สัมมากร จับมือ ไฟเบอร์วัน สร้างบ้านตอบรับชีวิตยุคดิจิทัล ติดตั้งไฟเบอร์ออฟติกหมู่บ้านและคอนโด 14โครงการ ก้าวสู่บ้านแห่งอนาคต “สมาร์ทโฮม”
นายกิตติพล ปราโมช ณอยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าได้ร่วมมือกับไฟเบอร์วัน ผู้ให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกในที่พักอาศัยและชุมชนของผู้อยู่อาศัย เพื่อก้าวสู่สังคมที่อยู่อาศัยในยุคดิจิทัล Smart Home, Smart Living, Smart Society ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่และตอบรับกับการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล
ในอนาคตอันใกล้เตรียมติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บ้านและดูผ่านมือถือ ช่วยให้คนทำงาน
ยุคใหม่ ดูลูกหรือพ่อ-แม่ ผู้สูงวัย ได้อย่างรู้สึกวางใจมากขึ้น การสั่งเปิดแอร์ก่อนถึงบ้าน 20 นาที ผ่านมือถือ พอถึงบ้านก็เย็นสบายพอดี การสั่งเปิดไฟหน้าบ้านหรือในบ้านตอนถึงบ้านเพื่อสะดวกในการเดินเข้าบ้าน หรือหลอดไฟรุ่นใหม่ที่มีเซ็นเซอร์เปิดอัตโนมัติยามพระอาทิตย์ตกดิน การเปิดทีวีและสั่งอัดรายการโปรด รวมถึงบริการไฟเบอร์ทีวี ที่ให้ภาพคมชัดสมจริงได้อรรถรสความบันเทิงเต็มรูปแบบ หรือในอนาคตอันใกล้ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จะสั่งเปิด-ปิด ผ่านรีโมท หรือเชื่อมโยงเข้าอินเทอร์เน็ต
“เทคโนโลยีได้ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของเราในทุกๆ การใช้งาน นี่คือ รูปแบบชีวิตยุคดิจิทัล และสัมมากรพร้อมในการให้บริการลูกบ้าน”
ปัจจุบัน ไฟเบอร์วันได้ติดตั้งโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกให้กับโครงการหมู่บ้านและคอนโดของสัมมากรแล้ว 2 แห่ง คือ โครงการสัมมากรบางกะปิ และเอส9 คอนโดมิเนียมและกำลังดำเนินการอยู่ 2 โครงการ คือ โครงการสัมมากรอเวนิว รามอินทรา-วงแหวน และชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ รวมถึงมีแผนติดตั้งในโครงการสัมมากรสุวรรณภูมิ และอเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน
นอกจากนั้นยังได้รับความไว้วางใจในการติดตั้งระบบ E-Security ผ่านกล้องวงจรปิด เพื่อให้ลูกบ้านในโครงการสัมมากร นอกจากสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังได้รับความปลอดภัยจากระบบ E-Security system จากโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกของไฟเบอร์วัน
ที่สำคัญ คือ โครงการหมู่บ้านไม่จำเป็นต้องลงทุนติดตั้งโครงข่ายเอง เพราะไฟเบอร์วัน ใช้โมเดลในการดำเนินธุรกิจแบบ Sharing and Caring โดยไฟเบอร์วันเป็นผู้ติดตั้งโครงข่ายให้กับหมู่บ้านนิติบุคคล และดูแลรักษาโครงข่ายให้เป็นเวลา 15 ปี หลังจากนั้นจะยกโครงข่ายให้กับทางโครงการ
นายกิตติ โกสินสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฟเบอร์วัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปัจจุบันโลกดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทุกวัย การสร้างโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก จะเป็นหัวใจสำคัญและเป็นโครงข่ายพื้นฐานในการปูทางสู่การใช้งานดิจิทัลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และตอบสนองต่อความต้องการ
“เรื่องเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะพฤติกรรมคนเปลี่ยนไป การรอแค่เพียง 30 วินาที ก็อาจทำให้คนเปลี่ยนใจไปใช้บริการของอีกแบรนด์หนึ่งได้ ดังนั้นโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก ที่ให้ความเร็วในระดับกิกะบิตต่อวินาที จึงเป็นโครงข่ายที่เป็นหัวใจสำคัญของโลกดิจิทัล”
ที่มา : bangkokbiznews