อสังหาฯเชียงรายคึกคัก! รอบ1ปีแผ่นดินไหวธุรกิจ-นักลงทุนปักธงต่อเนื่อง

อสังหาฯเชียงราย 1 ปีหลังแผ่นดินไหวทัพลงทุนทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่นยังลงทุนต่อเนื่อง แต่ตลาดเริ่มตึงตัว ดีมานด์ลดลง แต่ซัพ พลายออกสู่ตลาดต่อเนื่อง ขณะที่ข่าวแผ่นดินไหวกระทบตลาดแค่ช่วงสั้น ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นและความรู้ผู้บริโภคต่อเนื่อง เชื่อระยะยาวศักยภาพของเมืองเชียงรายและการเปิดเออีซีจะช่วยกระตุ้นความต้องการตลาด

จากกรณีข่าวแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศเนปาลขนาด 7.8 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 ที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก และครบรอบ 1 ปี เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ขนาด 6.3 แมกนิจูด มีศูนย์กลางอยู่ที่รอยต่อระหว่างอำเภอแม่ลาวกับอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 จนสร้างความเสียหายและกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงรายพอสมควรในระยะ1ปี แต่ก็ยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง “ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์เชียงรายหลัง 1 ปีแผ่นดินไหว

นายนเรศ รัศมีจันทร์ ผู้บริหารโครงการ The Green Hill Biz Home โครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในลักษณะอาคารพาณิชย์ 4 อาคาร 22 คูหา ภายในมี 4ห้องนอน 4 ห้องนํ้า มูลค่าสูงกว่า 100 ล้านบาท  ใจกลางเมืองเชียงราย เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ขณะนี้พื้นที่ย่านธุรกิจใจกลางเมือง หากขับรถมาตามถนนพหลโยธินเข้าเมือง ย่านธุรกิจจริงๆ จะเป็นฝั่งซ้ายของถนน ย่านนี้มีโครงการเกิดขึ้นน้อย เนื่องจากมีที่ดินเพื่อพัฒนาหรือทำโครงการน้อยมาก โครงการอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้านจัดสรร อาคารพาณิชย์ หรือคอนโดมิเนียม จะขยายออกไปอีกฝั่งของแม่นํ้ากก ริมถนนพหลโยธินที่จะไปแม่จัน–แม่สาย ในพื้นที่ตำบลบ้านดู่เป็นหลัก และที่น่าจับตาอีกโซนหนึ่ง ก็คือ ริมถนนวงแหวนรอบต่างๆ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ส่วนต่างอำเภอทั้งที่อำเภอแม่สายและอำเภอเชียงของ ซึ่งมองกันว่าน่าจะขยายตัวนั้น เท่าที่ได้พูดคุยกันในกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ได้รับคำตอบว่า ค่อนข้างนิ่ง

“ที่ว่านิ่ง ก็คือ ตลาดเริ่มตึงตัว ดีมานด์มีน้อยลง ในขณะที่ซัพพลายออกมาเต็มตลาด(ดูตาราง) ผู้ประกอบการจึงต้องพยายามที่จะปิดการขายให้ได้ ผมว่าช่วงนี้ไม่ได้เป็นยุคทองของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชียงรายแล้ว สภาพโดยรวมจึงค่อนข้างออกไปในแนวซบเซามากกว่า บ้านจัดสรรขนาดราคาตํ่ากว่า 1 ล้านบาทยังพอขายได้ แต่ทำเลก็ต้องทำใจว่าจะต้องเข้าไปในซอยลึกจากถนนใหญ่พอสมควร แต่ก็ยังคงมีความหวังกับเออีซีหรือการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีนักธุรกิจต่างชาติ เข้ามาประกอบธุรกิจในพื้นที่ โครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งต่างชาติสามารถถือกรรมสิทธิ์ได้จึงเริ่มปรากฏให้เห็น โดยเป็นการลงทุนของนักธุรกิจจากส่วนกลาง”

นายนเรศกล่าวว่ากรณีที่เกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงรายซึ่งเชื่อว่าน่าจะกระทบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นโดยมาตรฐานทางวิศวกรรมและเทคนิคทางช่างปัจจุบันนี้โครงการมาตรฐานสามารถรองรับแรงสั่นไหวได้ตามที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้วเพียงแต่ด้วยอารมณ์และความตกใจกรณีแผ่นดินไหวจึงเป็นโจทย์สำคัญที่ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าให้ได้และเมื่อได้รับฟังการอธิบายชี้แจงแล้วลูกค้าเชื่อและโชคดีว่าโครงการที่ผ่านๆมาของบริษัทไม่มีปัญหาแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในแง่ผู้ประกอบการคือต้นทุนสูงขึ้นทำให้ราคาก็ต้องสูงขึ้นตามไปด้วย

“ผมมองว่ามีผลกระทบกับความรู้สึกเพียงช่วงสั้นๆ ประกอบกับอาคารที่ได้รับความเสียหายหลักๆ จากเหตุ การณ์เกือบทั้งหมดเป็นอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทำกันง่ายๆ ประมาณว่าเสาสำเร็จ ก่อบล็อกฉาบปูน ส่วนอาคารที่มีการก่อสร้างอย่างได้มาตรฐาน ไม่พบว่ามีความเสียหายรุนแรงแม้แต่อาคารเดียว โครงการคอนโดฯ จึงยังกล้าขึ้น แต่ว่าด้วยขนาดของตลาด ทำให้จำนวนชั้นของคอนโดฯยังไม่มาก ยังไม่ถึง 10 ชั้น” นายนเรศ กล่าวและว่า

ขณะนี้ได้ตกลงซื้อขายที่ดินแปลงเล็กๆขนาดประมาณ 1.5 ไร่ ในย่านที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวนิยมเดิน หรือจะเรียกว่าย่าน Walk Street ของเชียงราย โดยจะทำเป็นอาคารในลักษณะช็อปปิ้งมอลล์ให้เช่า เพราะด้วยราคาที่ดินแล้ว ทำให้ไม่สามารถทำอาคารขายขาดได้ ส่วนโครงการ The Green Hill Biz Home เนื่องจากทำเลใจกลางเมือง ติดกับโรงพยาบาลประจำจังหวัด ทำให้จำเป็นต้องตั้งราคาสูง เริ่มต้นที่ 5.5 ล้านบาท สูงสุด 7.5 ล้านบาท สำหรับอาคารพาณิชย์ขนาด 3 ชั้น ทำให้ต้องมองหากลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งมีอยู่น้อย แต่ว่ามีกำลังซื้อสูง ตอนนี้โครงการคืบหน้าประมาณ 80% เริ่มมีลูกค้าเข้ามาถามมากขึ้น และขายไปได้แล้วจำนวนหนึ่ง มั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายใน 3 เดือนหลังโครงการเสร็จแล้ว หรือประมาณปลายปีนี้

ด้านแหล่งข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงรายกล่าวเสริมว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม2557 มีผลกระทบในหลายพื้นที่ และตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กต่อเนื่องอีกหลายครั้ง ขณะที่ภาคการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ยังคงมีกลุ่มทุนทั้งจากส่วนกลางและทุนท้องถิ่น ทั้งแนวราบและแนวสูง โดยเฉพาะโครงการคอนโด มิเนียมมาพัฒนา ตามจุดสำคัญๆ โดยเฉพาะริมถนนพหลโยธิน  เช่น โครงการ D-Condo Hyde ของกลุ่มแสนสิริ หรือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ยึดทำเลทอง กลางเมือง ตรงข้ามกับเซ็นทรัลสาขาเชียงราย และติดกับห้างบิ๊กซีเชียงราย เปิดตัวโครงการมาตั้งแต่ก่อนแผ่นดินไหว การก่อสร้างจึงทำไปเรื่อยๆ ในช่วงที่มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาบ่อยๆ มีมูลค่า 870 ล้านบาท สูง 8 ชั้น 2 อาคาร 482  ห้อง  โครงการ Q House Condo Chiangrai ของกลุ่มกรีนเนอรี่ กำลังเริ่มทำการก่อสร้างขึ้นริมถนนพหลโยธิน จากตัวเมืองเชียงรายไปทางอำเภอแม่สาย ส่วนของกลุ่มทุนท้องถิ่นมีโครงการอยู่บริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

“จากเหตุแผ่นดินไหว เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากจังหวัดเชียงราย มีศักยภาพของเมืองที่กำลังขยายการเจริญเติบโต มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ๆ มุ่งตรงมาทำธุรกิจกันมาก ทำให้มีกำลังซื้อ และสามารถทำตลาดได้ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ ก็มีการให้เผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการรับมือแผ่นดินไหว ทำให้คนเข้าใจมากขึ้น ไม่ได้กลัวกันมากเหมือนตอนหลังเกิดเหตุการณ์ กลุ่มทุนจากส่วนกลาง ซึ่งมีความพร้อมมากกว่าน่าจะทยอยเปิดตัวโครงการในเขตตัวเมืองเชียงรายมากขึ้น และน่าจะไปทางแม่สาย และเชียงของอีกด้วย เพราะเป็นเมืองชายแดนที่มีกำลังซื้อสูง” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวจากโครงการดีคอนโดฮายเชียงราย  (D CONDO HYDE CHIANGRAI) เปิดเผยว่า  มียอดขายไปแล้วกว่า 50% แต่เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียม ในเชียงราย บางโครงการมีปัญหา ทำให้ลูกค้าไม่เชื่อมั่น ดังนั้นเราจึงมีแผนเร่งดำเนินการก่อสร้าง โดยกำหนดให้แล้วเสร็จ ต้นเดือนมิถุนายน 2558 จะมีการโอนสำหรับลูกค้าวันที่  5-7มิถุนายน 2558 พร้อมเปิดขายที่เหลืออีก 50% ในรูปแบบคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในต้นเดือนมิถุนายน 2558

ที่มา :  ฐานเศรษฐกิจ