วางตำแหน่งของห้องให้ถูกทิศทางกับแสงแดดและลม

สำหรับคนที่กำลังจะเลือกซื้อบ้านจัดสรรอาจจะสงสัยว่าต้องเลือกบ้านที่หันไปทางทิศใต้หรือทิศเหนือดี แต่ก็มีหลายครั้งที่เลือกไม่ได้เพราะเหลือบ้านให้เลือกน้อย ทำให้บางครั้งก็ได้บ้านที่มีตำแหน่งห้องแปลกๆ ห้องบางห้องอาจโดนแดดจนร้อนทำให้ใช้งานไม่ได้ Baania เรามีการจัดตำแหน่งของห้องให้เหมาะสมกับทิศ แถมด้วยวิธีแก้ไขหากห้องอยู่ในทิศที่ไม่ถูกต้องมาฝากกัน เผื่อจะเอาไปแก้ไขให้อยู่บ้านได้สบายมากขึ้นนะครับ

ก่อนอื่นเลย หลักการจำง่ายๆเกี่ยวกับเรื่องเกี่ยวกับทิศทางของแสงแดดและลมของบ้านเรานั้น ประเทศไทยแสงแดดจะขึ้นที่ทิศตะวันออกและเลื่อนมาทางทิศใต้ และจึงไปตกที่ทิศตะวันตก จำง่ายๆว่า ทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้จะร้อนเพราะจะโดนแดดในช่วงบ่าย ทิศเหนือจะได้รับแสงสว่างแต่จะไม่โดนแสงแดดตลอดทั้งวัน ส่วนลมประจำของประเทศไทยจะมีลมตะวันตกเฉียงใต้ในฤดูร้อน และ ลมตะวันออกเฉียงเหนือในฤดูหนาว จำง่ายๆว่าส่วนใหญ่ลมจะพัดมาจากทิศใต้ และมีลมเย็นๆมาจากทิศเหนือเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ทั้งนี้การเลือกตำแหน่งห้องก็ควรเลือกให้สอดคล้องกับทิศทางแสงแดดและทิศทางลมนั้นเอง โดยมีตำแหน่งดังนี้

ห้องนอน

ห้องนอน ควรอยู่ทิศเหนือหรือตะวันออก เพราะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดอ่อนๆในตอนเช้า ช่วยกระตุ้นให้ตื่นนอน แต่ถ้าใครที่ต้องการนอนยาวๆเนื่องจากทำงานกะดึก ห้องนอนควรอยู่ทิศเหนือ เพราะเป็นทิศที่จะไม่โดนแดดตลอดทั้งวันทำให้ไม่มีแสงแดดมารบกวน ทั้งยังได้ลมเย็นๆพัดเข้ามาในช่วงหน้าหนาว

หากห้องนอนอยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งจะทำให้ห้องนอนได้รับแสงแดดแรงในช่วงบ่ายและเกิดการสะสมความร้อนที่ทำให้ห้องร้อนในช่วงค่ำ ทั้งนี้อาจจะแก้ไขด้วยการทำระแนงไม้หรือแผงบังแดดในทิศที่โดนแดดเพื่อลดปริมาณแสงแดดที่ส่องเข้าหน้าต่างและสะสมความร้อนที่ผนังบ้าน

ห้องรับแขก ห้องทำงาน

ห้องรับแขก ควรอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นทิศที่ตกบ่ายมาแสงแดดจะไม่สาดเข้าห้องโดยตรง ทำให้สามารถนั่งพักผ่อนได้ตลอดทั้งวัน เช่นเดียวกันกับห้องทำงาน ที่สามารถอยู่ทางทิศเหนือหรือตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้สามารถนั่งทำงานได้ทั้งวันโดยที่ไม่มีแสงแดดรบกวน

หากห้องรับแขกหรือห้องทำงาน อยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ อาจจะทำให้ห้องร้อนจนใช้งานไม่ได้ อาจแก้ไขด้วยการปลูกต้นไม้ไว้บริเวณรั้วบ้าน โดยเลือกต้นที่ใหญ่และสูงพอที่จะบังแดดได้ ทั้งนี้อย่าปลูกต้นไม้ใหญ่ใกล้บ้านมากเกินไป เพราะจะเป็นการบังลมที่พัดมาจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้นั้นเอง

ห้องครัว ห้องทานอาหาร

ห้องครัว ควรอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะเป็นทิศที่ห้องครัวจะได้รับแสงในปริมาณที่พอเหมาะ แต่ถ้าห้องครัวอยู่ทางทิศใต้ซึ่งเป็นทิศที่จะมีลมประจำพัดมา ทำให้กลิ่นจากห้องครัวโชยไปห้องอื่นๆได้ อาจแก้ไขด้วยการแยกห้องครัวให้เป็นห้องปิดและใช้เครื่องดูดควันมาช่วย ถ้ามีแดดเข้าแรงก็ติดตั้งเป็นม่านมู่ลี่ที่สามารถปรับได้ระดับได้

ห้องทานอาหาร ควรอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรับลมจากทางใต้เพื่อเป็นการระบายอากาศ อย่างไรก็ตามถ้าย้ายครัวไปติดกับห้องครัวเลยก็ได้ เพื่อให้สะดวกกับการใช้งานมากกว่า ถ้าหากอยู่ในตำแหน่งที่โดนแดดในช่วงบ่ายก็อาจแก้ไขด้วยการติดม่านบังแดดแทน

ห้องน้ำ

ห้องน้ำ ควรอยู่ทิศตะวันตกหรือตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อให้แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อโรค ลดกลิ่นอับและทำให้พื้นห้องน้ำแห้งซึ่งจะช่วยให้น่าใช้งานมากขึ้น โดยห้องน้ำควรอยู่ตำแหน่งริมนอกของบ้านและที่ไม่อยู่เหนือลมซึ่งจะพัดเอากลิ่นไม่พึงประสงค์โชยไปยังห้องอื่นๆ

หากห้องน้ำอยู่ทิศที่ไม่โดนแดด อาจจะแก้ไขด้วยการเพิ่มช่องเปิดให้ใหญ่ขึ้นให้ห้องน้ำสามารถรับแสงสว่างและระบายอากาศได้ดีขึ้น แต่หากห้องน้ำไม่สามารถเจาะช่องเปิดให้ใหญ่ขึ้นได้หรืออยู่กลางบ้านที่ไม่มีหน้าต่าง อาจเพิ่มขนาดพัดลมดูดอากาศและใช้อุปกรณ์ช่วยดูดกลิ่นในห้องน้ำมาช่วย

ซักล้าง

ซักล้าง เป็นพื้นที่หลังบ้านที่ใช้สำหรับซักผ้าและตากผ้า ควรอยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกที่ได้รับแสงแดดโดยตรง ทำให้สามารถตากผ้าได้ดี แต่ถ้าส่วนซักล้างไม่โดนแดดเลย ก็อาจจะต้องเอาผ้าไปตากที่หน้าบ้านแทน ซึ่งทำให้หน้าบ้านดูไม่น่ามอง ทั้งนี้อาจแก้ไขด้วยการเปลี่ยนกำแพงรั้วบ้านให้ทึบขึ้นหรือปลูกต้นไม้ที่เน้นการบังสายตาแต่ไม่บังแดดที่รั้วบ้านเพื่อซ่อนจุดที่ใช้ตากผ้า

อย่างไรก็ตามการเลือกทิศทางต่างๆของห้องนั้น อาจพิจารณาถึงการใช้ชีวิตประจำวันเป็นหลัก ถ้าเราอยู่บ้านแค่ช่วงกลางคืนก็อาจไม่ต้องคิดมากเรื่องแสงแดดมากนัก หรือถ้าต้องทำงานที่บ้านทั้งวัน อาจให้ความสำคัญกับห้องทำงานมากกว่าห้องนอน หรือห้องบางห้องมีการใช้งานเพียงไม่นานอย่างห้องครัว ก็อาจจะให้อยู่ผิดทิศไปบ้าง ก็ไม่เป็นไรมากนัก ยังไงก็ค่อยๆปรับค่อยๆแก้กันไปนะครับ