เพอร์เฟคฯ ชูจุดขายบ้านไร้ฝุ่น ดึง เซกิซุย เคมิคอล ร่วมพัฒนาแบบบ้าน พร้อมปูพรม 4 โครงการระดับไฮเอนด์ในเดือนมี.ค.นี้
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) นิยมเก็บที่ดินแปลงใหญ่ สำหรับการพัฒนาโครงการแนวราบ แม้บางครั้งที่ดินเหล่านั้นอาจจะต้องรอเวลาบ่มเพาะให้พร้อมสำหรับการพัฒนา ทั้งในแง่ของสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ จนบางครั้งกลายเป็นเรื่องของการเสียโอกาส การแบกภาระ จนต้องตัดขายที่ดินบางแปลงออกไป แต่เพอร์เฟค ก็ยังเก็บที่ดินแแลงใหญ่ในทำเลดีๆ ไว้สำหรับพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ชูจุดขายในเรื่องของสภาพแวดล้อมที่ดี แต่ที่ผ่านมาอาจจะมีคนไม่กี่คนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เป็นปัจจัยหลัก แต่สำหรับวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าวว่า เรื่องของมลภาวะทางอากาศจะเป็นปัญหาที่อยู่กับเราไปอีกอย่างน้อย 3 ปี เพราะรถไฟฟ้าเริ่มสร้างเสร็จคาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 ปี เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม เรื่องของสิ่งแวดล้อมบริษัทได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มที่แบรนด์บ้านระดับบนทั้งในส่วนของตัวบ้านและโครงการ ส่วนแบรนด์อื่นๆ อย่างน้อยจะทำในเรื่องของสิ่งแวดล้อมในโครงการ
"ปัญหาเรื่องของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศจะเป็นประเด็นที่ผู้พัฒนาโครงการจะนำมาพัฒนาแบบบ้านและโครงการ เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ ทุกโครงการ เพราะอย่างน้อยจะต้องจัดให้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทมีการซื้อที่ดินแปลงใหญ่สำหรับพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ จึงสามารถทำในเรื่องของสิ่งแวดล้อมได้และเป็นสิ่งที่บริษัททำมานานแล้ว" นายชายนิดกล่าว
ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการบ้านนวตกรรมระบบโมดูลาร์ภายใต้ความร่วมมือกับเซกิซุย เคมิคอลในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมกันใน 4 ทำเล ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา, รามคำแหง, แจ้งวัฒนะ และรัตนาธิเบศร์ รวมมูลค่า 2,200 ล้านบาท
ด้านนายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าวว่า บริษัทจะเดินหน้าต่อยอดการพัฒนาโครงการที่คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีอย่างยั่งยืนและการอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของการอยู่อาศัยเริ่มตั้งแต่การเปิดตัวโครงการบ้านนวัตกรรมภายใต้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้างไปจนถึงการอยู่อาศัยได้อย่างสบาย และปลอดภัยจากปัญหามลพิษ
ทั้งนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับ เซกิซุย เคมิคอล นำนวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่นมาพัฒนาแบบบ้านร่วมกัน ซึ่งเป็นบ้านระบบปิด ป้องกันฝุ่น และเสียงจากภายนอก และมีระบบเหมียนเวียนอากาศที่ผ่านไส้กรอง 3 ชั้น สามารถกรองฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอนได้ ทำให้อาศกาศในบ้านเป้นอากาศที่บริสุทธิ์ และเย็นสบายจากนวัตกรรมถ่ายเทความเย็นของอากาศเข้าและออก นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านพลังงานในการนำเทคโนโลยีด้าน Smart Energy ได้แก่ EV Wall Charger รองรับกลุ่มบ้านระดับไฮเอนด์และรองรับมาตรฐาน EV Ready ในบ้านระดับทั่วไป
รวมทั้งยังได้หารือกับปตท. ในการนำเทคโนโลยีการจัดการพลังงาน (Smart energy monitoring and management) โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และพลังงานหมุนเวียน เช่น Solar PV เพื่อนำมาให้บริการในโครงการของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เป็นครั้งแรกในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย และบริษัทยังเดินหน้าต่อเนื่องสร้างพื้นที่ทะเลสาบอีก 3 แห่งรวมเป็นพื้นที่ 183 ไร่ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในโครงการ และมีแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียวในแต่ละโครงการ โดยเพิ่มต้นไม้เพื่อช่วยฟอกอากาศ
สำหรับแผนงานในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้กลุ่มบริษัทตั้งเป้าขาย 21,600 ล้านบาท ประกอบด้วย เป้าขายของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 20,500 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ12,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 7,000 ล้านบาท และคอนโดประเทศญี่ปุ่น 1,500 ล้านบาท สำหรับเป้าขายบริษัท แกรนด์ แอสเสทฯ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ตั้งไว้ที่ 1,100 ล้านบาท
สำหรับการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้มีแผนเปิด 17 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 16 โครงการ 18,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ 2,000 ล้านบาท ขณะที่แกรนด์ แอสเสทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ รวมมูลค่า 18,300 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 16,000 ล้านบาท และ โครงการวิลล่าจังหวัดระยอง มูลค่า 2,300 ล้านบาท
ทั้งนี้โครงการเปิดใหม่เฉพาะโครงการร่วมทุนที่จะเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ โครงการบ้านนวตกรรมระบบโมดูลาร์ ภายใต้ความร่วมมือกับเซกิซุย เคมิคอลในเดือนมีนาคมนี้ เปิดพร้อมกันใน 4 ทำเล ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา, รามคำแหง, แจ้งวัฒนะ และรัตนาธิเบศร์ รวมมูลค่า 2,200 ล้านบาท ในไตรมาส 4 บริษัทยังจะมีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ภายใต้ความร่วมมือกับ ฮ่องกง แลนด์ ที่ทำเลแจ้งวัฒนะ มูลค่า 10,000 ล้านบาท และ ทำเลบางนา มูลค่า 5,000 ล้านบาท
ส่วนคอนโดมิเนียมจะเปิดโครงการภายใต้ความร่วมมือกับซูมิโตโม ฟอเรสทรี ได้แก่ โครงการไฮด์ เฮอริเทจทองหล่อ คอนโดมิเนียมไฮเอนด์ มูลค่า 6,000 ล้านบาท กำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาถนนเจริญนคร มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2562 อีกด้วย
สำหรับประมาณการรายได้ของกลุ่มบริษัทปีนี้ตั้งไว้ที่ 27,555 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 20,000 ล้านบาท รายได้ของแกรนด์ แอสเสทฯ 1,100 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจโรงแรม 4,500 ล้านบาท รายได้จากการขายที่ดิน 1,740 ล้านบาท และจากธุรกิจให้เช่าอีก215 ล้านบาทโดยมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้า ซึ่งปีนี้ กลุ่มบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ถึง 32.29%หรือ 6,813 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัทปีนี้ประมาณการรายได้จากธุรกิจโรงแรมจะเพิ่มขึ้นจากโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ซึ่งได้รับผลจากการเปิดตัวของไอคอนสยาม นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิทอย่างเป็นทางการของในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมทั้งยังมีการเปิดบริการห้องอาหารรูฟท็อป และเน้นธุรกิจ MICE เพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม