หน้าร้อนทีไร ค่าไฟพุ่งกระฉูดทุกปี แต่ปีนี้ที่เราต้อง Work From Home กลับแพงขึ้นไปไม่หยุด แม้ว่าจะมีมาตรการรัฐมาช่วย และแม้จะทำใจมาบ้างแล้วว่าจะแพง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะแพงขนาดนี้ เรามาดูกันครับว่าทำไฟค่าไฟถึงแพงนัก แล้วเราจะลดค่าไฟด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอใครช่วยอย่างไรได้บ้าง
1.การไฟฟ้า คิดค่าไฟแบบอัตราก้าวหน้ามาตลอด ใช้เยอะจ่ายเยอะ ซึ่งบ้านที่อยู่อาศัยเป็นประเภทที่ 1 จะคิดค่าไฟ โดยที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % , ค่าบริการ และหักส่วนลดค่า FT ดังนี้
-ใช้ไปหน่วยที่ 0-150 หน่วย จ่ายราคาหน่วยละ 3.2484 บาท
-ใช้ไปหน่วยที่ 151-400 หน่วย จ่ายราคาหน่วยละ 4.2218 บาท
-ใช้ไปหน่วยที่ 400 ขึ้นไป จ่ายราคาหน่วยนะ 4.4217 บาท
2.ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟเยอะ ได้แก่
- แอร์หรือเครื่องปรับอากาศและคอมเพลสเซอร์ โดยปกติจะกินไฟที่ประมาณ 1,450 – 5,200 วัตต์ หรือคิดเป็นค่าไฟสูงสุด 20 บาท/ชม.
วิธีประหยัด :
- เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศในแต่ละรุ่นจะมีบอกกำลังวัตต์ให้เห็นว่ากินไฟมากน้อยขนาดไหน ฉะนั้นยิ่งวัตต์สูงก็จะยิ่งกินไฟ
วิธีประหยัด : พยายามอย่าเปิดเครื่องฟอกอากาศพร้อมแอร์ เพราะจะกินไฟเพิ่มขึ้น โดยสามารถคลิก อ่านวิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศได้ที่นี่
- พัดลมไอน้ำ
พัดลมไอน้ำ ในแต่ละรุ่นจะมีบอกกำลังวัตต์ให้เห็นว่ากินไฟมากน้อยขนาดไหน ฉะนั้นยิ่งวัตต์สูงก็จะยิ่งกินไฟ
วิธีประหยัด : ก่อนซื้อควรตรวจสอบวัตต์ที่ใช้ก่อนว่าใช้ไฟมากหรือไม่
- ตู้เย็น
โดยปกติตู้เย็น 59 – 240 วัตต์ จะกินไฟสูงสุดประมาณ 0.96 บาท/ชม. ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นกินไฟมากนั้นมาจากการเปิดบ่อย เพราะตู้เย็นสูญเสียอุณหภูมิตอนเปิด หรือกักตันอาหารแช่เอาไว้ในช่วงนี้ ซึ่งจะทำให้คอมเพลสเซอร์ตู้เย็นทำงานหนัก อีกทั้งยังมาจากขอบยางตู้เย็นชำรุด ทำให้ความเย็นไหลออกมาสู่ข้างนอก คอมเพลสเซอร์ตู้เย็นก็จะทำงานหนัก เพื่อรักษาอุณหภูมิที่เราต้องไว้
วิธีประหยัด :
- เครื่องซักผ้า
โดยปกติแล้วเครื่องซักผ้า 250 – 2,000 วัตต์ จะกินไฟสุงสุด 8 บาท/ชม. ซึ่งในการซักแต่ละครั้งไม่ว่าจำนวนเสื้อผ้าจะมากน้อย ก็จะใช้ไฟเท่าๆกัน ซึ่งทั้งนี้ต้องขึ้นอยุ่กับเวลาในการซักด้วย ถ้าซักนานก้จะเปลืองไฟมากขึ้นด้วย ฉะนั้นหากอยู่บ้านแล้วซักเสื้อผ้าบ่อยครั้ง หรือในช่วงที่อยู่บ้านมีการดูแลบ้านชุดใหญ่ จับนั่นนี่มาซักบ่อยๆ ก็จะทำให้เปลืองไฟนั่นเอง
วิธีประหยัด : ซักผ้าคราวละมากๆ พร้อมกันในครั้งเดียว
นอกจากนี้ยังมีวิธีประหยัดไฟอื่นๆที่ไม่ควรมองข้ามกันอีกนะครับ ไม่ว่าจะเป็น
1.ใช้หลอดไฟ LED เพราะช่วยประหยัดพลังงานได้สูงที่สุดถึง 80% ใช้พลังงานน้อย แต่ให้ความสว่างมาก และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดไฟชนิดอื่น
2. ถ้าชาร์ตแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กเต็มแล้วให้ดึงปลั๊กออก จะได้ไม่กินไฟตลอดเวลา
3. ปิดคอมพิวเตอร์ช่วงพักและหลังใช้งาน หรือตั้งค่าปิดหน้าจออัตโนมัติ เพื่อหยุดการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
เอาล่ะครับลองนำวิธีเหล่านี้ไปลองทำดูเพื่อช่วยลดค่าไฟกันนะครับ ใครที่อยากรู้ว่าเดือนนี้ค่าไฟเราจะประมาณเท่าไรสามารถคำนวณค่าไฟออนไลน์เองได้ที่ www.mea.or.th หากใครลองวิธีประหยัดค่าไฟแล้วยังรู้สึกว่าค่าไฟเรายังผิดปกติอยู่ สามารถยื่นเรื่องผ่านเว็บไซต์ www.mea.or.th ได้ โดนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะลงไปตรวจสอบให้ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่นะครับ
สู้ๆนะครับ ร้อนนี้ โควิดนี้เราจะผ่านไปด้วยกัน