อสังหาฯ "มหาชัย-อัมพวา" ยังโต 2เมืองที่อยู่อาศัยใหม่ "คนกรุง"

ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มขยายตัวไปยังเมืองบริวาร พื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ เพราะการลงทุนในเมืองหลวงเริ่มอิ่มตัว ประกอบกับราคาที่ดินสูง หาซื้อได้ยาก การสร้างรถไฟฟ้า ทำให้ทิศทางการลงทุนเปลี่ยนไป ดีเวลอปเปอร์ส่วนใหญ่จะมุ่งสู่เมืองบริวารโดยรอบ เช่น จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม โดยเฉพาะถนนพระราม 2 ที่มีการลงทุนใหม่เกิดขึ้นหนาแน่น ทั้งบิ๊กแบรนด์จากส่วนกลาง และกลุ่มทุนท้องถิ่น เนื่องจากแนวโน้มคนเมืองจะซื้อที่อยู่อาศัยย่านชานเมืองมากขึ้น เพราะโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากการเป็นศูนย์กลางการประมง ส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ทีมข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ลงพื้นที่สำรวจการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โซนถนนพระราม 2 ไปจนถึงเขตตัวเมืองสมุทรสาคร พบว่า การลงทุนส่วนใหญ่จะหนาแน่นตั้งแต่ แยกหัวกระบือ ถนนชายทะเล-บางขุนเทียนตัดกับถนนพระราม 2 ไปจนถึงตำบลพันท้ายนรสิงห์ มีการลงทุนบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์จำนวนมาก ห่างจากแยกหัวกระบือ 1-2 กิโลเมตร เช่น โครงการเดอะพราว โครงการศุภาลัย วิลล์ โครงการไอลีฟทาวน์ โครงการกานดาบ้านริมคลอง โครงการสยามเนเชอรัลโฮม โครงการสารินซิตี้ โครงการพฤกษ์ลดา โครงการโกลเด้นนีโอ โครงการโกลเด้นทาวน์ โครงการวิเศษสุขนครไลค์

ตำบลพันท้ายนรสิงห์ทำเลทอง

นายปรีชา ศิริแสงอารำพี ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เศรษฐกิจจังหวัดสมุทรสาคร ปี 2559 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังพอขับเคลื่อนได้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจ และประชาชนระดับกลาง จุดแข็งที่ทำให้ธุรกิจอสังหาฯ ขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว คือระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก ซึ่งพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง เติบโตได้มากที่สุดในจังหวัดสมุทรสาคร มีโครงการเกิดใหม่ประมาณ 7 โครงการ 

ทั้งนี้ การลงทุนจะมาจากแบรนด์ท้องถิ่น และบิ๊กแบรนด์จากกรุงเทพฯ เช่น กลุ่มแสนสิริ ศุภาลัย แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ พฤกษาเรียลเอสเตท ดีแลนด์กรุ๊ป กานดา เป็นต้น ซึ่งการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาที่ดินในโซนพระราม 2 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ราคาไร่ละ 30 ล้านบาท และโซนตำบลพันท้ายนรสิงห์ ราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท/ไร่ พื้นที่ตั้งแต่แยกหัวกระบือ ถนนชายทะเล-บางขุนเทียนตัดกับถนนพระราม 2 ต่อเนื่องไปจนถึงนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร มีการลงทุนค่อนข้างหนาแน่น 

ดี-แลนด์กรุ๊ปเปิด 2 โครงการใหม่

นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด ดีเวลอปเปอร์ท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสมุทรสาคร ยังขยายตัวได้ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจภาพรวมจะไม่ขยายตัวมากนัก บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม เป็นที่ต้องการของตลาด ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ และกลุ่มคนวัยทำงานที่ทำงานกรุงเทพฯ สัดส่วน 80-90% มีแนวโน้มซื้อที่อยู่อาศัยชานเมือง หนีความแออัดมากขึ้น

ทั้งนี้ปัจจัยดึงดูดคือ เป็นประตูสู่ภาคใต้ และมีวงแหวนฝั่งตะวันตกที่สามารถเดินทางเชื่อมโยงไปยังพื้นที่อื่นได้ง่ายและเดินทางไปได้หลายภูมิภาค ธุรกิจอสังหาฯ จึงขยายตัวจากวงแหวนฝั่งตะวันตกไปจนถึงมหาชัย หากมีการสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง เส้นทางรังสิต-มหาชัย จะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯมาก ราคาที่ดินจะพุ่งสูงขึ้นเท่าตัว 

สำหรับแผนการลงทุนในปี 2559 ของ ดี-แลนด์ กรุ๊ป จะเปิดตัว 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,550 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ The Proud พระราม 2-พันท้ายฯ ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ 31 ไร่ จำนวน 110 ยูนิต ราคา 4-6 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 550 ล้านบาท ขณะนี้มียอดจองแล้ว 90% 

2.โครงการ D Town ศรีราชา ซึ่งเป็นโครงการประเภทมิกซ์ยูส ตั้งอยู่ในโซนสวนเสือศรีราชา จังหวัดชลบุรี บนเนื้อที่ 24 ไร่ ประกอบด้วย Porto Market, D Complex, D Park คอนโดมิเนียม และการให้บริการในรูปแบบเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่บริหารจัดการแบบครบวงจร มูลค่าโครงการรวม 1,000 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้

อัมพวาได้อานิสงส์พระราม 2 โต

สำหรับอสังหาฯเมืองสมุทรสงคราม นายอานนท์ ตันติดำรงกุล ประธานเครือดำรงกุล กลุ่มทุนท้องถิ่นเปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสมุทรสงคราม ส่วนใหญ่จะได้รับอานิสงส์ส่วนขยายมาจากจังหวัดสมุทรสาครจากถนนพระราม 2 ลูกค้าเป้าหมายคือนักธุรกิจ สำหรับการลงทุนมีทั้งทุนท้องถิ่นและต่างถิ่น เช่น หมู่บ้านสราญของบริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด จำนวน 100 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ยอดจอง 50% ส่วนกลุ่มทุนอื่น ๆ ได้แก่ กลุ่มมนตรี กลุ่มเจ๊เกียว ส่วนราคาที่ดินทางเข้าเมือง ถนนพระราม 2 ปรับตัวสูงขึ้น 100,000 บาท/ตารางวา มีการเก็งกำไรเกิดขึ้นในพื้นที่ 

สำหรับเครือดำรงกุล จะลงทุนใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ อาคารพาณิชย์ 27 ยูนิต ราคา 4 ล้านบาท/ยูนิต มูลค่าลงทุน 100 ล้านบาท โดยปิดการขายแล้ว 100%

โครงการทาวน์โฮมบริเวณอนุสรณ์สถานแฝดสยามอิน-จัน 17 ยูนิต ราคา 1.65 ล้านบาท/ยูนิต มูลค่าการลงทุนกว่า 20 ล้านบาท ลูกค้าเป้าหมาย กลุ่มข้าราชการ ขณะนี้มียอดจองแล้ว 30% 

ทิศทางของธุรกิจอสังหาฯ มีการขยายตัวไปยังเมืองรองที่เป็นเมืองบริวารของกรุงเทพฯ อย่างสมุทรสาคร-สมุทรสงคราม มากขึ้น ทำให้วันนี้ทั้ง 2 เมืองกลายเป็นเมืองแห่งที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ ลดความแออัดจากเมืองหลวง

ที่มา :  prachachat