“บุญเลิศ บูรณุปกรณ์” ความสำเร็จในธุรกิจเพราะคิดแบบ Give & Take

หากกล่าวถึงนักธุรกิจระดับแนวหน้าของจังหวัดเชียงใหม่ที่ชื่อคุณบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ คงไม่มีใครไม่รู้จักเพราะไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ประสบความสำเร็จไปหมด จนเป็นต้นแบบความคิดในการดำเนินธุรกิจของใครหลายๆคน นอกจากเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ช่วงปี 2543-2547 แล้ว ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เป็นสมัยที่ 2 อีกทั้งเป็นเจ้าของโรงแรมหรู 5 แห่งพร้อมกับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัท อรสิริน กรุ๊ป จำกัด ที่เตรียมเข้าสู่ตลาดหุ้นเร็วๆ นี้

พื้นเพคุณบุญเลิศมาจากครอบครัวฐานะปานกลาง เปิดร้านขายของชำในตลาดวโรรส เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แล้วศึกษาต่อระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ, ปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากนั้นศึกษาหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐ เอกชน และการเมืองรุ่นที่ 3 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร และในปี พ.ศ.2556 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดเชียงใหม่

กระทั่งปี 2510 ได้ก่อตั้งบริษัท เชียงใหม่ทัศนาภรณ์ จำกัด และบริษัท เชียงใหม่สุดาลักษณ์ จำกัด ที่เป็นบริษัทส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไม้สักรายใหญ่ของประเทศ ขณะเดียวกันก็ได้ร่วมกับชาวต่างชาติเปิดร้านอาหารที่ประเทศเยอรมนี 7 แห่ง เป็นร้านอาหารไทย 5 แห่ง และอาหารจีนอีก 2 แห่ง ใช้ชื่อว่า “Rainbow” ก่อนมาทำธุรกิจโรงแรมซึ่งมีอยู่ 5 แห่ง

ช่วงที่เริ่มทำธุรกิจได้ซื้อที่ดินเก็บไว้หลายแปลง กระทั่งปี 2550 ได้ก่อตั้งบริษัท อรสิริน กรุ๊ป จำกัด พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ทั้งโครงการบ้านจัดสรรภายใต้ชื่อของ “อรสิริน”, อาคารพาณิชย์และคอนโดมิเนียมภายใต้ชื่อ “The Next” และ “The Astra” ร่วม 21 โครงการ มูลค่าหลายพันล้านบาท กลุ่มลูกค้ากว่าร้อยละ 50 เป็นคนเชียงใหม่ ร้อยละ 40 เป็นคนต่างจังหวัด และอีกร้อยละ 10 เป็นคนเอเชีย

“กุญแจแห่งความสำเร็จในการทำธุรกิจจะยึดหลัก Give & Take คือให้สิ่งที่ดีที่สุดกับผู้อื่นแล้วจึงจะได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจกลับมา การทำธุรกิจต้องมีความซื่อสัตย์ จริงใจ มีจริยธรรม และไม่เอาเปรียบ เพราะลูกค้าปัจจุบันฉลาดที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ถ้าเราจะทำธุรกิจกับคนฉลาดแล้วอย่าคิดว่าจะเอาเปรียบเขาได้” คุณบุญเลิศกล่าว

นอกจากนั้นการปฏิบัติและให้ความสำคัญกับพนักงานถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งที่บริหารยากที่สุดบนโลกนี้คือคน ผู้บริหารจะต้องให้ใจกับพนักงานก่อนเมื่อได้ใจเขาแล้วจะทำงานแบบเต็มใจ-เต็มที่ บางครั้งผลประโยชน์ที่ได้รับจากบริษัทมีคุณค่าน้อยกว่าความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับจากองค์กรด้วยซ้ำ เมื่อเป็นเช่นนั้นพนักงานส่วนใหญ่จึงคงทำงานกับอรสิรินกรุ๊ปจนถึงทุกวันนี้

แม้เป็นคนมีเวลาว่างน้อยแต่คุณบุญเลิศก็สามารถบริหารจัดการเวลาได้ลงตัว แบ่งเป็นวันจันทร์ถึงวันเสาร์จะทำงานทั้งภาครัฐและธุรกิจส่วนตัว ช่วงเย็นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการว่ายน้ำ ส่วนวันอาทิตย์ครึ่งเช้าจะอยู่กับครอบครัวและชอบทำอาหารให้ลูกทาน โดยจะเตรียมเมนูอาหารไว้ช่วงเย็นวันเสาร์ หรือหากลูกอยากทานอะไรเป็นพิเศษก็เขียนใส่กระดาษติดไว้ที่หัวเตียง ถือเป็นกิจกรรมของครอบครัวที่ดูน่ารักไปอีกแบบ ส่วนช่วงบ่ายในวันอาทิตย์ก็จะแบ่งเวลาไปออกกำลังกาย ตีกอล์ฟ ตลอดจนสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนฝูงบ้าง

“การที่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจหรือการเมืองจะต้องทำด้วยใจ คุณเชื่อไหมว่าผมไม่เคยขี้เกียจที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อเจอกับปัญหา ผมตื่นขึ้นมาทุกวันเพราะอยากทำงาน อยากทำอะไรให้มากกว่าเดิม ผมว่าคนที่ไม่มีความสุขกับการทำงาน ไม่รักงานของตัวเอง เชื่อว่ายากที่จะประสบความสำเร็จ” คุณบุญเลิศกล่าว

สำหรับการวางแผนในการทำธุรกิจนั้นจะพยายามบริหารธุรกิจที่มีอย่างดีที่สุด ปัจจุบันมีการวางระบบการจัดการบริษัทให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อรองรับการนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2558 ถือเป็นการวางรากฐานธุรกิจที่มั่นคงก่อนส่งมอบให้กับทายาทดูแลต่อไปในอนาคต

วิธีคิดแบบ Give & Take อาจไม่ใช่สูตรสำเร็จที่สมบูรณ์แบบ แต่สามารถเป็นแนวทางให้กับทุกคนได้ปฏิบัติ อยู่ที่จะเลือกหยิบมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไรโดยไม่ทิ้งตัวตน พร้อมบวกความตั้งใจ ความรักในสิ่งที่ทำความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน