วิธีขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
ผู้ใช้ไฟฟ้า ถึงเวลาเปิดกระเป๋ารับเงินคืนกันแล้วครับ
หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้เคาะมติมาตรการคืนเงินประกันการใช้ไฟ ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ ค่าธรรมเนียมเงินประกันการใช้ไฟฟ้า โดยเก็บไว้เป็นค่าธรรมเนียมในการเรียกเก็บเงินล่วงหน้า เพื่อเป็นเงินประกันการใช้ไฟฟ้า และจะได้เงินคืนก็ต่อเมื่อเราเดินทางไปทำเรื่องยกเลิกใช้ไฟฟ้า
ตอนนี้(13 มี.ค. 20) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้หารือแนวทางการคืนเงินและรับเงินร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ได้ข้อสรุปในเรื่องขั้นตอนและวิธีการรับเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้กระบวนการคืนเงินเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใสถึงมือเจ้าของมิเตอร์จริง ดังนี้
- เปิดให้ประชาชนและกิจการขนาดเล็กลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ในพื้นที่ และลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ แอปพลิเคชันของการไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้กำลังทำระบบอยู่ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
- กรอกหมายเลขบัตรประชาชน
- กรอกหมายเลขบัตรประชาชน
- กรอกชื่อ-นามสกุล
- กรอกเลขที่สัญญาที่อยู่ในบิลค่าไฟฟ้า
- หากข้อมูลตรงกันจะได้รับเงินคืนตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป ซึ่งการจ่างเงินคืนนั้นจะเน้นจ่ายทางช่องทางออนไลน์เป็นหลัก แต่หากไม่สะดวกการไฟฟ้าจะหาวิธีอื่นต่อไป และหากข้อมูลที่ผู้ลงทะเบียนกรอกไม่ตรงกับระบบ จะมีการแจ้งปัญหาให้กับการไฟฟ้า เพื่อแก้ไขให้ข้อมูลถูกต้อง
สำหรับการจ่ายคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับแต่ละรายที่วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไว้กับการไฟฟ้าฯ ซึ่งมีอัตราค่าธรรมเนียมเงินประกัน มีขนาดมิเตอร์และวงเงินคืน ดังนี้
- มิเตอร์ขนาด 5(15) เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 300 บาท
- มิเตอร์ขนาด 15(45) เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 2,000 บาท
- มิเตอร์ขนาด 30(100) เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 4,000 บาท
- มิเตอร์ขนาด 15(45) เฟส 3 เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 6,000 บาท
ส่วนใครที่อยากทราบมาตรการรัฐอื่นๆ ที่ประกาศออกมาเพื่อลดผลกระทบจะไวรัส COVID-19 สามารถอ่านได้ที่ 12 มาตรการรัฐ สู้ไวรัสโควิด-19