เสริมฮวงจุ้ย ด้วย 8 สิ่งของมงคลที่ทุกบ้านต้องมี
ศาสตร์ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของการคำนวณองศาทิศทางบ้านร่วมไปกับดูดวง หรือวัน เดือน ปี เวลาเกิดคนว่าเสริมกันหรือบั่นทอนอย่างไร ซินแสนั้นถือว่าหากได้บ้านหรือสถานที่ทำงานที่เสริมคนนั้นจะถือว่าเป็นมงคลกับชีวิตเป็นอย่างสูง สามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับตัวท่านและสมาชิกในครอบครัวได้ อย่างไรก็ตามแม้จะมองว่าศาสตร์ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของการคำนวณล้วนๆ ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าธรรมเนียมโบราณต่างๆ ของคนจีนในสมัยก่อนก็มีการประยุกต์เข้ามาใช้กับศาสตร์ฮวงจุ้ยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางเจ้าที่, เทพ, เทวดา, ยันต์แปดทิศ, เสือคาบดาบ, สิงโต, มังกร ฯลฯ หรือที่เรียกว่า ของมงคล ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่อยู่กับคนจีนรวมไปถึงคนไทยเชื้อสายจีนมานาน จนสามารถจะมองได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการจัดปรับฮวงจุ้ยกันเลยทีเดียว
ซึ่งหากเราไม่ตั้งของมงคลนั้น ศาสตร์ฮวงจุ้ยในเชิงวิชาการก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไร แต่ถ้าเราจะตั้งของมงคลจริงๆ เราสามารถตั้งวางได้ถูกทิศถูกทาง ซึ่งต้องถือว่าสามารถเสริมพลังของฮวงจุ้ยบ้านจนสามารถส่งผลดีมาถึงตัวเราได้เช่นเดียวกัน โดยผมจะกล่าวถึงของมงคลที่เรามักจะได้รับเป็นของกำนัลหรือของขวัญในช่วงขึ้นบ้านหรือที่ทำงานใหม่ เพื่อให้เราจะได้นำสิ่งของเหล่านี้มาจัดวางให้เกิดประโยชน์ได้สูงที่สุดครับ
1. เรือสำเภาจีน
ถือว่าเป็นของมงคลยอดนิยมลำดับต้นๆ ในปัจจุบัน เรือสำเภาจีนนั้นส่วนใหญ่ทำมาจากไม้จริงๆ ทั้งตัวเรือและกระโดงเรือมีลักษณะรูปทรงสูงเพรียวถือว่ามีพลังของ “ธาตุไม้” เป็นหลัก ตามธรรมเนียมของคนจีนเชื่อว่าเรือสำเภานั้นให้มงคลเรื่องของการค้าขายประสบความสำเร็จ เพราะผู้ที่เป็นสัญลักษณ์ของการใช้เรือสำเภาเพื่อการค้าขายนั้น ได้แก่ เจิ้งเหอ มหาขันทีคนสำคัญของราชวงศ์หมิง ผู้เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีและค้าขายกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาแล้ว ดังนั้นหากท่านทำงานเกี่ยวกับการค้าขายก็มีความเชื่อว่าการตั้งเรือสำเภาก็จะเสริมมงคลให้ท่านค้าขายราบรื่น ได้กำไรงดงาม โดยตามศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบวิชาการก็ถือว่าหากท่านสามารถจะวางเรือสำเภาใน “ทิศตะวันออก” หรือ “ทิศตะวันออกเฉียงใต้” ได้ก็จะยิ่งเสริมพลังของฮวงจุ้ยในมุมนั้นได้มากขึ้นไปอีกและก็ถือว่าเป็นสิ่งของมงคลที่เหมาะเป็นพิเศษสำหรับท่านที่เกิดในปีขาลหรือปีเถาะ
2. ภาพม้า 8 ตัว
ถือว่าเป็นสิ่งของมงคลที่ผมได้เห็นในทุกๆ บ้าน และมักจะมีคำถามว่าจัดวางบริเวณใดดีสำหรับการดูฮวงจุ้ยในระบบวิชาการนั้น “ม้า” หรือนักษัตร “มะเมีย” จะตรงกับช่วงพลัง “ธาตุไฟ” หรือช่วงพลังหยางสูงสุด เช่น ช่วงกลางวัน หรือช่วงฤดูร้อนของจีน คนจีนจึงนำเอาม้าซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความกระฉับกระเฉงว่องไว แข็งแรงทรงพลัง เป็นตัวแทนของพลังหยางสูงสุด แสดงถึงความเป็นมงคล โดยเฉพาะในเรื่องของการค้าขายให้ได้ราบรื่นรวดเร็วฉับไว หรือช่วยเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ แต่ก็มีเคล็ดเล็กๆ น้อยเรื่องจำนวนของม้าที่นิยมสำหรับในยุคปัจจุบันเป็นยุคที่ 8 ซึ่งมีความเป็น “ธาตุดิน” จึงมีความนิยมใช้ม้าจำนวน 8 ตัว เพราะมีความหมายว่าม้าซึ่งเป็นพลังธาตุไฟ ส่งเสริมพลังโชคลาภยุค 8 ธาตุดิน ช่วยทำให้เป็นมงคลเป็นพิเศษเรื่องการคว้าโชคลาภและโอกาสทางธุรกิจ โดยตามศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบวิชาการก็ถือว่าหากท่านสามารถติดภาพม้า 8 ตัวใน “ทิศใต้” ได้ก็จะเสริมพลังฮวงจุ้ยในมุมนั้นมากขึ้นไปอีก และจะส่งผลดีเป็นพิเศษกับผู้ที่เกิดในปี “มะเส็ง” “มะเมีย” และ “มะแม”
3. เทพกวนอูและเจ้าแม่กวนอิม
ถือเป็นสองเทพในตำนานที่ชาวจีนทุกผู้ทุกคนนับถือเป็นอย่างมาก โดยทั้งสองท่านนั้นมีตัวตนจริงๆ ในประวัติศาสตร์ของคนจีน กวนอูนั้นเป็นแม่ทัพคู่ใจของเล่าปี่กษัตริย์ของจ๊กก๊ก หนึ่งในก๊กใหญ่ของสามก๊ก โดยกวนอูนั้นได้รับความยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ มั่นคง จงรักภักดี ยึดมั่นในคำสัญญา กตัญญูรู้คุณและมีคุณธรรม เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดทั้งดีหรือร้าย กวนอูจะต้องยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับเล่าปี่ว่าจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ในสนามรบไปจนวันตาย ชาวจีนนับถือกวนอูเป็นอย่างมาก จนในยุคสมัยของเฉียนหลง-ฮ่องเต้ของราชวงศ์ชิงจึงได้เคารพบูชากวนอูให้เป็น “เทพกวนอู” เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์
ส่วนเจ้าแม่กวนอิมหรือพระโพธิสัตว์กวนอิมนั้นได้รับการนับถือว่าเป็นเทพแห่งความเมตตากรุณา อ่อนโยนเสียสละเพื่อผู้อื่น เป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ว่ากันว่าก่อนที่ท่านจะสำเร็จอรหันต์นั้น ท่านยอมเสียสละดวงตาและแขนทั้งสองข้างเพื่อรักษาบิดาของตนเอง ซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้โหดเหี้ยมและปองร้ายได้แม้กระทั่งพระพุทธศาสนาและชีวิตของลูกสาวตัวเอง จึงถือว่าเจ้าแม่กวนอิมเป็นตัวแทนของความเสียสละและเมตตาอย่างแท้จริงถือได้ว่าท่านทั้งคู่มีพลังของ “ธาตุดิน” ที่แสดงถึงความหนักแน่นมั่นคง เป็นจุดศูนย์รวมของทุกสรรพสิ่งดังนั้นหากเราตั้งของมงคลดังกล่าวก็จะช่วยเสริมเรื่องความมีอำนาจมีบารมี มีผู้คนยอมรับนับถือ มีความกตัญญูรู้คุณโดยทิศทางที่เหมาะสมนั้น ได้แก่ “ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ” และ “ทิศตะวันตกเฉียงใต้” และจะส่งผลดีเป็นพิเศษกับผู้ที่เกิดในปี “ฉลู” “มะโรง” “มะแม” และ “จอ” ส่วนของมงคลใกล้เคียงกันอย่าง “ฮก ลก ซิ่ว” นั้นก็สามารถพิจารณาการจัดวางคล้ายคลึงกันได้ครับ
4. สิงโตทองคำ
ตามความเชื่อของคนจีนนั้นถือว่าสิงโตเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความมีพลัง มีอำนาจน่าเกรง-ขาม เพราะเป็นราชาแห่งสัตว์ทั้งมวล แต่สำหรับนักดูฮวงจุ้ยในระบบวิชาการนั้นมองว่ารูปร่างรูปทรงของสิงโตทองคำนั้นจะมีลักษณะกลมทั้งศีรษะ ขน ลำตัว ขา ผิว กายมันวาวเคลือบสีส่วนใหญ่เป็นสีทอง จึงดูภาพรวมเป็นลักษณะพลังของ “ธาตุทอง” สามารถใช้ในการเสริมพลังเกี่ยวกับการตัดสินใจที่ฉับไว รวดเร็ว คล่องแคล่ว มีความเด็ดขาดยุติธรรม มีอำนาจ โดยทิศทางที่สามารถใช้สิงโตทองคำเสริมพลังได้ดี ได้แก่ “ทิศตะวันตก” เน้นสำหรับผู้หญิง หรือ“ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ” เน้นสำหรับผู้ชาย และจะส่งผลดีเป็นพิเศษกับผู้ที่เกิดในปี “วอก” “ระกา” หรือ “จอ” โดยวัสดุมงคลอื่นๆ ที่ดูมีลักษณะมีพลัง มีความกลม มันวาว ก็สามารถพิจาณาใช้ได้ เช่น พระสังกัจจายน์ เป็นต้น
5. ภาพปลาคาร์พว่ายทวนน้ำ
เป็นของมงคลที่นิยมกันมากไม่แพ้อย่างอื่น เพราะปลาคาร์พนั้นเป็นปลาที่ชอบว่ายทวนกระแสน้ำ เหมือนกับการที่คนเราไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคต่างๆ นานา โดยตามความเชื่อของชาวจีนนั้นมีตำนานว่าหากปลาคาร์พตัวใดสามารถว่ายทวนน้ำไปจนถึงต้นน้ำได้แล้วจะกลายเป็นมังกร นั่นก็หมายถึงว่าเมื่อไรที่เรามีความตั้งใจ ความพยายามก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ในที่สุด โดยที่ตามศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบวิชาการนั้นมองว่าภาพปลาคาร์พว่ายทวนน้ำซ่อนแฝงพลังของ “ธาตุน้ำ” สามารถเสริมให้ท่านมีกิจการการค้าและชีวิตที่ราบรื่น ปรับตัวได้คล่องแคล่วตามสถาน-การณ์ มีสติปัญญาที่ลึกซึ้งเหมือนน้ำ โดยทิศทางที่เสริมพลังได้ดีคือการติดภาพในโซน “ทิศเหนือ” และจะส่งผลดีเป็นพิเศษสำหรับท่านที่เกิดในปี “กุน” และ “ชวด”
อย่างไรก็ตามสิ่งของมงคลที่กล่าวมานั้นยังเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของการจัดฮวงจุ้ยในระบบวิชาการเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดยังต้องเป็นการจัดฮวงจุ้ยเพื่อดึงเอากระแสพลังดีจากธรรมชาติรอบๆ บ้าน สำนักงานโรงงานของเรา ให้สามารถส่งเข้ามาเสริมเราจากทิศทางที่ถูกต้องกับดวงชะตาของเรา ประกอบไปกับทิศทางของการนั่ง การนอน การจัดวางตำแหน่งห้องสำคัญ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องครัว เพื่อให้เราสามารถรับเอากระแสพลังดีนี้มาเสริมตัวเราและสมาชิกภายในครอบครัวยังถือว่าเป็นปัจจัยหลักเช่นเดิมครับ
ผู้เขียน : อ.ตะวัน เลขะพัฒน์
ศึกษาศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยจากสถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทย
มีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สถาปัตยกรรม วัสดุก่อสร้าง