เคล็ด(ไม่)ลับ ที่จะทำให้คุณทำความสะอาดห้องน้ำได้ง่ายขึ้น

ห้องน้ำ สถานที่สำคัญภายในบ้านที่สมาชิกในบ้านต่างใช้เวลาในห้องนี้เป็นระยะเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการเพลิดเพลินไปกับการอาบน้ำ หรือจะเป็นช่วงเวลาปลดทุกข์ เพราะฉะนั้นคุณควรที่จะให้ความสำคัญ หมั่นดูแลเอาใจใส่ และทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ แต่การทำความสะอาดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังกินระยะเวลานาน แต่ไม่ต้องรู้สึกกังวลกับปัญหาเหล่านี้ เพราะเราได้รวบรวมทริคดี ๆ ที่จะทำให้การทำความสะอาดง่ายกว่าเดิม

1. แบ่งเขตเปียกและแห้ง

วิธีการทำความสะอาดห้องนี้ง่ายที่สุดเลยคือ ทำการแบ่งเขตสำหรับเขตเปียก คือ โซนอาบน้ำชำระร่างกาย และเขตแห้ง คือ โซนสำหรับปลดทุกข์ แปรงฟัน ออกจากกัน โดยอาจจะมีอะไรกั้น เช่น ผ้าม่าน กระจกใส เป็นต้น เพื่อเป็นการกำหนดขอบเขตความเปียก ป้องกันการไหลรวมกันของคราบสกปรก อีกทั้งยังลดความเลอะเทอะภายในห้องน้ำได้ ส่งผลให้ประหยัดเวลาในการทำความสะอาด แถมยังสะดวก และง่ายต่อการขจัดคราบสกปรก

2. ใช้กระเบื้องสีอ่อน

หากต้องการกลบคราบสกปรกแล้ว โดยปกติคนส่วนใหญ่มักจะใช้สีเข้มเพื่อพรางตา แต่ในกรณีห้องที่เราไว้ใช้ทำความสะอาดร่างกายหรือปลดทุกข์นั้นกลับใช้ทริคนี้ไม่ได้ เนื่องจากคราบสกปรกโดยส่วนมากจะมีสีเข้ม ถ้าหากคุณพรางตาโดยใช้กระเบื้องที่มีสีเข้มก็จะทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด และถ้าหากเกิดการหมักหมมอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย เพราะฉะนั้นการใช้กระเบื้องสีอ่อนจึงตอบโจทย์ และสะดวกต่อการทำความสะอาดมากกว่า

3. ใช้ยากันแนวแบคทีเรีย

ร่องกระเบื้องตามพื้น หรือบริเวณซอกที่อับชื้นเป็นจุดที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้หมดจด อาจจะเกิดการสะสมของน้ำจนกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา และแบคทีเรียได้ ดังนั้นการใช้ยากันแนวแบคทีเรียที่มีคุณสมบัติในการกำจัด ต่อต้านแบคเรีย และเชื้อรา จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการขจัดสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดโรคตามมาในภายหลัง

4. น้ำส้มสายชูสารพัดประโยชน์

น้ำส้มสายชูเป็นฤทธิ์เป็นกรด มีความสามารถในการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นการนำน้ำส้มสายชูมาช่วยทำความสะอาดก๊อกน้ำ ฝักบัว โถสุขภัณฑ์ กระเบื้อง และอุปกรณ์อื่น ๆ ภายในห้องที่ทำมาจากสแตนเลส ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่ช่วยให้ทำความสะอาดได้อย่างหมดจดราวกับเป็นของชิ้นใหม่

สุดท้ายนี้ การทำความสะอาดห้องน้ำควรที่จะทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันดินพอกหางหมู และลดการสะสมของคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ รวมไปถึงเป็นการลดการหมักหมมของเชื้อรา และแบคทีเรียที่อาจจะนำมาสู่การเกิดโรคในภายหลัง