Baania ขอนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ของฝั่งอุปสงค์ในแง่ของยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในภาคเหนือ พบว่ามียอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งหมดจำนวน 18,820 ยูนิต และจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนมากที่สุดถึง 70% ของทั้งหมด
ปี 2559 จังหวัดเชียงใหม่ มียอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย 13,007 ยูนิต ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% จากปี 2558 ซึ่งมีจำนวน 12,568 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2559 มีมูลค่ารวม 26,910 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% ในภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในด้านจำนวน, มูลค่าและราคาเฉลี่ย โดยที่ราคาเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น 2%
โครงการแนวราบ
ด้านจำนวน ปี 2559 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ซึ่ง บ้านเดี่ยว ยังคงเป็นตลาดบ้านในแนวราบที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยในปี 2559 มียอดโอนกรรมสิทธิ์ 43% หรือ 5,603 ยูนิต ปรับเพิ่มขึ้น 16% รองลงมาเป็น ทาวน์เฮาส์ 9% หรือ 1,177 ยูนิต ปรับเพิ่มขึ้น 10% อันดับที่ 3 อาคารพาณิชย์ 8% หรือ 1,000 ยูนิต ซึ่งมีการปรับตัวลดลง 19% และที่เหลือเป็นบ้านแฝด 3% หรือ 446 ยูนิต ปรับลดลง 27%
ด้านมูลค่า โดยในปี 2559 บ้านเดี่ยวมีมูลค่าสูงสุด 50% หรือ 13,511 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 6% รองลงมาเป็นอาคารพาณิชย์ 11% หรือ 3,089 ล้านบาท ปรับลดลง 19% อันดับต่อมาเป็นทาวน์เฮาส์ 6% หรือ 1,722 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 16% และที่เหลือเป็น บ้านแฝด 3% หรือ 882 ล้านบาท ปรับลดลง 22%
ด้านราคา อาคารพาณิชย์ถือเป็นบ้านแนวราบที่มีราคาเฉลี่ยสูงสุด ถึง 3.1 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1% รองลงมาเป็น บ้านเดี่ยว 2.4 ล้านบาท ปรับลดลง 9% อันดับต่อมาคือบ้านแฝด 2 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 8% และทาวน์เฮาส์ 1.5 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 4%
โครงการแนวสูง
ด้านจำนวน คอนโดมิเนียมยังคงได้รับความนิยมมากกว่าโครงการในแนวราบ ในปี 2559 มียอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 4,781 ยูนิตหรือ 37% ของทั้งหมด โดยมีจำนวนลดลง 1% จากปี 2558
ด้านมูลค่า คอนโดมิเนียมในปี 2559 มีมูลค่ารวมสูงสุด 7,706 ล้านบาท หรือ 29% ของยูนิตการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทุกประเภทรวมกัน ปรับเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนหน้า
ด้านราคา โครงการคอนโดมิเนียมมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 16%
จำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ ปี 2559 มีจำนวน 13,007 ยูนิต เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้น 6% จาก 7,733 ยูนิต เป็น 8,226 ยูนิต และโครงการแนวสูง ลดลง 1% จาก 4,835 ยูนิต เป็น 4,781 ยูนิต มีผลทำให้การโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 3% จาก 12,568 ยูนิต เป็น 13,007 ยูนิต
จากยูนิตโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด เป็นบ้านเดี่ยวที่มีการขยายตัวสูงสุด โดยมีสัดส่วนประมาณเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด รองลงมาเป็น ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์และบ้านแฝด ในทางกลับกัน ในหมวดของคอนโดมิเนียม มีจำนวนยูนิตที่ลดลงสวนทางกับมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC)
บทความแนะนำ