อุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างโดยมีจำนวนประชาการมากถึง 1.8 ล้านคนโดยมีเนื้อที่ประมาณ 10.3 ล้านไร่ โดยพบว่าภาพรวมที่ดินอุบลราชธานีที่น่าสนใจในปี 2564 คือการร่วมมือพัฒนาระหว่างไทย - ญี่ปุ่นกับการลงทุนนิคมอุบลราลธานีบนเนื้อที่ 2,600 ไร่ใน 2 ตำบลคือตำบลนากระแซงและตำบลทุ่งเถิงซึ่งถือเป็นอภิมหาโปรเจคในการลงทุนที่สามารถสร้างรายให้แก่รัฐ เอกชน และภาคประชาชนที่จะช่วยทั้งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายโดยคาดเงินหมุนเวียนมากกว่า 5.6 หมื่นล้านบาทต่อปี
อุบลราชธานีเป็นเส้นทางคมนาคมสู่ประตูการค้าอินโดจีนที่สามารถเชื่อมโยง 4 ประเทศทั้งไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชาและเวียดนามซึ่งในปัจจุบันก็มีการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ AEC ซึ่งจากการสรุปภาพรวมของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินอุบลราชธานีในรอบปี 2559 - 2562 ของกรมธนารักษ์โดยแบ่งอำเภอ พบว่า เขตอำเภอเมืองบนช่วงถนนอุปราชมีราคาที่ดินสูงสุดอยู่ที่ตารางวาละ 105,000-110,000 บาทรองลงมาคือถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 โดยมีราคาตั้งแต่ 3,750-110,000 บาท/ตรว. และถนนพรหมเทพที่มีราคาตั้งแต่ 50,000-84,000 บาท/ตรว.ซึ่งถือเป็น 3 ทำเลที่มีราคาที่ดินสูงที่สุด
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ดินเพื่อลงทุนและเก็งกำไรในอนาคตก็ได้แก่ในช่วงบริเวณด่านช่องเม็กในอำเภอสิรินธรเนื่องจากเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวที่จะช่วยเชื่อมถนนเข้าเขตประเทศลาวไปยังหาดปากเซ และยังถือเป็นส่วนหนึ่งของถนนสายเอเซียที่อุบลราชธานีนั้นมีการวางแผนเป็นเส้นทางเชื่อมจากเวียดนามไปยังพม่าโดยตัวจังหวัดอุบลราชธานีเป็นศูนย์กลางสำหรับพักรถในการเดินทางระหว่างประเทศจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองและน่าลงทุนไม่แพ้พื้นที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกในอุบลอย่าง “นิคมอุบลราชธานี”
ดังนั้น ทั้งนิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานีและประตูการค้านาเม็กจะเป็นที่ดินในจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้รับการพัฒนาและจะช่วยนำความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาแก่ชาวอุบลราชธานีทั้งยังลดความเหลื่อมล้ำ สร้างงาน เป็นแหล่งรายได้ที่จะเพิ่มอัตราการทำงานได้มากถึง 25,000 บาทซึ่งช่วยให้อัตราการว่างงานของประชาชนลดน้อยลง
นอกจากนี้ยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่รายแรกในอุบลราชธานีอย่างเซ็นทรัลพลาซ่าที่มีรูปแบบเป็นศูนย์กลางทางการค้าในสไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ (Shoping Center) ด้วยเหตุนี้ที่ดินในอุบลราชธานีหลายแห่งทั้งในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม การค้าชายแดน และศูนย์กลางย่านการค้าจึงถือเป็นทำเลทองที่ควรค่าแก่การลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวและการเจริญเติบโตในอนาคตอันใกล้เข้ามาซึ่งบอกได้เลยว่าราคาที่ดินในย่านนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอนในระยะยาว