ตลาดบ้านไตรมาสแรกยอดขายฉลุย

ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของไตรมาสแรก ซึ่งคาดว่าจะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง เมื่อสถานการณ์แวดล้อมต่างๆ เป็นใจให้ยอดขายของแต่ละบริษัทน่าจะเดินสู่เป้าหมายได้ไม่ยากเย็นนัก เพราะเท่าที่เช็กยอดในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็สามารถทำกันได้ตามเป้ากันถ้วนหน้า

ยอดขายบ้าน3เดือนแรกเข้าเป้า
ขณะเดียวกันในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 38 ที่ผ่านมา หลายๆ บริษัทก็สามารถปั๊มยอดขายเพิ่มได้อีกทางสมทบกับยอดในช่วง 2 เดือนแรก ทำให้ปิดไตรมาสแรกได้อย่างหมดห่วง
นางสาวอนงค์ลักษณ์ แพทยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ซีเอ็มซี กรุ๊ป นำโครงการห้องชุดและที่พักอาศัยเข้าร่วมแสดงกว่า 1,000 ยูนิต จาก 20 โครงการ มาร่วมงานโดยมียอดจองรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ถือเป็นผลสำเร็จที่เหนือความคาดหมาย 
ขณะที่นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า บริษัทได้นำโครงการไปร่วมออกบูธมหกรรมบ้านฯ ครั้งที่ 38 ที่ผ่านมา จำนวน 23 โครงการ มียอดขายกว่า 200 ล้านบาท ทะลุเกินเป้าที่ตั้งไว้ และยังคงเดินหน้าปั้มยอดขายต่อเนื่อง 

ทั้งนี้บริษัทจะจัดงานมหกรรมคอนโดและสินเชื่อ เปิดบ้านต้อนรับลูกค้าทั้ง โครงการเจ คอนโด สาทร-กัลปพฤกษ์ โครงการเจ แกรนด์ สาทร-กัลปพฤกษ์ โครงการเจ วิลล่า วงแหวน-บางใหญ่ และโครงการเจซิตี้ ศรีราชา-อัสสัมชัญ เป็นต้น พร้อมขยายเวลาโปรโมชั่น 0 บาททุกค่าใช้จ่าย มอบส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท ในวันที่ 24-25 มี.ค.61 นี้
เช่นเดียวกับการเปิดจองโครงการ นิช ไพร์ด เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ ของบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่สามารถกวาดยอดขายไปกว่า 50% 
ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มพฤกษาพรีเมี่ยม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 คอนโดมิเนียมในกลุ่มพรีเมียม ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีได้ขายหมด 100% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน กวาดยอดขายกว่า 2,500 ล้านบาท ถือว่าเป็นโครงการลักชัวรี่ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในไตรมาส 1 

รับสร้างบ้านโกยยอด 1,100 ล้าน
ส่วนงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Focus 2018 ที่จัดโดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน นางศิริพร สิงหรัญ นายกสมาคม เปิดเผยว่า ตลอด 4 วันของการจัดงาน  และมียอดจองสร้างบ้านภายในงานกว่า 1,100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังจบงานจะมียอดติดตามหลังงานเข้ามาอีก เนื่องจากลูกค้ายังไม่ตัดสินใจในงานยังมีอีกมาก  นับว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย และเป็นการทำสถิติด้านยอดจองสร้างบ้านสูงกว่าการจัดงานที่ผ่านมา โดยประเภทแบบบ้านราคาตั้งแต่ 2. 5-5 ล้านบาทขึ้นไปได้รับยอดจองจากลูกค้ามากสุด
ทั้งนี้จากตัวเลขยอดจองปลูกสร้างบ้านภายในงานที่เพิ่มขึ้น น่าจะมาจากหลายปัจจัย ทั้งภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2560 ผลการใช้จ่ายด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ การขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งสภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเงินกู้ในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากนัก และผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา  นอกจากนี้การที่สมาชิกใหม่ของสมาคมฯ มีการนำแบบบ้านสำเร็จรูปมาเปิดตัวในงาน ทำให้ราคามีความหลากหลายตั้งแต่ต่ำสุดอยู่ที่ 3 แสนบาท ไปจนถึง 20 ล้านบาทขึ้นไป  
ทั้งนี้ จากการประมวลผลข้อมูล ผู้ลงทะเบียนเข้าชมงาน พบว่า ระดับราคาบ้านที่ได้รับความสนใจจองปลูกสร้างมากทีสุด ยังเป็นแบบบ้านกลุ่มราคา 2.51-5 ล้านบาท คิดเป็น 38.1% รองลงมาเป็นราคา 5.01-10 ล้านบาท คิดเป็น 28.6%  กลุ่มราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท คิดเป็น 24.6% ที่เหลือกลุ่มราคา 10.01-20 ล้านบาท คิดเป็น 5.56% และราคา 20.01 ล้านบาทขึ้นไป คิดเป็น 3.17%

ปิดไตรมาสแรกตลาดโตได้กว่า 5%
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาสแรกน่าจะมีสัญญาญเป็นบวก โดยคาดว่าจะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 5% โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทใหญ่ดูดีขึ้น เพราะบริษัทขนาดกลางและเล็ก ไม่มีสินค้าใหม่ที่เป็น เฟรช โปรดักต์ มานำเสนอลูกค้า เพราะธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ตลอดทั้งปี ตลาดบ้านทั้งประเทศที่มีมูลค่ารวมประมาณ 5 แสนล้านบาท จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 5% และคาดหวังว่าปีนี้จะเติบโตได้ถึง 10%

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่น่ากังวลคือ ตลาดบ้านในภูมิภาคซึ่งมีสัดส่วนตลาดอยู่ประมาณ 50% ในช่วง 2 เดือนแรก ยังไม่ได้ดีขึ้นมาก จากราคาสินค้าเกษตรที่ยังไม่ขยับตัว โดยที่อยู่อาศัยแนวราบในต่างจังหวัดมีการเติบโตที่ดี แต่คอนโดมิเนียมเพิ่งมีสัญญาณฟื้นตัวในบางจังหวัด ขณะที่อัตราดอกเบี้ย มีโอกาสจะปรับขึ้นในช่วงปลายปี แต่ในช่วงครึ่งปีแรกเชื่อว่า ดอกเบี้ยจะยังไม่ปรับ เพราะเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้น

ตลาดในไตรมาส 2 ช่วงซัมเมอร์ ฮอลิเดย์ ที่หลายๆ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่กันค่อนข้างมากจะช่วยผลักดันยอดขายให้กระโดดขึ้นไปได้อีกแค่ไหนต้องคอยติดตาม