จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย ที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ไม่เพียงแค่เรื่องของการท่องเที่ยว แต่อุตสาหกรรมการส่งออก และอสังหาริมทรัพย์ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ยิ่งเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่ซบเซาหนัก เนื่องจากเกิดภาวะเงินเฟ้อ ราคาสินค้าสูง ภาวะตกงาน เป็นหนี้ และขาดสภาพคล่องด้านการเงินจนทำให้หลายคนผ่อนต่อไม่ไหว และชะลอการตัดสินใจซื้อขายอสังหาฯ รวมถึงต่างชาติก็ไม่สามารถเข้าออกประเทศไทยได้ จึงทำให้ไม่เกิดการลงทุนคอนโดมิเนียม
ทีมข้อมูลของบริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้วิเคราะห์พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดการขายในกรุงเทพมหานครของผู้ใช้งาน Baania Marketplace (www.baania.com) เพื่อสำรวจศักยภาพตลาดคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในกรุงเทพฯ ในช่วงโควิดระบาด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 - 2565 (เก็บข้อมูลล่าสุดเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2565) ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ภาพรวมความสนใจโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดการขายในกรุงเทพมหานคร
จากข้อมูลผู้ใช้งาน Baania Marketplace พบว่า เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี (YoY) มีผู้ใช้งานในอัตราคงที่เท่าเดิม แต่การเข้าชมโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดการขายในกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2565 กลับเพิ่มขึ้น 56% จากปี พ.ศ. 2564 โดยเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และมีอายุอยู่ระหว่าง 25-34 ปีเป็นส่วนใหญ่
เซกเมนต์คอนโดมิเนียมที่ได้รับความสนใจ
บาเนียได้ทำการแบ่งตลาดคอนโดมิเนียมออกเป็น 5 segments ตามราคาประกาศขายต่ำสุดของแต่ละโครงการต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ได้แก่ Economy (น้อยกว่า 70,000 บาท-/ตร.ม. ), Main Class (70,000-100,000 บาท/ตร.ม. ), Upper Class (100,000-150,000 บาท-/ตร.ม. ), High Class (150,000 200,000 บาท/ตร.ม.) และ Luxury (มากกว่า 200,000 บาท-/ตร.ม.)
ซึ่งพบว่าคอนโดมิเนียมแบบ Economy segment ได้รับความสนใจสูงสุด โดยมีการเยี่ยมซมตลอดปี พ.ศ. 2565 มากถึง 39.5% ในขณะที่คอนโดมีเนียมแบบ High Class และ Luxury มีการเยี่ยมชมรวมกันแค่ประมาณ 16% เท่านั้น
ความสนใจตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดต่างๆ
จากข้อมูลการเยี่ยมชมตามจังหวัดที่ผู้ใช้งานอาศัยอยู่ในปัจจุบันพบว่า คอนโดมิเนียมคือประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากผู้เยี่ยมชมที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร และแบบ Economy segment ได้รับความสนใจมากที่สุด แต่เมื่อวิเคราะห์ความสนใจตาม segment ผลปรากฎว่าคอนโดมิเนียมแบบ Luxury segment ได้รับความสนใจจากผู้เยี่ยมชมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเท่า ๆ กัน
พื้นที่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
จากข้อมูลพบว่า จตุจักร เป็นย่านที่มีการเยี่ยมชมโครงการคอนโดมิเนียมมากที่สุดในปี พ.ศ.2565 โดยคิดเป็น 6.24% ในขณะที่ย่านวัฒนามีอัตราการเยี่ยมชมโครงการเทียบปีต่อปี (YoY) เพิ่มขึ้นสูงที่สุดถึง 44.7% ซึ่งคาดว่าอาจมาจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ เนื่องจากคาดว่าจะมีการเปิดตัวเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่ในปี พ.ศ. 2566
จากข้อมูลทั้งหมดที่จัดเก็บโดยบริษัท บานีย (ประเทศไทย) จำกัด บนฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่ประกอบไปด้วยข้อมูลโครงการจัดสรรมากกว่า 25,000 โครงการ และข้อมูลการเยี่ยมชมของผู้ใช้งาน Baania Marketplace มากกว่า 6,000,000 ครั้ง คงจะเห็นได้ว่า ความสนใจโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดการขายในกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2565 เพิ่มขึ้นมากกว่าปี พ.ศ. 2563 - 2564 โดยส่วนหนึ่งอาจมาจากประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศ และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ได้ผ่อนคลายลง ตลาดคอนโดมิเนียมก็เริ่มจะกลับมาฟื้นตัว แม้จะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกและสภาวะเงินเฟ้อ แต่ในปี พ.ศ. 2565 ได้มีมาตรการต่าง ๆ ที่เข้ามากระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าโอนและค่าจดจำนอง, ผ่อนคลายมาตรการ LTV, การคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะขึ้นในปี พ.ศ. 2566 รวมถึงผู้ประกอบการต่างเปิดตัวใหม่ พร้อมจัดโปรโมชันจัดเต็ม จึงทำให้ความสนใจของคนที่กำลังค้นหาที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่เองหรือลงทุนมีมากขึ้นจากปีก่อนหน้าด้วย
ใครที่สนใจข้อมูลวิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งผู้สนใจที่อยู่อาศัย กลุ่มนักลงทุน และองค์กรที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าใจ สามารถไปอ่านข้อมูล ดาวน์โหลด Open Data และ Comparative Market Analysis (CMA) ได้ที่ gobestimate.com