เทศบาลนครเชียงใหม่ เสริมรถเมล์ 6 คัน ให้บริการ อาเขต – ศูนย์ราชการ

30/5/2017

เทศบาลนครเชียงใหม่ รับมอบรถเมล์ใจดีเพิ่มอีก 6 คัน เป็นรถโดยสารประจำทางขนาด 20 ที่นั่ง สำหรับให้บริการ สาย B3 (อาเขต – ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่) โดยจะเริ่มต้นจาก สถานีขนส่งอาเขต – โลตัสคำเที่ยง – ขนส่งช้างเผือก – มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ – ข่วงสิงห์ –สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก – หอประชุมนานาชาติ – หน้าสนามกีฬา 700 ปี และไปสุดสายที่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้บริการประชาชนได้มีความสะดวกสบายในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว และช่วยลดปัญหามลภาวะทางอากาศของเมืองเชียงใหม่ โดยจะเริ่มเปิดให้บริการแก่ประชาชนในเร็วๆ นี้

นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้เริ่มดำเนินกิจการขนส่งมวลชน ให้บริการแก่ประชาชนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้วที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้ทำการปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย และทำให้ทราบถึงความต้องการของประชาชนที่มีต่อระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่เขตเมือง ที่มีเสียงตอบรับในเชิงบวกและมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากสามารถตอบโจทย์คนเมืองได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้จากผลประกอบการที่ผ่านมาทำให้สามารถแสดงให้เห็นถึงตัวเลขของการช่วยลดปริมาณรถบนท้องถนนได้เป็นจำนวนมาก จากสถิติใน 1 เดือน มีจำนวนประชากรหันมาใช้บริการรถเมล์ร่วมหมื่นคน และลดจำนวนรถบนท้องถนนได้ถึงสองพันกว่าคัน

รถเมล์ใจดีของเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นรถปรับอากาศขนาดเล็กมี 20 ที่นั่ง ได้เริ่มให้บริการในสาย B1 จำนวน 6 คัน เส้นทางเดินรถเริ่มตั้งแต่ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 อาเขต ผ่านศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม สถานีรถไฟ - ตลาดสันป่าข่อย – ถนนท่าแพ – แยกกลางเวียง - วัดพระสิงห์ - คณะแพทย์ มช. – ตลาดต้นพะยอม - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปลายทางสวนสัตว์เชียงใหม่ และกลับมายังสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 อาเขต

ขณะที่สาย B2 มีจำนวนรถให้บริการเท่ากัน และมีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มต้นเส้นทางที่สถานีขนส่งอาเขตเก่า – ผ่านโรงเรียนดาราวิทยาลัย – โรงพยาบาลแมคคอร์มิค – โรงเรียนปริ้นฯ – ตลาดต้นลำไย – ประตูท่าแพ – โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย – อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ – วัดพระสิงห์ – ประตูเชียงใหม่ - จนถึงสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ส่วนขากลับเริ่มจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ – ผ่านทางเส้นถนนวัวลาย – โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ – โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ – อาชีวะศึกษาเชียงใหม่ - ถนนช้างม่อย โรงเรียนดาราวิทยาลัย - กลับมายังสถานีขนส่งอาเขต รวมระยะทางไป - กลับกว่า 27 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงต่อ 1 เที่ยว

และสาย B3 ที่จะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ จะมีรถให้บริการจำนวน 6 คันเช่นกัน โดยมีเส้นทางระหว่างสถานีขนส่งอาเขต –ศูนย์ประชุมนานาชาติ-ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่) เส้นทางเดินรถเริ่มตั้งแต่ สถานีขนส่งอาเขต – โลตัสคำเที่ยง – ขนส่งช้างเผือก – มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ – ข่วงสิงห์ –สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก – ศูนย์ประชุมนานาชาติ – หน้าสนามกีฬา 700 ปี – และมาสิ้นสุดที่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

โดยตารางการเดินรถเมล์จะออกจากสถานีทุกๆ 40 นาทีต่อ 1 คัน และจอดรับผู้โดยสารตามป้ายตลอดเส้นทาง สำหรับอัตราค่าโดยสาร จัดเก็บเด็ก 10 บาทและผู้ใหญ่ 15 บาทตลอดสาย ให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น

ในส่วนของประชาชนทั่วไปที่ได้ใช้บริการแล้วนั้นหลายคนมีความพึงพอใจมาก เพราะรถมีสภาพใหม่ และสะดวกสบายขึ้น อีกทั้งยังมีการติดตั้ง อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นถังดับเพลิง ฆ้อนทุบกระจกในกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นด้วย และในอนาคตอันใกล้นี้ หากประชาชนให้การยอมรับระบบขนส่งมวลชนเทศบาลนครเชียงใหม่แล้ว ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ก็จะได้ผลักดันโครงการอนุรักษ์เมืองเก่าให้มีความสมบรูณ์มากขึ้นในเรื่องการจัดการระบบขนส่งในพื้นที่อนุรักษ์ โดยจะไม่อนุญาตให้รถบัสหรือรถขนาดใหญ่เข้ามาสัญจรในเขตเมืองเก่า แต่จะจัดให้มีรถเมล์ไฟฟ้าไว้ให้บริการในเขตเมืองเก่าแทน เป็นการลดมลพิษ และทำให้เมืองมีเสน่ห์ มีคนเดิน มีคนปั่นจักรยาน ทำให้เมืองเชียงใหม่น่าอยู่มากขึ้น