ตามที่รัฐบาลมีแผนพัฒนาศูนย์กลางการบินสุวรรณภูมิและการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งจะส่งผลกระทบด้านการจราจรตามมาได้นั้นดังนั้นกรมทางหลวงชนบท(ทช.) จึงมีแผนการสำรวจออกแบบเพื่อดำเนินการก่อสร้างถนนประชาราษฎร์อุทิศ-ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในพื้นที่จ.สมุทรปราการเพื่อเป็นการเชื่อมโยงระบบโครงข่ายคมนาคมขนส่งตามแผนแม่บทให้สอดคล้องกับการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว
แนวสายทางของโครงการนี้จะเป็นถนนเส้นทางคู่ขนานไปกับถนนเทพรัตน(ถนนบางนา-ตราด) อยู่ห่างไปทางทิศเหนือประมาณ 2-4 กิโลเมตร และขนานไปกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทางด้านทิศใต้ โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณถนนประชาราษฎร์อุทิศ(ถนนกิ่งแก้ว) ทิศทางมุ่งไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ตัดกับถนนวัดศรีวารีน้อย ผ่านด้านเหนือของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ(วิทยาเขตสุวรรณภูมิ) ตัดกับถนนนวมินทราชินูทิศ ข้ามคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ไปบรรจบกับถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี รวมระยะทางประมาณ 16.60 กิโลเมตร
การพัฒนาถนนในโครงการดังกล่าววัตถุประสงค์เพื่อรองรับการเชื่อมโยงระบบโครงข่ายคมนาคมขนส่งให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเมืองสุวรรณภูมิ และโครงข่ายถนนโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตลอดจนพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อเพิ่มความสะดวกในการสัญจรและการขนส่ง อีกทั้งยังจะเกิดประโยชน์ต่อพื้นที่ใกล้เคียงโดยเฉพาะการพัฒนาที่อยู่อาศัยนอกเหนือจากการส่งเสริมโครงข่ายระบบโลจิสติกส์ด้านการท่องเที่ยวและอื่นๆ โดยครอบคลุมพื้นที่ ต.ราชาเทวะ ต.บางโฉลง อ.บางพลี ต.ศีรษะจระเข้ใหญ่ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง และต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
ในส่วนรูปแบบแนวเส้นทางของโครงการถนนเส้นทางนี้คาดว่าจะพัฒนาให้เป็นถนนขนาด 10 เลน เขตทางกว้าง 60 เมตร มีเกาะกลางและทางเท้า โดยเป็นการพัฒนาถนนรูปแบบเดิมในปัจจุบันที่มีขนาด 6 เลนเท่านั้น ล่าสุดเตรียมเปิดรับฟังความเห็นประชาชนครั้งแรกในวันที่ 27 เมษายนนี้ จัดครั้งที่ 2 ในเดือนมิถุนายน 2560 และครั้งที่ 3 (ปัจฉิมนิเทศโครงการ) ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม 2560 เพื่อนำข้อมูลความเห็นเห็นไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับโครงการต่อไป
สำหรับการสำรวจออกแบบถนนโครงการดังกล่าวนี้มีกำหนดระยะเวลา 300 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2559 -18 ตุลาคม 2560 เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดครบถ้วนพร้อมข้อเสนอและความคิดเห็นของประชาชนทช.จะนำเสนอแผนโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการในปีต่อเนื่องกันไป
ดังนั้นคงต้องอดใจรอกันอีกสักหน่อยเพราะหากโครงการดำเนินการแล้วเสร็จจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบรรเทาปัญหาการจราจรในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่รอบๆท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยเฉพาะการมีส่วนสนับสนุนโครงข่ายระบบโลจิสติกส์สำหรับการขนส่งสินค้าส่งออกและนำเข้าให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้ลุ้นว่าจะได้รับการบรรจุไว้ในแผนดำเนินการของทช.ปีไหนและได้รับงบประมาณไปดำเนินการจำนวนให้แล้วเสร็จเลยหรือไม่ ระยะเวลา 1-2 ปีนี้คงได้รับคำตอบชัดเจนจากรัฐบาลคสช.หรือรัฐบาลชุดใหม่ให้ได้ลุ้นกันต่อไป
ที่มา : thansettakij