14 วิธีไล่งูออกจากบ้านอย่างปลอดภัย

“งู” จัดว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานอันดับต้น ๆ ที่สามารถพบเจอภายในบ้านหรือพื้นที่บริเวณบ้านได้อยู่บ่อยครั้ง นับว่าเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่สร้างความหวาดกลัวไม่น้อยเมื่อเจอ งูอาจจะมีหลายขนาดหลากหลายสายพันธุ์ทั้งมีพิษและไม่มีพิษ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรามี “วิธีไล่งูออกจากบ้าน” เพื่อลดอันตรายที่เกิดจากการโดนงูกัดที่สร้างปัญหาไม่น้อย อาจถึงขั้นรุนแรงถึงชีวิตเลยก็ได้ดังนั้นบทความนี้จึงมีวิธีรับมือกับเจ้าตัวร้ายให้ไม่มากวนใจเราได้อีก วิธีไล่งูออกจากบ้านเพื่อไม่ให้มารุกรานมีอะไรบ้าง

1. จัดสวนให้เรียบร้อย

จัดพื้นที่สวนหรือบริเวณที่เป็นพื้นที่รอบบ้านให้มีความสะอาดตาไม่ปล่อยให้รกจนเกินไป เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งที่หลบอาศัยของงู ที่จะแฝงตัวอยู่ตาม โคนต้นไม้พงหญ้าที่ไม่ได้รับการดูแล หรือเศษหินเศษไม้ที่วางทับซ้อนกันเป็นพื้นที่เหมาะแก่การอาศัยของงูได้ดีเลยทีเดียว

2. ทำความสะอาด

ภายในบ้านควรมีการจัดสรรพื้นที่ใช้งานให้มีความเหมาะสม หมั่นดูแลทำความสะอาดเป็นประจำไม่ให้มีพื้นที่มุมอับหรือมุมมืดที่ทึบจนเกินไป  และเพื่อไม่ให้มีหนูที่เป็นอาหารของงูซึ่งจะกลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่งูจะเข้ามาอาศัยภายในบ้านได้เช่นกัน

3. อุดช่องว่าง

รอยโหว่ช่องแตกตามผนัง ตามมุมที่ลับตาหรือหลังตู้ที่มีช่องหลืบให้งูสามารถหลบซ่อนตัว เข้าไปใช้เป็นที่อยู่ ต้องมีการสำรวจพื้นที่รอบบ้านทั้งภายในและภายนอก พบเจอช่องโหว่ให้ทำการอุดรูนั้นไว้เพื่อไม่ให้งูได้มีพื้นที่หลบซ่อน และอาศัยอยู่อีก

4. สัตว์ประจำบ้าน

หาสัตว์เลี้ยงที่เป็นศัตรูของงู ช่วยป้องกันงูเข้ามาในพื้นที่อาศัยได้เช่น สุนัข แมว หรือ ห่าน ที่สามารถป้องกันเวลาเจองูเข้า เพราะโดยปรกติงูเป็นสัตว์ที่ชอบความสันโดษหากเจอสัตว์เลี้ยงที่อยู่ภายในบ้าน งูก็จะเลี่ยงออกไปเองตามธรรมชาติ โดยไม่เกิดการปะทะกันหากไม่จำเป็น ดังนั้นควรนำสัตว์เลี้ยงมาไว้ช่วยป้องกันงูได้อีกทางหนึ่ง

5. แหล่งอาหาร

หนูเป็นสัตว์ที่ชอบความสกปรกและมักจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความอับชื้นและทับถมด้วยกองเศษไม้เศษกระดาษลังหนังสือเก่าหรือสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ววางกองกันเป็นเวลานานปี นั้นหมายถึงงูก็ชอบที่จะหาแหล่งอาหารตามบ้านที่มีหนูอาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นควรมีการกำจัดแหล่งอาหารของมันโดยการสำรวจใช้หลัก 5 ส. คือ สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ และสร้างนิสัยมาปรับพื้นที่ให้ดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ

6. น้ำมันกลิ่นฉุน

ราดน้ำมันที่มีกลิ่นฉุนโดยรอบบ้านรวมถึงพื้นที่เสี่ยงที่คิดว่าจะเป็นทางผ่านหรือที่อยู่อาศัยของพวกงู เพื่อให้พวกมันหลีกหนีออกไปจากพื้นที่ไม่มารบกวนอีก แต่ควรมีการหมั่นตรวจสอบและทำเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะเมื่อกลิ่นของน้ำมันเจือจางมันก็อาจกลับมาได้อีก ข้อควรระวังควรทำในตอนที่ เด็กหรือไม่มีคนอาศัยภายในบ้านเพราะกลิ่นฉุนอาจจะเกิดปัญหาหรือผู้อยู่อาศัยได้ ควรคำนึงถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วยจะดีมาก

7. ตาข่ายดักงู

วางตาข่ายเพื่อดักงูไม่ให้เข้ามาในส่วนพื้นที่ที่เราจำกัดไว้ เช่นรอบบ้านตามริมรั้ว อาณาเขตพื้นที่ที่อาศัยของสัตว์เลี้ยง เช่น ไก่ ห่าน หรือ สุนัข เป็นต้น การวางตาข่ายดักงูควรจะมีตาถี่ ๆ เพื่อป้องกันงูที่มีขนาดเล็ก เล็ดลอดเข้าไปได้ วิธีนี้ถือเป็นการป้องกันได้ดีอีกวิธีหนึ่ง วิธีการทำคือให้นำตาข่ายมาขึงไว้กับรั้วของเรา เมื่องูเลื้อยเข้ามาก็ติดตรงที่ตาข่ายไปไหนไม่ได้ จากนั้นเราก็สามารถเรียกเจ้าหน้าที่มารับเจ้างูแปลกหน้าไปได้เลย

8. ผงกำมะถัน

ใช้กำมะถันผสมน้ำในอัตราส่วนที่พอเหมาะ เพื่อความเข้มข้นของคุณสมบัติของสารที่ได้จะมีปริมาณพอเหมาะพอดี ไม่เจือจางเกินไปที่จะไล่งูได้ เมื่องูเลื้อยผ่านหรือเข้ามาใกล้บริเวณพื้นที่ที่เราโรยไว้ หรือบางครั้งจะใช้เป็นผงกำมะถันโดยตรงก็สามารถทำได้เช่นกันก็จะช่วยให้มีความเข้มข้นมากขึ้น

9. มะกรูด

ผลมะกรูดเป็นสมุนไพรตามธรรมชาติที่หาได้ง่าย ตามบ้าน ซึ่งกลิ่นของมะกรูดที่มีความเป็นกรดจะทำให้งูได้รับสารนี้แล้วไม่อยากเข้าใกล้พื้นที่บริเวณนี้ โดยมีวิธีการคือเอาผลมะกรูดผ่าซีกไปวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่คิดว่างูน่าจะผ่านหรือ มีความเสี่ยงที่งูจะเข้ามาได้ในบริเวณนั้น ทั้งนี้อาจใช้ใบมะกรูดร่วมด้วยก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน

10. แผ่นกันงู

คุณสมบัติของแผ่นกันงูทำจากพลาสติกนั้นมีความที่มีความลื่นสูง ควรติดตั้งไว้ตามบริเวณผนังหรือ เสาเพื่อป้องกันงูเลื้อยขึ้น ความลื่นจะทำให้งูไม่สามารถเลื้อยขึ้นผ่านไปได้และหมดแรงยอมถอยหนีไปเอง ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็นการป้องกันที่สะดวกอย่างหนึ่งที่นิยมใช้กัน หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป

11. ปลูกต้น

การปลูกพืชต้านงูก็เป็นอีกทางเหลือหนึ่ง เช่น ต้นฟ้าทะลายโจร สามารถป้องกันงูได้ ด้วยมีคุณสมบัติที่หากตัวงูเลื้อยผ่านรากหรือพุ่มใบจะทำให้ผิวหนังของงูเกิดอาการปวดบวม ทำให้งูไม่กล้าเข้ามาใกล้บริเวณนั้น เราสามารถปลูกต้นฟ้าทะลายโจรไว้รอบ ๆ บ้านเพื่อตกแต่งสวน อีกทั้งสมุนไพรนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นยาได้ด้วย เราจึงควรมีไว้ติดบ้านอย่างยิ่ง

12. เครื่องไล่งู

เครื่องไล่งูถือเป็นเครื่องมือทันสมัยที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานได้มีประสิทธิภาพเพราะมีหลักการทำงานแบบสั่นในบริเวณพื้นที่ติดตั้ง ทำให้งูรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะคิดว่ามีการเคลื่อนไหวในพื้นที่บริเวณนั้นจึงไม่เข้าใกล้และจะหลีกหนีไปโดยเร็ว เครื่องไล่งูที่นิยมกันในปัจจุบันจะมีลักษณะเป็นเหมือนหมุดปักลงดิน หากต้องการวางแนวป้องกันงู เราสามารถปักเครื่องเหล่านี้รอบ ๆ บ้านได้ เครื่องไล่งูใช้พลังงานแสงอาทิตย์และมีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องการเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่บ่อย ๆ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีที่ป้องกันเราจากสัตว์มีพิษได้อย่างสะดวกอีกทางหนึ่ง

 

13. อย่าจับงูด้วยตัวเอง

การจับงูด้วยตนเองไม่ควรกระทำการโดยเด็ดขาดเนื่องจากหากไม่มีความชำนาญอาจมีอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ งูมีอยู่ด้วยกันหลายชนิดหลายสายพันธุ์ มีทั้งไม่มีพิษ มีพิษน้อย ไปจนถึงมีพิษที่อันตรายถึงตาย หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่รู้จักงูเป็นอย่างดีและมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว ห้ามพยายามจับงูด้วยตนเองเป็นอันขาด เพราะหากพลาดพลั้งโดนเจ้าแขกตัวยาวฉกเข้า อาจจะเกิดการสูญเสียขึ้นได้ ข้อควรปฏิบัติคือ เมื่อพบงูเข้ามาในบ้านให้สมาชิกทุกคนถอยห่างออกจากงูอย่างช้า ๆ และรีบขอความช่วยเหลือโดยทันที

14. เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ

หากพบเจองูเข้าบ้านควรเรียกผู้ที่ชำนาญการในการจับงูโดยเฉพาะมาช่วยจัดการให้ เช่น หน่วยกู้ภัยซึ่งจะเป็นวิธีจัดการงูได้ดีที่สุดเนื่องจากหน่วยงานเหล่านี้มีหน้าที่และความชำนาญโดยเฉพาะซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายที่จะตามมา หากมีงูเข้าบ้านให้ลองติดต่อหมายเลข 199 เพื่อแจ้งกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยให้รีบมาจับมันออกไป หากใครมีเบอร์ติดต่อหน่วยงานกู้ภัยท้องถิ่นก็สามารถเรียกให้มาจัดการได้ เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะมีประสบการณ์และอุปกรณ์พร้อมที่จะนำตัวแขกผู้ไม่ได้รับเชิญออกจากเราไป เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงเราควรอยู่ให้ห่างและเฝ้าสังเกตการณ์ในระยะไกล ๆ พร้อมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้อย่างถูกต้องเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงและปฏิบัติงาน

 
ในวิธีการข้างต้นได้มีการศึกษามาแล้วว่าสาเหตุมีอยู่หลายปัจจัยที่งูเข้าบ้านเราได้ เราจึงจำเป็นจะต้องมีการไล่งูออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว เบื้องต้นจะเห็นได้ว่าการ <<3803e3a6fe52e64d2d8871b0ab5093ec>> มีขั้นตอนในการทำค่อนข้างง่ายและไม่ยุ่งยาก เพียงแต่รับมือในสถานการณ์ที่ต่างกันเท่านั้น อย่างไรก็ตามงูเป็นสัตว์ที่ทำอันตรายคนได้ ดังนั้นก่อนจะทำการไล่งูหรือเผชิญหน้ากับงูควรศึกษาและนำข้อมูลในบทความนี้ไปปรับใช้เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเจ้าอสรพิษที่อาจแวะมาเยือนถึงบ้านได้ ถ้าเราป้องกันอย่างดีแล้วคนในบ้านก็ได้อยู่อย่างปลอดภัยไร้กังวล