ระวีวรรณ เนตระคเวสนะ สนามบินใหม่แสนล้าน...สร้างมอเตอร์เวย์คุ้มกว่า

กระแสของการสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 ของจังหวัดเชียงใหม่เกิดขึ้นในปี 2547 พร้อมกับโครงการขยายรันเวย์ของสนามบินเชียงใหม่ เพื่อให้รองรับเครื่องบินระดับโบอิ้ง 747-400 ได้

โดยขณะนั้นมีการขานรับจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เห็นว่าควรจะต้องมีการสร้างท่าอากาศยานแห่งที่ 2 ของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรองรับศักยภาพด้านการขนส่ง โดยสนามบินส่วนท่าอากาศยานเชียงใหม่เดิมนั้นอาจจะปรับรูปแบบการใช้งานให้เป็นสนามบินรองรับเครื่องบินขนส่งสินค้า หรืออาจใช้เป็นสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline) หรือไม่ก็ใช้เป็นสายการบินในประเทศแทน

กระแสการสร้างสนามบินแห่งใหม่ทำให้พื้นที่เป้าหมายคึกคักในปี 2548 ในตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง ทว่าหลังจากนั้นกระแสก็ค่อยๆ แผ่วลงตามกระแสการเมือง ความเป็นไปได้ของโครงการสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ของเชียงใหม่มีโอกาสมากน้อยเพียงใด “ระวีวรรณ เนตระคเวสนะ” ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ HBG ในเรื่องนี้

ตอนนี้มีกระแสเรื่องการสร้างสนามบินแห่งที่ 2 ของเชียงใหม่เกิดขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นไปได้หรือไม่

เนื่องจากการลงทุนก่อสร้างพัฒนาสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการบินไปยังจีนตอนใต้และตะวันตก ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งมีทั้งหมด 14 โครงการ ใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 2,129 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้วทุกโครงการ ทำให้ศักยภาพสูงสุดของสนามบินจังหวัดเชียงใหม่ ในโครงสร้างพื้นฐานเต็มระบบสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 8 ล้านคนต่อปี จริงๆ แล้วศักยภาพของสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ปัจจุบันยังมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 8 ล้านคน และไม่จำเป็นต้องสร้างสนามบินใหม่ในระยะเวลา 10 ปีนี้ เนื่องจากการสร้างสนามบินแห่งใหม่จะเป็นการใช้งบลงทุนที่สูงหลายแสนล้านบาท ทางแก้ไขปัญหาควรจะมุ่งเน้นการสร้างระบบโลจิสติกส์เชื่อมโยงกับจังหวัดใกล้เคียง เพื่อเชื่อมโยงสนามบิน เช่น ลำปางหรือเชียงราย จะคุ้มกว่า

อนาคตสนามบินใหม่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่

เรื่องนี้เป็นนโยบายใหญ่ ยอมรับว่าเคยมีการคุยกันในอดีตในระดับรัฐบาล แต่ตอนนี้ทางการท่าฯ เชียงใหม่ ยังไม่ได้รับการประสานอะไรมาแต่อย่างใด การสร้างสนามบินขึ้นมาแห่งหนึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ เพราะต้องใช้งบประมาณสูงมากหลักแสนล้านบาท ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าไม่มีความจำเป็นเมื่อดูศักยภาพของสนามบินเชียงใหม่ในปัจจุบัน ที่มีความสามารถในการรองรับ (Capacity) เที่ยวบินได้ 110 เที่ยวต่อวัน ซึ่งการรองรับแบบเต็มระบบเลยสามารถรองรับเที่ยวบินได้ถึง 200 เที่ยวต่อวัน ขณะที่อาคารผู้โดยสารในอีก 10 ปีขึ้นไปก็ยังรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 8 ล้านคน

แนวโน้มผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ปีนี้จะเพิ่มขึ้นหรือไม่

ปีนี้เชื่อมั่นว่าจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ เนื่องจากมีสายการบินระหว่างประเทศหลายสายการบินมีแผนที่จะเปิดเที่ยวบินตรงเชื่อมโยงในเส้นทางระหว่างประเทศหลายเส้นทาง เช่น สายการบินแอร์เอเชียกำลังมีแผนที่จะเปิดเส้นทางบินตรงเชียงใหม่-มาเก๊า และจีนตอนใต้ ซึ่งจะใช้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการบิน รวมถึงสายการบินดราก้อน แอร์ ประกาศเพิ่มเส้นทางบินใหม่อีก 3 เส้นทาง ได้แก่ เกาะเชจูของเกาหลีใต้ จังหวัดเชียงใหม่ของไทย และเปิดเที่ยวบินไปยังเมืองไทจงของไต้หวัน เป็นต้น

เช่นเดียวกับสถิติผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธนวาคม 2554 จำนวนผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 10-12% ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 30% สาเหตุที่ตัวเลขผู้ใช้บริการเติบโตต่อเนื่องมาจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทุกหน่วยงานในจังหวัด รวมถึงการติดอันดับ 4 ด้านการบริการของท่าอากาศยานขนาดผู้โดยสาร 2-5 ล้านคน ซึ่งเป็นจุดขายและภาพลักษณ์ด้านการให้บริการ

ปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่มีเที่ยวบินรวม 12,377 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเดินทางเข้าออกเฉลี่ยวันละ 10,000 คนต่อวัน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าออกท่าอากาศยานเชียงใหม่อยู่วันละ 9,000 คน ซึ่งนับว่ามีปริมาณที่อยู่ในระดับสูง

สนามบินเชียงใหม่ติดอันดับ 4 ของโลก อนาคตจะมีแผนพัฒนาอะไรอีกบ้าง

เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สนามบินเชียงใหม่ได้รับการจัดอันดับจากคณะกรรมการท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (Airports Council International) ภายใต้ชื่อ “โครงการ Airport Service Quality Program: ASQ” ประเภทผู้โดยสาร 2-5 ล้านคน โดยสำรวจความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการทั่วโลก ปรากฏว่าสนามบินเชียงใหม่ได้รับคะแนนความพึงพอใจเป็นอันดับ 4 จากผู้เข้าร่วมประกวด 34 สนามบินทั่วโลก ส่วนอันดับ 1-3 เป็นสนามบินนานาชาติของประเทศแคนนาดาทั้งหมด

อย่างไรก็ตามสนามบินก็มิได้หยุดนิ่ง นอกจากการปรับปรุงพื้นที่บริเวณลานจอดอุปกรณ์ต่างๆ ปรับปรุงภูมิทัศน์ในวงเงินลงทุนประมาณ 4 ล้าน และความสะอาดแล้ว ล่าสุดในปี 2555 ก็ได้มีการเตรียมงบประมาณกว่า 80 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างหลุมจอดเพิ่มอีก 2 หลุม จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 20 หลุมจอด รวมเป็น 22 หลุม เพื่อรองรับเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้น และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยก็มีนโยบายที่จะให้จังหวัดเชียงใหม่กลายเป็นศูนย์กลางของการเดินทางทางอากาศของภาคเหนืออย่างเต็มระบบ เนื่องจากไม่มีปัญหาในการขยายและการใช้พื้นที่ นอกจากนั้นยังมีโครงการติดตั้งระบบไฟฟ้า 400 เมกะเฮิรตซ์ และระบบปรับอากาศ PC Air ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการท่าอากาศยานสีเขียว (Green and Clean Airport) ที่ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2554 แล้ว

อย่างไรก็ตามในอนาคตของสนามบินเชียงใหม่จะเกิดแห่งที่ 2 หรือไม่ จำเป็นจะต้องมีการคำนึงถึงการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าในการลงทุน และผลกระทบในมิติทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และอีกด้านหนึ่งเป็นเรื่องที่ควรพิจารณายิ่งในการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไม่ให้เป็นเมืองที่กระจุกตัวทางด้านเศรษฐกิจของภาคเหนือในอนาคต