กระชายถือเป็นราชาแห่งสมุนไพรไทยที่ควรมีไว้ติดบ้าน ด้วยสรรพคุณทางยาที่หลากหลายทานได้ทั้งผู้สูงวัยและคนหนุ่มสาว เหมาะสำหรับการบำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ บำรุงกังลังวังชา จะทานในรูปแบบเครื่องดื่มหรือนำมาประกอบอาหารก็ช่วยเพิ่มความจัดจ้าน มีกลิ่นหอม ขยายพันธุ์ง่ายก็ง่ายใช้พื้นที่น้อย แถมพืชชนิดนี้นำไปบดเพื่อไล่แมลงได้อีกด้วย ซึ่งบทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับกระชายพืชที่ควรมีติดบ้านแบบเจาะลึกกัน
กระชาย เป็นสมุนไพรที่จัดอยู่ในพืชล้มลุก มี 3 ชนิดคือ กระชายเหลือง กระชายแดง และกระชายดำ ลักษณะมีสีน้ำตาลเหลือง ส่งกลิ่นหอมระเหยอ่อน ๆ ส่วนใบ เป็นรูปหอกตั้งตรงปลาย แหลม แต่ผิวเรียบ มีสีเขียวอ่อนกว้าง กระชายจะเจริญเติบโตได้ดีในอาณาเขตป่าดิบร้อนชื้น ดอกของกระชายมีสีชมพูถึงเหลืองอมขาว เวลาออกดอกจะเกิดขึ้นเป็น 2 ช่วง คือเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และเมษายนถึงมิถุนายน
กระชายมีรสชาติละเอียดอ่อน เปรียบได้กับการผสมผสานระหว่างความหวานอันอบอุ่นของขิงกับความขมเล็กน้อยและความร้อนของพริกไทยดำ กลิ่นของกระชายจะไม่ฉุนร้อนเท่ากับขิงและข่า เราจึงมักนิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหาร ซึ่งมีหลายเมนู ที่เอากระชายเป็นตัวช่วยนำมาลดกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ เช่น ขนมจีนน้ำยากะทิ ผัดฉ่าทะเล เป็นต้น แต่ถ้านำมาทำเป็นยารักษาโรค กระชายจะมีสรรพคุณทางยาที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่ปลายรากถึงยอดของใบ ด้วยคุณสมบัติที่ถูกนำมาใช้เพื่อการรักษาหรือป้องกันสภาวะสุขภาพได้ทุกส่วนนี้ ที่สำคัญยังเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด กระชาย จึงเลยได้ฉายาว่า เป็นโสมของไทย หรือราชาแห่งสมุนไพรนั่นเอง
ส่วนผสม | ||
---|---|---|
เนื้อปลาช่อน | 300-450 | กรัม |
กระชาย ตะไคร้ หอมแดง ซอยรวมกัน | 100 | กรัม |
น้ำปลา | 2 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำมะขามเปียกต้มสุก | 2 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำตาลปิ๊บ | 1/2 | ช้อนชา |
พริกป่น เกลือป่น พริกไทยป่น ข้าวคั่ว ผักต้มสุก | ตามความชอบ |
เตรียมน้ำจิ้มแจ่ว โดยผสมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ ใส่พริกป่น ข้าวคั่วคนให้เข้ากัน ชิมรสตามที่ชอบ
นำเนื้อปลาช่อนเรียงใส่จาน โรยเกลือป่น พริกไทยป่น กระชาย ตะไคร้ หอมแดง ยกขึ้นนึ่งในน้ำเดือดไฟปานกลาง ประมาณ 8 – 10 นาที หรือจนสุก แล้วยกลง
จากนั้นให้จัดปลานึ่งกระชายใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับ ผักต้มสุกและน้ำจิ้มแจ่ว
1. นำกระชายและขิงแก่ มาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นปอกเปลือกออก
2. นำกระชายและขิงแก่แช่น้ำเกลือประมาณ 5 นาที เพื่อฆ่าเชื้อโรค และสารปนเปื้อน
3. เมื่อทำความสะอาดกระชายและขิงแก่เรียบร้อยแล้ว ให้นำมาใส่ขวดโหล
4. รินน้ำผึ้งลงไปในโหล ให้ท่วมขิงแก่และกระชายเพียงเล็กน้อย จากนั้นปิดฝาตั้งทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เก็บให้พ้นแสงแดด
5. เมื่อเวลาผ่านไป 7 วัน สามารถนำมารับประทานได้ โดยกินเนื้อของกระชายและขิงแก่แค่วันละ 1 – 2 หัว จะกินช่วงเวลาไหนก็ได้
6. การมีสุขภาพที่แข็งแรง ก็ไม่ได้มาจากการกินอาหาร และดื่มเครื่องดื่มที่ดีมีประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่ท่านควรออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย
เมื่อคุณจะซื้อกระชายตามท้องตลาด ควรเลือกซื้ออย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพดี วิธีในการเลือกซื้อให้ดูที่ราก รากที่ดีของกระชายต้องมีขนาดใหญ่กว่านิ้วก้อย และก่อนที่จะนำมาทำอาหารหรือทำยา ควรเอากระชาย แช่ในน้ำเกลือประมาณ 20 นาที เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย หรือสารปนเปื้อนอื่น ๆ อย่างยาฆ่าแมลงให้หมดไปเสียก่อน ก่อนจะนำมาปรุงอาหารหรือใช้รักษาโรค
นี่คือความมหัศจรรย์ของกระชายหรือโสมไทยที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคได้ตั้งแต่ปลายรากถึงยอดของใบ ที่สำคัญคือ กระชายสามารถนำมาบดผสมกับตะไคร้ หอมแดง ใบสะเดา ข่า แล้วนำไปผสมน้ำเพื่อฉีดพ่นบริเวณที่แมลงชุกชุมในบ้านโดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงอย่างแน่นอน สรรพคุณรอบด้านแบบนี้ต้องหามาติดบ้านไว้เสียแล้ว