นับจากวันที่นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทัวร์นกขมิ้นปิดท้ายที่จังหวัดต้นน้ำ จังหวัดเชียงใหม่เมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา พร้อมรับฟังผลสรุปเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมในปี 2554 และฟังแผนการรับมือแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของปี 2555 ทำให้ทราบว่าในปีนี้ได้มีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างเต็มอัตรา โดยใช้งบประมาณไปแล้วเกือบ 600 ล้านบาท และเตรียมของบประมาณเร่งด่วนอีกกว่า 400 ล้านบาท “ทัศนัย บูรณุปกรณ์” นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์กับ “โฮมบายเออร์ไกด์” ถึงแผนการป้องกันน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ในปีนี้
แผนรับมือน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ในปีนี้ ได้เตรียมการอย่างไรบ้าง
ในส่วนของเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ขุดลอกลำน้ำปิงเกือบ 100% แล้ว และได้วางท่อคอนกรีตและกระสอบทราย ซึ่งจำเป็นต้องวางกระสอบทรายไปจนถึงเดือนตุลาคม แลทำคันดินไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันน้ำท่วมตลอดระยะทางของลำน้ำปิง 22 กิโลเมตร ขณะเดียวกันทางเทศบาลก็ได้ทำเรื่องของบประมาณ 2 ล้านบาทจากส่วนกลาง ในการทำพนังกั้นน้ำถาวร ความสูงประมาณ 1 เมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างรออนุมัติ
นอกจากนี้ยังได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำสำรองไว้ตามจุดที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ส่วนกรณีน้ำท่วมขังในเขตเมืองทางเทศบาลได้มีการดำเนินการขุดลอกคลองแม่ข่า เพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำในเขตเมือง จึงมั่นใจว่าปีนี้จะมีพื้นที่น้ำท่วมขังน้อยลง
ปัญหาเรื่องการขุดลอกแม่น้ำปิงมีหรือไม่
การขุดลอกแม่น้ำปิงยังคงทำได้ไม่เต็มระบบ เพราะยังมีปัญหาเรื่องการบุกรุกลำน้ำ ทำให้ไม่สามารถขุดลอกลำน้ำให้มีขนาดกว้าง 90 เมตรที่จะสามารถรองรับน้ำได้เต็มระบบ แต่ปีนี้เรามีความมั่นใจว่าหากปริมาณน้ำฝนเทียบเท่ากับปีที่แล้ว ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อาจจะได้รับกระทบจากน้ำท่วมบ้าง แต่จะไม่หนักเท่ากับปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปีนี้ทางรัฐบาลลงมาแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด และดำเนินโครงการที่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมหลายกิจกรรมมาก
บริเวณแม่น้ำปิง
รัฐบาลได้ดำเนินการในเรื่องใดบ้าง
งบประมาณโครงการเร่งด่วน (Flag Ship Projects) ที่ใช้ไปแล้วกว่า 575.3125 ล้านบาท ได้ใช้สำหรับโครงการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมกรณีเร่งด่วน 4 โครงการ ซึ่งมีทั้งจังหวัดเชียงใหม่จ้างเหมาโดยตรง และได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ได้แก่ 1.โครงการขุดลอกแม่น้ำปิง จากลำน้ำงาม อำเภอสันป่าตอง ถึงลำน้ำแม่งัด อำเภอแม่แตง รวม 111 กิโลเมตร งบประมาณ 408.3075 ล้านบาท 2.โครงการขุดลอกลำน้ำกวง รวม 61 กิโลเมตร งบประมาณ 126.27 ล้านบาท 3.โครงการเตือนภัยดินถล่มจุดเสี่ยง 243 หมู่บ้าน 22 อำเภอ งบประมาณ 12.15 ล้านบาท และ 4.โครงการติดตามและเฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมในเขตเมืองเชียงใหม่ มูลค่า 25.585 ล้านบาท ซึ่งแยกเป็น 3 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมแรกเป็นการจัดทำระบบเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือภัยน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนเมืองเชียงใหม่ งบประมาณ 12 บาท ทางจังหวัดให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นผู้ดำเนินการ กิจกรรมที่ 2 การจัดทำระบบตรวจวัดข้อมูลน้ำเพื่อการพยากรณ์และเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ งบประมาณ 15.16 ล้านบาท ทางจังหวัดมอบให้ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน สำนักชลประทานที่ 1 รับผิดชอบดำเนินการ และกิจกรรมที่ 3 การเพิ่มประสิทธิภาพการเตือนภัยน้ำท่วมในลุ่มน้ำปิงตอนบน งบประมาณ 1.425ล้านบาท ทางจังหวัดมอบหมายให้ส่วนอุทกวิทยา สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 กรมทรัพยากรน้ำ รับผิดชอบดำเนินการ
งบที่จะขอเพิ่มเติมอีกกว่า 400 ล้านบาทจะนำไปใช้ในส่วนไหนบ้าง
รัฐบาลเกรงว่าโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่จะไม่เพียงพอ เพราะรากฐานปัญหาหลายส่วนยังไม่สามารถแก้ไขได้ จึงได้ของบประมาณเพิ่มอีก 4 กิจกรรม รวมงบประมาณทั้งสิ้น 482.343 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณส่วนแรกเทศบาลนครเชียงใหม่ จะได้รับจัดสรรเป็นเงิน 264.843 ล้านบาท โดยกรมเจ้าท่า ขอดำเนิน 4 กิจกรรม เป็นค่าชดเชยและค่าขุดลอกและขยายลำน้ำปิง ระยะทาง 20 กิโลเมตร เป็นเงิน 264.843 ล้านบาท โดยเทศบาลนครเชียงใหม่ของบประมาณ 3 กิจกรรมคือ 1.ก่อสร้างเพื่อยกระดับสะพานเม็งราย งบประมาณ 50 ล้านบาท 2.โครงการก่อสร้างประตูบังคับน้ำ ท่อระบายน้ำลงสู่น้ำปิง งบประมาณ 1.5 ล้านบาท และ 3.ก่อสร้างท่อลอดพร้อมบ่อพักน้ำถนนมหิดล (ชุมชนศรีปิงเมือง) ลงคลองแม่ข่า เป็นเงิน 56.50 ล้านบาท
นอกจากนี้กรมทางหลวงของบประมาณสำหรับ 9 กิจกรรม เพื่อการขยายท่อลอดถนนและสิ่งกีดขวางทางน้ำในถนน 9 สาย เป็นเงิน 142 ล้านบาท และกรมชลประทานงบประมาณอีก 1 กิจกรรม เพื่อก่อสร้างพนังป้องกันตลิ่งด้านหน้าประตูระบายน้ำฝายท่าวังตาล เป็นเงิน 19 ล้านบาท ซึ่งได้ของบประมาณจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) แล้ว
การขุดลอกคูคลองที่ตกค้างอีก 5 จุดจะดำเนินการอย่างไร
โครงการขุดคูคลองในส่วนที่ตกค้าง 5 จุดของจังหวัดเชียงใหม่ และอีก 1 จุดเป็นของจังหวัดลำพูน คือ ลำน้ำปิงช่วงอำเภอฮอด-อำเภอดอยเต่า ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร, ลำน้ำแม่กวง ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร, ลำน้ำแม่ทา ระยะทาง 36 กิโลเมตร ในเขตอำเภอแม่ทา อำเภอป่าซาง อำเภอเมืองลำพูน, ลำน้ำแม่แตงช่วงผ่านชุมชน ระยะทาง 10 กิโลเมตร, ลำน้ำแม่งัด ระยะทาง 4 กิโลเมตร ตั้งแต่ท้ายเขื่อนแม่งัดไปบรรจบแม่น้ำปิง, ลำน้ำแม่แจ่มตั้งแต่บริเวณหลังอำเภอแม่แจ่ม ระยะทาง 10 กิโลเมตร และช่วงก่อนถึงอำเภอฮอดไปจนถึงแม่น้ำปิง ระยะทาง 15 กิโลเมตร รวม 2 ช่วงระยะทาง 25 กิโลเมตร เนื่องจากหากผันงบผ่านจังหวัดจะเสียเวลาในการจัดซื้อจัดจ้างตามระบบ ทำให้ไม่ทันฤดูกาลน้ำหลากแน่นอน โดยเร่งรัดให้ดำเนินการภายในเดือนกรกฎาคม 2555
ส่วนโครงการสร้างท่อลอด และการสร้างประตูระบายน้ำที่ใช้งบประมาณไม่สูง สามารถดำเนินการได้โดยใช้งบประมาณปกติจากงบประมาณปี 2556 มาใช้
ปัญหาการรุกล้ำลำน้ำปิงจะทำอย่างไร
เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อและเป็นปัญหาอุปสรรคสำคัญต่อการไหลของแม่น้ำ คือปัญหาการรุกล้ำคูคลอง โดยเฉพาะสองฝั่งแม่น้ำปิงที่มีจุดสำคัญ 7 จุด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ทางจังหวัดดำเนินการประสานงานเพื่อหาทางออก เน้นการเจรจาแทนการฟ้องร้องดำเนินคดี พร้อมคาดโทษเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้มีการบุกรุกเพิ่ม โดยร่วมกับกรมเจ้าท่าและกระทรวงมหาดไทยในการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อไม่ให้เกิดการรุกล้ำอีก
ปัจจุบันปัญหาการรุกล้ำในแม่น้ำปิงของร้านอาหาร โรงแรม รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนกว่า 400 ราย ระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร ส่งผลให้เป็นอุปสรรคในการขุดลอกลำน้ำ โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ไม่มีเอกสารสิทธิจำนวน 192 ราย ในจำนวนนี้มีอาคารสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ 107 ราย ส่วนที่มีเอกสารสิทธิมีจำนวน 8 ราย และต้องเจรจาเพื่อขอเวนคืนและจ่ายค่าชดเชยให้
สำหรับโครงการที่กรมเจ้าท่าได้เสนอรัฐบาล คือนอกจากเสนอให้ย้ายพิพิธภัณฑ์และอนุสาวรีย์ผู้กล้าแห่งล้านนา ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ไปยังสถานที่แห่งใหม่ เพื่อขุดลอกลำน้ำปิงบริเวณสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ให้กว้าง 90 เมตร ลึก 5 เมตร รวมทั้งเสนอให้นายกรัฐมนตรีหาแนวทางขยายประตูระบายน้ำท่าวังตาล อำเภอสารภี จากเดิมกว้างเพียง 50 เมตรเป็น 90 เมตร ซึ่งหากขุดลอกได้ตามแผนจะสามารถระบายน้ำได้มากถึง 830 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากเดิมที่ระบายน้ำได้เพียง 430 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ดูเหมือนว่าขณะนี้พื้นที่ต้นน้ำเชียงใหม่-ลำพูนได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มระบบและเป็นขั้นตอนด้วยงบประมาณนับพันล้านบาท รอเพียงปริมาณน้ำหลากในฤดูกาลนี้ที่จะมาทดลองระบบที่ได้ลงทุนไปแล้วจะเอาอยู่หรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังลุ้นสุดตัว