามได้ด้วยตนเองเพียง 7 ขั้นตอนมาฝากกัน
ประเภทของกระเบื้องผนัง ในปัจจุบันมีค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งทุกท่านสามารถเลือกได้ตามความชอบหรือสไตล์บ้าน เพื่อให้เกิดการคุมโทนสวยงาม หรือต้องการทำผนังห้องให้มีความโดดเด่น โดยเลือกมุมผนังห้องสักมุม ที่มีการตกแต่งด้วยกระเบื้อง ตัวอย่างประเภทกระเบื้องผนังที่เป็นที่นิยม มีดังนี้
กระเบื้องประเภทนี้จะช่วยให้ผนังบ้านมีความหรูหรา สวยงาม ด้วยลายของหินอ่อนที่มีเสน่ห์ในตัว ผสมกับสีของกระเบื้องได้ ไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีขาว หรือสีครีม เป็นต้น
ข้อดี : ให้ความหรูหรา สวยงาม แต่งบ้านได้ง่ายขึ้น
ข้อเสีย : มีราคาสูง น้ำหนักมาก ต้องดูแลรักษาอยู่ตลอด
กระเบื้องประเภทนี้จะช่วยบ้านมีความอบอุ่นด้วยสีของไม้ธรรมชาติ ให้ความสบายและผ่อนคลาย เหมาะกับท่านที่ชอบบ้านไม้ หรือต้องการนำไม้ไปตกแต่งในส่วนของผนังบ้าน
ข้อดี : ทำให้บ้านมีความเป็นธรรมชาติ
ข้อเสีย : ดูแลได้ยาก เพราะไม้บางชนิด หากคุณภาพไม่ดีอาจเกิดปัญหาได้
กระเบื้องประเภทนี้มีให้เลือกหลากหลาย ตามลวดลาย หรือสีสันที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นลายตามธรรมชาติ ลายดอกไม้ ลายสัตว์ หรือลายกราฟฟิคต่าง ๆ โดยเลือกให้เข้ากับสไตล์ของบ้าน หรือแหวกแนวเพื่อให้ดูเป็นงานศิลปะก็ได้
ข้อดี : มีให้เลือกหลายหลายลูกเล่น มีหลายราคา ตั้งแต่ถูกถึงแพง
ข้อเสีย : หากเลือกกระเบื้องลวดลายที่ไม่ได้คุณภาพ มักแตกหักง่าย เพราะทำออกมาหลายเกรด หลายราคา
กระเบื้องประเภทนี้ เป็นกระเบื้องปูผนังที่มีกระบวนการเผา 1-2 ครั้ง โดยมีการเคลือบผิว เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ
ข้อดี : มีความแข็งแรง ทำให้บ้านสามารถเก็บความเย็นได้ดี
ข้อเสีย : หากมีการรื้อกระเบื้อง จะไม่สามารถนำมาปูใหม่ได้อีก
กระเบื้องประเภทนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะมีความสวยงามและมีลวดลายคล้ายกระเบื้องหิน ซึ่งเรียกว่า ลายหินเทียม นั้นเอง
ข้อดี : ให้ความสวยงามคล้ายกระเบื้องหินอ่อน ในราคาที่ถูกกว่า
ข้อเสีย : มีค่าปูกระเบื้องในราคาสูง เพราะปูได้ยากกว่าแบบอื่น
วิธีการคำนวณกระเบื้องปูผนังง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยคำนวณตามสูตรการคำนวณพื้นที่ ไม่อยากอย่างที่คิด เพียงแค่นำ
ความกว้าง x ความยาว (พื้นที่ = ความกว้าง x ความยาว) ตามขนาดผนังที่จะปูกระเบื้อง ไม่ว่าจะเป็นผนังทั้งห้อง หรือแค่มุมใดมุมหนึ่งก็สามารถใช้สูตรนี่คำนวณได้เช่นกัน
ตัวอย่างเช่น
ต้องการปูพื้นกระเบื้องห้องนอนทั้งห้อง ซึ่งมีขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 4 มุม แต่ละมุมมีขนาดพื้นที่ = 5 (ความกว้าง) x 10 (ความยาว) = 50 ตารางเมตร
กระเบื้อง 1 กล่องจะบรรจุกล่องละประมาณ 1 ตารางเมตร เท่ากับว่า ในตัวอย่างห้องนอนข้างต้น ต้องใช้กระเบื้องจำนวน 50 กล่อง
ทั้งนี้จำนวนการบรรจุกระเบื้องแต่ละกล่อง อาจจะขึ้นอยู่กับกระเบื้องแต่ละประเภท
ควรจะมีการสั่งกระเบื้องเผื่อประมาณ 1-2 กล่อง เช่น จาก 50 กล่อง สั่งเพิ่มเป็น 52 กล่อง ป้องกันกระเบื้องแตกหัก หรือไว้สำหรับแก้งาน เพราะหากมีการสั่งทำกระเบื้องพิเศษจะได้ไม่ต้องเสียเวลาสั่งเพิ่มอีก
การเตรียมพื้นที่ให้พร้อมก่อนปูกระเบื้องมีเพียงไม่กี่อย่าง ดังต่อไปนี้
1. วัดขนาด โดยการคำนวณขนาดพื้นที่ วัดระยะพื้นที่ที่ต้องการปูกระเบื้อง
2. ทำความสะอาด การเตรียมพื้นที่ก่อนปูกระเบื้อง โดยการทำความสะอาดบริเวณผนังที่ต้องการปู โดยการเช็ด ล้าง ขัดผนัง
3. ทำผนังให้เรียบ วิธีนี้สำคัญอย่างมาก หากผนังมีรอยนูน รอยหลุมหรือผนังไม่เรียบ ควรจัดการแก้ไขให้เรียบร้อย โดยสามารถใช้กระดาษทรายขัดผนังบริเวณที่มีปัญหาให้เรียบร้อย เพราะหากผนังไม่เรียบ เมื่อปูกระเบื้องเข้าไป จะทำให้กระเบื้องไม่เรียบเช่นกัน
5 อุปกรณ์ที่ใช้ในการปูกระเบื้องผนัง หาซื้อได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ได้แก่
1. แผ่นกระเบื้อง
2. ปูนกาว
3. ถังผสมปูน
4. เกรียงหวี
5. แท่นตัดกระเบื้อง
วิธีปูกระเบื้องผนัง ทุกท่านสามารถทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ เพียงต้องเตรียมอุปกรณ์ให้ครบ และเตรียมพื้นที่ให้พร้อมก่อนเริ่มปู เลือกปูนกาวที่มีคุณภาพ ศึกษาวิธีการปูกระเบื้องอย่างละเอียด ลองดู 7 วิธีปูกระเบื้องผนังแบบง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
1. เตรียมพื้นผิวผนังสำหรับการปูกระเบื้อง โดยการทำความสะอาดให้เรียบร้อย
2. กำหนดตำแหน่งที่จะมีการปูกระเบื้องจากส่วนไหน ถึงส่วนไหน วัดระยะตามขนาดช่องของกระเบื้อง ซึ่งกระเบื้องแต่ละประเภทมีขนาดและรูปร่างที่ต่างกัน ใช้ดินสอหรือปากกาทำสัญลักษณ์ไว้ เพราะอาจจะต้องมีการตัดกระเบื้อง หากขนาดผนังไม่พอดีกับขนาดกระเบื้อง
3. หากต้องมีการตัดกระเบื้อง ควรตัดรอไว้ให้เรียบร้อย
4. เตรียมผสมปูนในถังผสม โดยนำปูนกาวผสมเข้ากับน้ำ การใส่น้ำ ควรค่อย ๆใส่น้ำลงไปทีละนิด คนให้เข้ากัน หากใส่น้ำลงไปเยอะทีเดียว จะทำให้ปูนเหลว เพราะปูนที่เนื้อสัมผัสกำลังพอดีจะสังเกตได้จาก ปูนมีความหนึด เหนียว แต่ไม่แห้ง
5. หลังจากนั้น เริ่มนำปูนไปฉาบที่ผนังให้ทั่ว โดยใช้เกรียงหวีปาดปูนที่ฉาบให้เรียบและเสมอกัน
เมื่อฉาบปูนเรียบร้อยแล้ว นำกระเบื้องไปปูตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ทีละแผ่น โดยการปูจากล่างขึ้นบนจะช่วยให้ง่ายขึ้น และเว้นระยะห่างประมาณ 2 มิลลิเมตรระหว่างแผ่น
เมื่อปูกระเบื้องผนังจนครบแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 1-2 วัน เพื่อให้กระเบื้องยึดตัวเข้ากับผนัง
วิธีปูกระเบื้องผนังบ้านด้วยตนเองแบบง่าย ๆ ที่ทุกท่านก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เริ่มจากการเลือกประเภทของกระเบื้องที่ชอบ ศึกษาข้อดีข้อเสีย คำนวณพื้นที่เพื่อจะได้สั่งซื้อจำนวนกระเบื้องได้ถูกต้อง เตรียมพื้นที่และอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนปูกระเบื้อง และลงมือปูกระเบื้องตาม 7 ขั้นตอนดังกล่าว เพียงเท่านี้ ท่านก็จะสามารถปูกระเบื้องได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งช่าง