“หนู” นับได้ว่าเป็นตัวปัญหาที่สร้างความรำคาญ และไม่มีใครต้องการ วิธีไล่หนู นั้นมีมากมายหลากหลายวิธีทั้งวิธีที่นุ่มนวล และวิธีที่รุนแรง เพราะว่าหนูนั้นจัดว่าเป็นพาหะนำเชื้อโรคต่างๆ มากมาย อีกทั้งยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับสิ่งของต่างๆ ในบ้าน รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า จนเกิดอันตรายกับผู้พักอาศัยได้ การไล่หนูจึงถือว่าเป็นความจำเป็นที่ทุกบ้านต้องทำ
คำว่า “บ้านรกเป็นรังหนู” ไม่ได้เป็นคำพูดที่เกินจริง เพราะว่าหนูนั้นเป็นสัตว์ที่ชอบอาศัยอยู่ในที่รก ไม่เป็นระเบียบ และมีที่ให้ซ่อนตัว การทำบ้านให้สะอาดเรียบร้อยถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุเลยก็ว่าได้ เพราะว่าธรรมชาติของหนูย่อมเข้าหาแหล่งอาหาร และบริเวณที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย ถ้าบ้านรก มีเศษอาหารตกหล่น รับรองได้ว่าหนูจะเข้ามาอาศัยภายในบ้านอย่างแน่นอน ถ้าบ้านของใครที่เก็บของไม่เป็นระเบียบ ละเลยเรื่องการทำความสะอาด มีเศษอาหารตกหล่นโดยที่ไม่ได้เก็บไปทิ้งให้เหมาะสมก็ย่อมเป็นที่ดึงดูดใจให้บรรดาหนูเข้ามาอาศัย เนื่องจากมีอาหารให้กิน มีบ้านรกๆ ให้หลบซ่อนตัว ดังนั้นการทำบ้านให้สะอาดเรียบร้อย จัดข้าวของให้เป็นระเบียบ ไม่มีเศษอาหารตกหล่น จึงถือว่าเป็นความสำคัญอันดับแรกในการทำบ้านให้ปลอดหนูนั่นเอง
หนูนั้นเป็นสัตว์ที่ตัวเล็ก และมักตกเป็นเหยื่อของสัตว์นักล่าประเภทอื่นๆ ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้หนูเป็นสัตว์ที่มีธรรมชาติในการออกหากินเวลากลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกล่า และเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบแสงสว่าง เพราะว่าแสงสว่างนั้นจะทำให้พวกมันตาพร่า แสบตา ไม่ค่อยกล้าเคลื่อนไหวมากนัก จะสังเกตได้ว่าถ้าหากเป็นที่ซึ่งเปิดไฟทิ้งไว้ หรือมีแสงสว่างตลอดเวลาจะไม่ค่อยมีหนูเข้ามารบกวน ดังนั้นในบริเวณที่มีหนูออกมาหากินเราถ้าเปิดไฟไว้ให้สว่างตลอดเวลาก็จะทำให้หนูไม่กล้าที่จะออกมาหาอาหาร และสามารถลดจำนวนของหนูในบริเวณนั้นอย่างได้ผล แต่อาจจะมีปัญหาในเรื่องของค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มมากขึ้น และการเสื่อมสภาพของหลอดไฟ ตามปริมาณการเปิดไฟทิ้งไว้นั่นเอง
หนูนั้นมองที่พักอาศัยของคนเป็นดั่งสวนอาหารที่มีอาหารมากมายรออยู่ เพราะว่าในหลายๆ บ้านยังไม่ได้ใส่ใจในเรื่องการจัดการเศษอาหารต่างๆ เพื่อไม่ให้มีหนูเข้ามารบกวน เมื่อมีเศษอาหารที่หนูสามารถใช้เป็นอาหารได้ตลอดเวลาก็จะทำให้หนูไม่หายไปไหน ดังนั้นวิธีการไล่หนูให้พ้นบ้านอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลอย่างชัดเจนคือการจัดการเศษอาหารที่เหลือจากการกินให้ดีที่สุด เก็บให้มิดชิดที่สุด การทำความสะอาดบริเวณที่กินอาหารอย่างเช่นโต๊ะกินข้าว หรือบริเวณครัวที่ใช้ประกอบอาหารอย่างสม่ำเสมอ ไม่ให้มีเศษอาหารตกหล่นตามพื้น หรือตามซอกมุมต่างๆ รวมไปถึงการทิ้งเศษอาหารควรใส่ถุงให้เรียบร้อย และนำไปทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดอย่างมิดชิด ถ้าทำได้แบบนี้รับรองว่าปัญหาหนูที่เข้ามารบกวนในบ้านจะหมดไปอย่างแน่นอน
การใช้สมุนไพรไล่หนูนั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผล เพราะว่าหนูนั้นเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสที่ดีในเรื่องการรับกลิ่น ซึ่งกลิ่นฉุนของสมุนไพรหลายๆ ชนิดนั้นเป็นกลิ่นที่หนูไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นกิ่งยี่โถ หรือกานพลู เพียงแค่นำกิ่งของสมุนไพรเหล่านี้ไปวางไว้ตามทางเดินของหนู เมื่อหนูได้กลิ่นของสมุนไพรมันก็จะไม่เดินผ่าน และย้ายไปหากินในบริเวณอื่น เพราะแพ้ให้กับกลิ่นของสมุนไพรเหล่านั้น นอกจากยี่โถ และกานพลูแล้ว มะกรูดก็เป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรที่สามารถไล่หนูได้เป็นอย่างดี เพราะกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมะกรูดนั้นเป็นกลิ่นที่หนูไม่ชอบ วิธีการใช้มะกรูดไล่หนูก็สามารถทำได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่นำมะกรูดสดมาผ่าครึ่ง และนำไปวางไว้ในบริเวณที่มีหนูเดินผ่าน หรือจุดที่คิดว่าเป็นรังของหนู เพียงเท่านี้เมื่อหนูได้กลิ่นมันก็จะย้ายไปหากินในบริเวณอื่นทันที
อย่างที่ทราบกันดีว่าหนูนั้นมีประสาทรับกลิ่นที่ค่อนข้างไว ซึ่งความไวของประสาทรับกลิ่นของหนูนั้นได้กลายมาเป็นจุดอ่อนที่สำคัญทำให้การไล่หนูด้วยกลิ่นนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย และเห็นผลทันที ไม่ว่าจะเป็นการใช้นำมันหอมระเหยต่างๆ ที่มีกลิ่นหอมอย่างเช่น กลิ่นดอกไม้ต่างๆ กลิ่นพืชบางชนิดอย่างเช่นสะระแหน่ เป็นต้น การใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ ไล่หนูก็สามารถทำได้โดยง่าย เพียงแค่นำน้ำมันที่มีกลิ่นหอมเหล่านั้นมาหยดลงในสำลีแล้วนำไปวางในมุมอับต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นทางเดิน หรือจุดที่มีหนูชุกชุม เมื่อหนูได้กลิ่นก็จะไม่มาในบริเวณนั้นอีก หรือการปลูกพืชอย่างสะระแหน่ไว้ในบริเวณบ้าน กลิ่นหอมของสะระแหน่ก็สามารถใช้ในการไล่หนูได้เช่นกัน
การใช่ยาเม็ด หรือสเปรย์ไล่หนูจัดว่าเป็นวิธีที่ค่อนข้างสะดวก และได้ผล ในปัจจุบันยาเม็ด หรือสเปรย์ไล่หนูมีจำหน่ายมากมายหลากหลายรูปแบบ หลากหลายส่วนผสม ซึ่งส่วนมากจะถูกพัฒนาให้มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้มากขึ้นมีกลิ่นฉุนน้อยลง มีส่วนผสมจากธรรมชาติมากขึ้น ทำให้คนในบ้านไม่รู้สึกวิงเวียนกับกลิ่นของยาเม็ดไล่หนู หรือสเปรย์ไล่หนูเหมือนเมื่อก่อน วิธีการใช้ยาเม็ดไล่หนูนั้นก็ง่ายๆ ไม่มีความซับซ้อน เพียงแค่นำยาเม็ดไล่หนูไปวางไว้ตามที่ต่างๆ ตามซอกมุมที่เป็นแหล่งชุมนุมของหนู เมื่อหนูได้กลิ่นฉุนของยาเม็ดไล่หนูก็จะไม่มารบกวนในบริเวณนั้นอีกเลย ซึ่งสเปรย์ไล่หนูก็ใช้หลักการเดียวกันเพียงแค่เปลี่ยนรูปแบบเป็นสเปรย์ที่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่า และใช้งานได้สะดวกกว่านั่นเอง
การวางกับดักล่อหนู หรือวางกับดักจับหนูเป็นวิธีที่มีการใช้กันมาอย่างยาวนาน ซึ่งวิธีนี้ได้ผลพอสมควรแต่ไม่สามารถจัดการหนูที่มีเป็นจำนวนมากได้ เพราะส่วนมากในแต่ละกับดักจะสามารถจัดการหนูได้ครั้งละ 1 ตัวหรือมากที่สุด 2 ตัว ซึ่งกับดักที่นิยมนั้นคือกรงดักหนู ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบกรง แบบกล่องใส หรือแบบอื่นๆ การวางกับดักหนูนั้นเพียงแค่วางเหยื่อล่อซึ่งก็คืออาหารต่างๆ ของเรานั่นเองไว้ภายในตัวกับดัก แล้วกลิ่นของอาหารก็จะล่อหนูให้เข้ามาติดกับดักนั่นเอง ซึ่งการวางกับดักหนูให้ได้ผลนั้นควรวางดักบนทางเดินของหนูอย่างเช่นวางชิดขอบผนัง วางซ่อนตามกองอาหาร และเมื่อจับหนูได้แล้วควรเปลี่ยนตำแหน่งที่วางกับดักไปเรื่อยๆ เพื่อให้การจับหนูมีประสิทธิภาพมากที่สุด
หนูนั้นจัดได้ว่าเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจมาก มีความหวาดระแวงสูง เพราะเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ และด้วยความเป็นสัตว์ที่มีใบหูขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดลำตัว ทำให้หนูนั้นสามารถรับเสียงได้ค่อนข้างดี ซึ่งเสียงที่ดังผิดธรรมชาติจะสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับหนูได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นวิธีการใช้เสียงดังไล่หนูจัดว่าเป็นวิธีที่ใช้ไล่หนูได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ การใช้เสียงไล่หนูนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการจุดประทัดไล่ในบริเวณใกล้ๆ รังหนู เพราะว่าเสียงของประทัดนั้นค่อนข้างดังทำให้หนูตกใจ และรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่การใช้ประทัดไล่หนูนั้นควรใช้อย่างระมัดระวังเพราะว่าอาจเกิดอันตรายกับคนใช้ได้ หรือจะใช้การเปิดเสียงประทัดใส่ลำโพงดังๆ บริเวณใกล้รังหนูก็สามารถใช้ได้ผลเช่นกัน
“ถ้าหนูที่บ้านเยอะให้หาแมวมาเลี้ยง” คำพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงประโยคนี้ถือได้ว่าเป็นวิธีการจัดการกับหนูที่ใช้ได้ผลพอสมควร เพราะว่าหนูนั้นเป็นสัตว์ที่มีศัตรูตามธรรมชาติค่อนข้างเยอะ เป็นสัตว์ที่สัตว์นักล่าต่างๆ มองว่าเป็นเหยื่อที่สามารถจัดการได้โดยง่าย การจัดการกับหนูโดยหาสัตว์ที่เป็นนักล่า และศัตรูตามธรรมชาติของหนูมาเลี้ยงไว้ในบ้านถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดี สัตว์เลี้ยงที่เป็นสัตว์นักล่า และเป็นศัตรูกับหนูตามธรรมชาติคงจะหนีไปไม่พ้นแมวอย่างแน่นอน แม้ว่าสุนัขบางบ้านก็มีความสามารถในการจับหนู แต่แมวจะมีความได้เปรียบในเรื่องรูปร่าง และสัญชาติญาณของนักล่าที่มีมากกว่าสุนัขนั่นเอง ดังนั้นบ้านไหนที่มีปัญหาเรื่องของหนู แนะนำว่าให้หาแมวมาเลี้ยง เมื่อสัญชาติญาณนักล่าในตัวแมวตื่นขึ้นหนูในบ้านของคุณจะลดลงอย่างแน่นอน
หนูส่วนมากนั้นจะไม่ได้ทำรังอยู่ภายในบ้านของคน แต่จะทำรังอยู่ในบริเวณบ้าน หรือสถานที่อื่นๆ ที่สามารถเข้ามาหาอาหารภายในบ้านได้อย่างสะดวก การปิดทางเข้าออกต่างๆอย่างเช่นซอกต่างๆ บนหลังคา รอยแตกของฝ้าเพดาน รูบริเวณประตู หน้าต่าง รูบริเวณกำแพงบ้าน หรือท่อน้ำ รอยแตกของกระเบื้อง จะทำให้หนูเข้ามาในบ้านเราได้ยากมากขึ้น ดังนั้นเราจึงควรสำรวจบริเวณบ้านเพื่อค้นหาช่องทางที่หนู แล้วจัดการปิดช่องทางเหล่านั้นเพื่อไม่ให้หนูเข้ามาในบ้านเราได้ ซึ่งการปิดช่องทางเหล่านั้นก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี และมีวัสดุต่างๆ มาให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นตะแกรงปิดท่อน้ำ ตะแกรงปิดรอยต่อหลังคาเป็นต้น เมื่อปิดทางเข้าออกต่างๆ ได้หมดปัญหาหนูภายในบ้านจะลดลงอย่างแน่นอน
การติดต่อบริษัทรับกำจัดหนูเพื่อให้มาจัดการกับปัญหาหนูภายในบ้านนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นวิธีสุดท้ายถ้าทำตามวิธีอื่นๆ ที่กล่าวมาในบทความนี้แล้วไม่ได้ผล หรืออาจะเป็นวิธีแรกเลยก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของเจ้าของบ้าน เพราะว่าเป็นวิธีที่ได้ผลอย่างแน่นอน แต่วิธีนี้จะมีเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ตามมาค่อนข้างสูง และต้องมั่นใจในความสามารถของบริษัทฯ พอสมควร บริษัทรับกำจัดหนูนั้นในปัจจุบันมีเป็นจำนวนมาก แต่การเลือกบริษัทฯ ที่จะมากำจัดหนูให้กับบ้านของเราควรเลือกอย่างพิถีพิถัน ซึ่งแต่ละบริษัทฯ นั้นจะมีวิธีการต่างๆ สำหรับกำจัดหนูให้ลูกค้าเลือก ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทางสุขาภิบาล หรือการรักษาความสะอาดบ้าน การใช้กับดักดักต่างๆ การใช้สัตว์นักล่า การใช้วิธีการชีวภาพ หรือการใช้สารเคมี เป็นต้น ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถเลือกได้ตามความพึงพอใจ แต่ที่สำคัญควรเลือกบริษัทรับกำจัดหนูที่สามารถรับประกันผลงานได้เป็นดีที่สุด เพราะจะสามารถสบายใจได้ว่าบ้านจะไม่มีปัญหาหนูมากวนใจอีกต่อไป
จากบทความข้างต้นจะเห็นได้ว่าหนูนั้นถือว่าเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการอยู่อาศัยภายในบ้าน และเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม วิธีการไล่หนู ที่แนะนำในบทความนี้ล้วนเป็นวิธีไล่หนูที่เมื่อทำแล้วสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน ทำด้วยตัวเองได้แบบไม่ยาก และยังเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสำหรับผู้พักอาศัยภายในบ้านอีกด้วย