“แสนสิริ” ตอกย้ำผู้นำเซอร์วิสหลังการขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ต่อยอดฟีเจอร์ “Home Care Service” แจ้งและเช็คสถานะซ่อมออนไลน์ 24 ชั่วโมง จบในแอพเดียว รองรับลูกบ้านกว่า 154 โครงการ 52,000 ยูนิต
หลังจากพัฒนาระบบเซอร์วิสหลังการขายในรูปแบบออนไลน์ผ่าน “Home Service Application” (โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น) ร่วมกับบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดในปี 2556 เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกบ้านในยุคดิจิทัล ล่าสุด แสนสิริ ต่อยอดพัฒนาแอพพลิเคชั่นระบบโฮมแคร์ (Home Care) แจ้งซ่อม ควบคุมและ
ติดตามสถานะงานซ่อมแซมต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนระบบประสานงานหลังบ้านระหว่างหน่วยงานโฮมแคร์และผู้รับเหมามืออาชีพที่เชื่อมโยงข้อมูลและอัพเดตด้วยกัน
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจุบัน มีผู้ใช้งาน โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่นกว่า 15,000 ยูนิต ใน 154 โครงการ หลังจากได้เปิดตัวแอพราว 3 ปี และมี Active Rate ถึง 50% ทำให้เห็นแนวโน้มการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
ปัจจุบันแสนสิริ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทยที่พัฒนาซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นขึ้นเอง และต่อยอดพัฒนาระบบเซอร์วิสหลังการขาย “โฮม แคร์” หนึ่งในฟีเจอร์ภายใต้ โฮมเซอร์วิส แอพพลิเคชั่น ที่มีจุดเด่น คือ แจ้งและเช็คสถานะซ่อมผ่านระบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเก็บรวบรวมดาต้าเบสของลูกค้า เพื่อศึกษาพฤติกรรมความต้องการและติดตามงานซ่อมที่ผ่านมาได้ นอกจากการแจ้งซ่อมผ่านระบบ Call Centre Service แบบปกติทั่วไป โดยสามารถย่นระยะเวลาการประสานงาน ลดปัญหาจากการติดต่อสื่อสาร การนัดหมายเข้าซ่อมงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการแจ้งและติดตามงานซ่อมที่รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้นโดยวิเคราะห์จัดลำดับความสำคัญของงานซ่อมแต่ละประเภทอย่างมีระบบ
ในช่วงระยะแรกของการพัฒนา สามารถรองรับลูกบ้านของแสนสิริที่อยู่ในระยะรับประกันปัจจุบัน โดยตั้งเป้าผู้ใช้งานระบบผ่านแอพกว่า 40% ในอนาคตแสนสิริ เตรียมวางแผนพัฒนาระบบรองรับลูกค้าหลังหมดระยะประกัน โดยระยะแรก ได้จัดทำระบบข้อมูลที่รวบรวม Directory lists รายละเอียดรับเหมามืออาชีพแต่ละประเภทกว่า 1,200 บริษัท ภายใต้การดูแลของแสนสิริ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้าน รวมถึงการพัฒนาระบบแจ้งเตือนการซ่อมบำรุงล่วงหน้าเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาจากการใช้งานของอุปกรณ์ภายในบ้านเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ โฮม แคร์ เซอร์วิส ยังรองรับการทำงานของผู้รับเหมาทางด้านงานซ่อมบำรุงผ่านระบบการจัดการข้อมูลภายใน โดยมีทีมงานเป็นตัวกลางในการรับข้อมูลงานซ่อม และช่วยติดตามงานจากผู้รับเหมา หรือส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งลูกบ้าน และแสนสิริสามารถตรวจสอบสถานะงานได้ทันทีทุกที่ทุกเวลา โดยทุกรายการจะได้รับการประเมินงานซ่อม และดูแลงานซ่อมบำรุงต่างๆ ภายในระยะเวลา 7-30 วัน ตามประเภทของรูปแบบงานซ่อม และปิดงานโดยเจ้าหน้าที่ของแสนสิริ เพื่อตรวจสอบทุกรายการก่อนกำหนดส่งมอบให้ลูกบ้าน จึงมั่นใจได้ว่างานซ่อมต่างๆ จะได้รับการดำเนินการอย่างมีมาตรฐาน ตรงเวลา ควบคุมคุณภาพงานซ่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถตรวจสอบ(tracking) ข้อมูลการซ่อมย้อนหลังได้
ตั้งแต่เริ่มทำการตลาดผ่าน Digital Sales kit บนหน้าจอ Multi-touch เป็นรายแรกของไทย ในปี 2552 ซึ่งช่วยสนับสนุนงานขายโครงการได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงการนำเสนอบริการ “Excellent Service” ที่โครงการ ควอทโทร บาย แสนสิริ (ทองหล่อ ซอย4) ใน 2554 ควบคุมการบริการในโครงการผ่านหน้าจอระบบสัมผัส ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของแสนสิริในการมอบความสะดวกสบายให้กับลูกบ้าน และล่าสุด ปี 2556 แสนสิริ พัฒนานวัตกรรมใหม่ผ่าน “โฮมเซอร์วิส แอพพลิเคชั่น” ร่วมกับ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อมอบเซอร์วิสหลังการขายแบบไร้รอยต่อตอบสนองชีวิตแบบคอนเวอร์เจนซ์”
ในการพัฒนาซอฟแวร์แอพพลิเคชั่น สอดคล้องกับแผนพัฒนาธุรกิจในปีนี้ ในด้านการลงทุนและพัฒนานัวตกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่ออนาคต และการใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัยหรือ “พร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี” (Property Technology) อย่างเต็มรูปแบบรายแรกของไทย เพื่อตอบโจทย์งานบริการหลังการขายสำหรับลูกบ้านของแสนสิริ ทำให้สามารถเก็บฐานข้อมูลของลูกค้าแต่ละกลุ่ม มาพัฒนา และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด
ที่มา : condothai