ไรมอน แลนด์ ผนึกทุนญี่ปุ่น โตเกียว ทาเทโมโนะ ลุยพัฒนาคอนโด ไฮเอนด์ ประเดิม 2 โครงการแรกบนสุขุมวิท-สาทร ตั้งเป้า 5 ปี รายได้จากการร่วมทุ่น ทะลุ 10,000-20,000 ล้านบาท
นายเอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่นมีสินทรัพย์กว่า 4 แสนล้านบาท ที่ต้องการขยายโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย โดยจะมีความร่วมมือในการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องในฐานะหุ้นส่วนระยะยาว เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง และผลักดันการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้บริษัท ไรมอนแลนด์ จะถือหุ้น 51% และบริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ 49% ในบริษัทร่วมทุน และบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้า (ถึงปี 2566) บริษัทคาดว่าธุรกิจจะมีรายได้ในส่วนของบริษัท ไรมอน แลนด์ และรายได้จากโครงการร่วมทุนประมาณ 10,000-12,000 ล้านบาท โดยในปีแรกจะเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 9,100 ล้านบาท
โครงการแรกเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียมบนถนนสาทร ซอย 12 มีมูลค่าการลงทุนกว่า 4,200 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ จำนวน 200 ยูนิต ราคาขาย 10 ล้านบาทขึ้นไป คาดว่าจะเริ่มพัฒนาได้ช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ส่วนอีกโครงการอยู่บนทำเลถนนสุขุมวิทย่านพร้อมพงษ์ เนื้อที่กว่า 1 ไร่ มูลค่าการลงทุน 4,900 ล้านบาท จำนวน 150 ยูนิต ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป คาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะช่วยให้บริษัทมียอดขายรวมในปีนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท
"การร่วมทุนมือกับโตเกียว ทาเทโมโนะ จะพัฒนาสินค้าระดับไฮเอนด์ระดับราคา 10-20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นไปตามบุคลิกของไรมอน แลนด์ นอกจากนี้ ในแผน 5 ปี เรายังมีความสนใจโครงการผู้สูงอายุ รวมถึงการขยายไปยังตลาดต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ เช่น ภูเก็ต สมุย หัวหิน พัทยา รวมถึงการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกด้วย ซึ่งมองว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพมากขึ้นในอนาคต " นายลี กล่าว
นายคะทสึฮิโตะ โอซะวะ กรรมการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ กล่าวว่า การตัดสินใจเข้าร่วมทุนกับไรมอน แลนด์ ครั้งนี้ก็เพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เนื่องด้วยขณะนี้เศรษฐกิจประเทศไทยมีเสถียภาพและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และทางโตเกียว มีความสนใจในธุรกิจอสังหาฯ โดยเฉพาะเพื่อการอยู่อาศัย การได้หุ้นส่วนที่เหมาะสมจะทำให้สามารถพัฒนาโครงการ โดยใช้ความรู้และประสบการณ์เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดในอนาคต
ขณะเดียวกัน บริษัท ไรมอนแลนด์ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ถึงการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยนาย จิรวุฒิ คุวานันท์ ประธานใหญ่ โค้วยูฮะ กรุ๊ป ได้เข้าซื้อหุ้นบิ๊กล็อตจากกลุ่มคันทรี่ กรุ๊ป จนทำให้ขึ้นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 หรือถือหุ้นร้อยละ 19.30 แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารจัดการยังไม่มีการปรับเปลี่ยน
นาย ลี กล่าวอีกว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในไตรมาส 2/2561 ผู้ประกอบการยังคงเผชิญปัญหากับจำนวนสต็อกที่มีอยู่มาก โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม และส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับล่างที่มีปัญหาการปฏิเสธสินเชื่ออยู่สูงในปัจจุบันทำให้ไม่สามารถโอนได้จึงยังคงเป็นสต็อกที่เหลือขาย ส่งผลให้ในปีนี้ผู้ประกอบจะไม่เร่งการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่มากขึ้น และยังคงเป็นปีของการทยอยระบายสต็อก ในส่วนของบริษัทซึ่งพัฒนาโครงการที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบนจึงไม่มีความเสี่ยงในด้านการโอน
อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังมีสต๊อกที่ต้องระบายออกไปอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท ก่อนที่จะกลับมารุกการเปิดโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น
Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania