Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

กกพ. เตรียมพิจารณาเก็บเงินค่าสำรองไฟฟ้าสำหรับผู้ติดตั้งโซล่าเซลล์ ชี้เพื่อความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

กกพ.เตรียมเก็บเงินค่าสำรองไฟฟ้ารายเดือนจากผู้ผลิตไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป เหตุชาวบ้านส่วนใหญ่จ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้นเพื่อสำรองไฟฟ้าให้กลุ่มนี้  กฟผ.ชี้ต่างประเทศเริ่มเก็บแล้ว 300 บาท

นายพฤหัส วงศ์ธเนศ รองผู้ว่าการนโยบายและแผน  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า แนวโน้มประเทศไทยจะมีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคณะกรรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มองว่าจะกระทบต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ประชาชนจะจ่ายเพิ่มขึ้น เพราะระบบรวมต้องแบ็คอัพไฟฟ้าให้ผู้ผลิตไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป

ดังนั้น กกพ.กำลังพิจารณาเก็บค่าแบ็คอัพหรือสำรองไฟฟ้าสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งขณะนี้มีผู้ผลิตแล้ว 100-200 เมกะวัตต์ โดยในสหรัฐอเมริกามีการเริ่มเก็บแล้ว บางรัฐเก็บแบ่งเก็บเป็นอัตราบ้านและโรงงานอุตสาหกรรม โดยบ้านเก็บอัตรา 3-10 ดอลลาร์สหรัฐ (34-340 บาท ) ต่อเดือน  

นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าฯ กฟผ. กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังปรับ 5 แผนพลังงาน กฟผ.รอดูว่าสุดท้ายแผนจะเป็นอย่างไร โดยปัจจุบันแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558-2579 (AEDP 2015) ว่า แผน AEDP 2015 ตั้งเป้าให้ไทยมีกำลังผลิตจากพลังงานทดแทนประมาณ 19,000 เมกะวัตต์ 

ดังนั้น กฟผ. ซึ่งมีหน้าที่รักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ จึงต้องดูแลให้การเพิ่มเข้าสู่ระบบของพลังงานทดแทนในปริมาณมากเช่นนี้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของพลังงานทดแทน ขณะที่เทคโนโลยีการผลิตยังไม่เสถียร ทำให้จำเป็นต้องมีการเตรียมการรองรับที่ดี

แม้ว่าปัจจุบันยังมีผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ผลิตไฟฟ้าใช้เอง แต่ยังคงพึ่งพาไฟฟ้าจากระบบไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งลักษณะนี้เริ่มมีมากขึ้น ทำให้ระบบไฟฟ้าต้องเตรียมกำลังผลิตเพื่อสำรองไฟฟ้าเผื่อไว้ให้ตลอด 24 ชั่วโมง อันจะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าโดยรวม

 นอกจากนี้ ระบบไฟฟ้าของประเทศไทยเป็นระบบสะท้อนต้นทุนจริงที่เกิดขึ้นทั้งระบบและเป็นระบบประกันการลงทุน จึงมีการจ่ายค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment: AP) เสมือนการจ่ายค่าเช่าเครื่องตลอดอายุโรงไฟฟ้าประมาณ 25 ปี ซึ่งเป็นการเฉลี่ยมูลค่าการลงทุนไป 25 ปี ที่ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องจ่ายค่าลงทุนในอนาคตร่วมกันด้วย การมีผู้เดินออกจากระบบไปผลิตไฟฟ้าใช้เอง จึงเท่ากับทิ้งภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบในอนาคตไว้ให้กับคนที่ยังอยู่ในระบบอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรปเช่นกัน

ทั้งนี้ระบบดังกล่าวต่างจากหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่ใช้ระบบตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า (Power Pool) เป็นการแข่งขันด้านราคาที่ประชาชนมีสิทธิเลือกซื้อ เมื่อพลังงานทดแทนที่ได้รับการอุดหนุนเข้ามาในระบบจะทำให้โรงไฟฟ้าในระบบเดิมต้องลดการผลิต มีผลให้ต้นทุนต่อหน่วยผลิตสูงขึ้น ผู้ประกอบการก็จะขึ้นราคาเพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้ ทำให้ปัจจุบันค่าไฟฟ้าในระบบ Power Pool สูงมากถึง 5 – 13 บาท และบางประเทศมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มกับผู้ที่ออกจากระบบไปผลิตไฟฟ้าใช้เอง

 

ขอบคุณข่าวและภาพประกอบจาก: สำนักข่าวไทย

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 

 

 

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร