ชีวิตก็เหมือนละคร ดูละครย้อนดูตัวเอง ละครสามารถเทคใหม่ได้ แต่ชีวิตคัทแล้วคัทเลยไม่มีเทคสอง สาม สี่ ห้า เช่นเดียวกับมินิซีรีส์เรื่อง “Stay Over เดี่ยวก็รู้ อยู่หรือแต่ง” 6 ตอน ของ 2 ผู้อำนวยการสร้างหน้าใหม่ในวงการภาพยนตร์ แต่เป็นที่คุ้นเคยในวงการอสังหาริมทรัพย์ “วสิน เลิศเกียรติดำรงค์” เจ้าของโครงการ เดอะกรีนเนอรี วิลล่า (แม่โจ้) และ “อานนท์ น้อยอ่ำ” เจ้าของโครงการบ้านนนนิภา (แม่โจ้) ร่วมกับผู้กำกับมือทองอย่าง “มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล” จากภาพยนตร์เรื่องรักแห่งสยาม, คน ผี ปีศาจ และ 13 เกมสยอง
เขาทั้งสามนำเสนอโครงการบ้านรูปแบบใหม่ ผ่านการใช้ชีวิตของตัวละครที่ผู้กำกับต้องการสะท้อนให้เห็นชีวิตจริงของคนในปัจจุบัน ทั้งเรื่องการสร้างครอบครัว, การแต่งงาน, ประเพณี และความพร้อมของชีวิตคู่ แบบชนิดที่ว่าเล่นจริงอยู่จริงกันเลยทีเดียว การตลาดลักษณะนี้ถือว่าแปลกใหม่ มีแนวคิดที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร
การเดินเรื่องของเรื่องนี้เกิดจากหนุ่มสาวคู่หนึ่งซึ่งเป็นแฟนกัน แต่อยู่กันคนละหมู่บ้าน ฝ่ายชายพร้อมจะแต่งงานมีชีวิตครอบครัวอย่างที่ควรจะเป็น โดยพ่อแม่รับรู้ ส่วนฝ่ายสาวกลับคิดว่าตัวเองยังไม่มีความพร้อม จึงขมวดปมของหนังด้วยประโยคที่ว่า “Stay Over เดี๋ยวก็รู้ อยู่หรือแต่ง”
โดยให้บ้านนนนิภาที่มีรูปแบบหวานๆ สไตล์อิงลิชคันทรี่ ขนาดของบ้านหลังไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับครอบครัวที่กำลังเริ่มต้นเป็นตัวแทนของนางเอก ส่วนเดอะกรีนเนอรี วิลล่า บ้านหลังใหญ่ที่เน้นฟังก์ชั่นการทำงาน เป็นบ้านประหยัดพลังงาน สไตล์ล้านนาร่วมสมัย เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีความมั่นคงเป็นตัวแทนของพระเอก
คุณวสิน เล่าว่า หากมองเรื่องการตลาด สินค้าทั้งสองเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกัน คำถามมีอยู่ว่าแล้วลูกค้าจะเลือกซื้อโครงการไหนดี นี่เป็นโจทย์ที่ผู้กำกับต้องนำกลับมาคิดว่าทำอย่างไรที่ให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าจะต้องเลือกที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งต้องติดตามกันเอง แค่คิดก็สนุกแล้วใช่มั้ยครับ? แต่เหตุผลหลักไม่ได้มองว่ามันคุ้มหรือไม่ กลับมองแค่ว่าชอบผลงานภาพยนตร์ของคุณมะเดี่ยว ชื่นชอบบ้านนนนิภา ซึ่งบ้านนนนิภา (แม่โจ้) เป็นแรงบันดาลใจในการทำเดอะกรีนเนอรี่ วิลล่า (แม่โจ้)
กอปรกับทั้ง 2ท่านเป็นเพื่อนที่มาเติมเต็มซึ่งไม่ได้มีต้นทุนมาก สิ่งที่ได้ทำและได้รับคือความสุข ผลตอบรับจะดีหรือไม่เราไม่ได้คาดหวัง มันเหมือนการได้กลับไปหาเพื่อน ทำกิจกรรมร่วมกัน เปรียบเสมือนตัวแทนของเพื่อนๆ ในรุ่น และเป็นตัวแทนธุรกิจอื่นๆ ได้ เราสามารถทำให้ดีที่สุดได้โดยไม่ต้องแข่งขันกัน เราเสนองานร่วมกันได้ ทุกอย่างร่วมมือกันได้ สังคมก็จะสงบสุขได้
ด้านคุณอานนท์ กล่าวว่า แนวทางการตลาดแนวใหม่นี้เป็นการทำการตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เชื่อว่าลูกค้าจะให้ความสนใจ เราจึงนำตัวละครเข้าไปใส่ในเรื่อง ที่จะเห็นทุกอย่างในบ้านและสภาพแวดล้อมของเรา หนังสั้นเรื่องนี้ตอบโจทย์ทางการตลาดได้ทุกอย่าง ทั้งการนำเสนอตัวบ้าน เรื่องของตัวละคร ผู้กำกับ ทำให้ทั้งสองโครงการกลายเป็นสิ่งมีชีวิต
นอกจากนั้นคุณมะเดี่ยวซึ่งมีความสามารถในการทำหนัง เขาก็ยังมีความสามารถในการแต่งเพลง ตั้งแต่สมัยเรียน เขาได้ทุนด้วย แต่เลือกที่จะไปทำหนังมากกว่า เรื่องนี้เขา Produce เพลงประกอบออกมา 2 เพลง โดยจะปล่อยให้โหลดฟรี ตอนนี้เริ่มปล่อยในสถานีวิทยุแล้ว ชื่อเพลง “อยู่แล้วดี”
ทีมงานเป็นคนเชียงใหม่ทั้งหมด เราจึงอยากฝากผลงานของคนเชียงใหม่ด้วยกัน การทำงานครั้งนี้มีความสุขทางจิตใจที่ยากจะตีค่าออกมาเป็นตัวเลข คุณมะเดี่ยวก็มาด้วยใจเขาเอง เขาก็กำลังจะเปิดบริษัทที่เชียงใหม่ งานนี้เป็นเหมือนงานเปิดตัวของบริษัทเขาด้วย อีกทั้งขณะนี้มีแผนงานโครงการบ้านเฟสใหม่ ลูกค้าน่าจะมั่นใจและเชื่อถืองานของเรามากขึ้นจากปากต่อปาก
ติดตามมินิซีรี่ส์ “Stay Over เดี๋ยวก็รู้อยู่หรือแต่ง” จำนวน 6 ตอน ตอนละ 6 นาทีทาง You Tube, We TV ได้ในเดือนตุลาคมนี้ นำแสดงโดย “นน-ชานน ริกุลสุรกาน" จากวงออกัส กำกับการแสดงโดย “มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล” จากรักแห่งสยาม เพลงประกอบและมิวสิกวิดีโอน่ารักๆ จากน้องๆ วงเสือโคร่ง ในสังกัดของคุณมะเดี่ยว และวง อุษาสวาท อำนวยการสร้างโดยบ้านนนนิภา (แม่โจ้) และเดอะกรีนเนอรี่ วิลล่า (แม่โจ้)
เชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากติดตามเรื่องราวของ “Stay Over เดี๋ยวก็รู้ อยู่หรือแต่ง” นอกจากเป็นการร่วมมือกันของกลุ่มเพื่อนที่ข้ามเส้นแบ่งของคำว่าธุรกิจแล้ว ยังมีความน่าสนใจอีกว่าจะเรื่องจะลงเอยอย่างไร นางเอกจะยอมแต่งหรือไม่ ครอบครัวใหม่จะเป็นบ้านนนนิภา (แม่โจ้) หรือเดอะกรีนเนอรี่ วิลล่า (แม่โจ้) หรือจะเหมาหมดทั้งสองโครงการเลย