HBG ฉบับส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เราจะพาท่านไปรู้จักกับดีเวลลอปเปอร์หนุ่มไฟแรง อรรถวิทย์ ธนารักษ์ หรือคุณอุ้ย กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิมานอัมพร จำกัด คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แม้ประสบการณ์มิอาจเทียบรุ่นใหญ่ แต่แนวคิดและวิธีการบริหารนั้นเรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร
พื้นเพคุณอรรถวิทย์เป็นคนกรุงเทพฯ จบด้านวิศวกรรมโยธาจากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (SIIT) ปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์บริหารธุรกิจและการจัดการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (MABE) หลังจากเรียนจบได้เริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟใกล้ๆ บ้านและมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ด้วยเงินทุน 4 แสนบาทจากการขายรถโฟล์คที่สะสม
กระทั่งปี 2555 ได้ปิดกิจการร้านกาแฟ ก่อนผันตัวเองมาเป็นวิศวกรควบคุมโครงการก่อสร้างโรงปรับคุณภาพน้ำมันของบางจากจนจบโปรเจ็กต์ จากนั้นก็รับงานถอดแบบ ประเมินราคาการก่อสร้างธุรกิจประเภทโรงไฟฟ้าและโรงกลั่น ทำให้เขาเก็บเกี่ยวกับประสบการณ์ด้านงานโครงสร้างและการออกแบบ กระทั่งมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเชื้อเชิญเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ ในลักษณะให้เข้าไปบริหารจัดการโครงการจัดสรร
คุณอรรถวิทย์ประเดิมโปรเจ็กต์แรกด้วยงานควบคุมก่อสร้าง “โครงการดี ฮาบิแทท ราชพฤกษ์” หมู่บ้านจัดสรรที่กรุงเทพฯ จากนั้นอีก 1 ปีเมื่อผู้ใหญ่ได้เห็นฝีไม้ลายมือจึงส่งตัวให้ขึ้นไปดูแล “โครงการบ้านสิรินทิพย์ เชียงใหม่” ทำการ Rebranding มาใช้ชื่อ “บ้านปริญญดา สันกำแพง” ออกแบบสไตล์บ้านให้ดูทันสมัยขึ้นเข้ากับตลาดระดับกลางกระทั่งเสียงตอบรับดีขึ้น
“ในช่วงแรกที่เข้ามาบริหารบ้านปริญญดา สันกำแพง การจัดการก่อนหน้านี้ค่อนข้างมีปัญหา ทั้งโครงสร้างการบริหารจัดการ การก่อสร้างที่ล่าช้า ต้องรื้อแผนงานและบุคลากรใหม่ทั้งหมด พร้อมทั้งต้องศึกษาและทำความเข้าใจตลาดเชียงใหม่ว่าอยู่กันอย่างไร ต้องการที่พักอาศัยประเภทไหน เพื่อที่จะตอบโจทย์ความต้องการให้ได้มากที่สุด” คุณอรรถวิทย์กล่าว
ในระยะเวลา 3 ปี กับ 3 โครงการที่คุณอรรถวิทย์บริหารงานทั้งในกรุงเทพฯ, เชียงใหม่และอุดรธานี แม้จะเป็นการลงทุนด้วยหนึ่งสมองกับสองมือ แต่ทุกก้าวของเขานั้นเต็มไปด้วยความตั้งใจ สิ่งนี้เองที่ทำให้ผู้ลงทุนให้กับเขามีความมั่นใจและไว้วางใจให้บริหารโครงการมูลค่าหลายร้อยล้านได้อย่างสบายใจ
“ผมว่าถ้าเราเข้าใจและสามารถเข้าถึงตลาดได้ แม้จะขึ้นชื่อเป็นเมืองปราบเซียนที่ไหนก็ไม่น่ากลัว” การลงทุนพัฒนาโครงการที่ไหนก็ตาม สิ่งที่จำเป็นมากคือการศึกษาธรรมชาติและความต้องการของตลาดนั้นอย่างเข้าใจเสียก่อน หากเป็นสิ่งที่ขัดจากความเป็นตัวตนของท้องถิ่นนั้นๆ การทำตลาดก็จะลำบาก และการทำธุรกิจก็ต้องมีความซื่อสัตย์ทั้งต่อตัวเอง, เพื่อนร่วมงาน, บริษัทและลูกค้า เพราะหากไม่มีความซื่อสัตย์ต่อกันแล้วก็ยากที่จะทำงานได้สำเร็จ
เทคนิคในการดูแลทีมงานจะใช้วิธีการพูดคุยและให้ความเป็นกันเองกับทุกคนเสมือนเป็นพี่น้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันในครอบครัว เมื่อเกิดความรู้สึกที่สนิทใจกันมากขึ้นจะทำให้ได้เรียนรู้และรู้จักตัวตนของคนที่นั่นและทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข ผลงานก็จะออกมาดี
ทั้งนี้นอกจาก 3 โปรเจ็กต์หลักที่ดูแลอยู่ยังมีแผนที่จะทำโครงการบ้านสไตล์รีสอร์ท ในทำเลแม่ริมอีก18 หลัง สนนราคาหลังละประมาณ 40-50 ล้านบาท โดยตั้งเป้ากลุ่มชาวต่างชาติและคนมีฐานะทางการเงิน เนื่องจากตลาดกลุ่มนี้ยังมีความต้องการที่พักอาศัยที่ค่อนข้างส่วนตัวและคุณภาพระดับไฮเอนด์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตก่อสร้าง นอกจากนั้นมีโปรเจ็กต์ทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทสำหรับกลุ่มที่เริ่มทำงานและมีครอบครัว
สำหรับนักลงทุนหรือผู้ที่สนใจธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นโปรเจ็กต์ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่หลายร้อยพันล้าน หากสามารถเข้าใจและเข้าถึงตลาดได้มากเท่าไหร่ เชื่อว่าความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อมเท่านั้น...