เก็บก่อนกู้ การเตรียมตัวสำหรับการเป็นเจ้าของบ้าน เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของชีวิต ดังนั้นการเริ่มต้นที่จะคิดเก็บออมเงินจึงเป็นเรื่องแรกที่ทุกคนคำนึงถึง แต่การเก็บออมให้ได้เพียงพอเพื่อจะได้กรรมสิทธิ์ในบ้านนั้นย่อมใช้เวลานาน และเมื่อได้เงินจำนวนหนึ่งที่คิดว่าเพียงพอ ราคาบ้านก็สูงขึ้นไปอย่างมากตามระยะเวลาที่ผ่านไป ดังนั้นการ ขอกู้ยืมเงินจึงเป็นเรื่องจำเป็น แต่จะออมอย่างไรให้ฉลาด คือเป็นการออมที่ได้ผลประโยชน์ให้มากที่สุดในขณะเดียวกันยังใช้เป็นหลักฐานการในไปขอกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้เป็นอย่างดี ต้องติดตามกันต่อไป
เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน แนวความคิดในการเก็บออมเงินของคนส่วนใหญ่จะมีการเก็บออมเงินเมื่อได้ใช้เงินกับค่าใช้จ่ายประจำและพิเศษแล้ว เหลือเท่าไหร่แล้วจึงเก็บ ซึ่งมากครั้งก็จะไม่มีเหลือให้เก็บ สำหรับแนวความคิดของการออมที่น่าจะถูกต้องกว่า คือ การตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บออมจากรายได้สักกี่เปอรเซ็นต์ เช่น 10% หรือ 20% ของรายได้ประจำ เหลือเท่าไหร่จึงนำไปใช้จ่ายของตน ซึ่งจะทำให้สามารถเก็บเงินออม เพื่อนำไปใช้เงินที่จำเป็นเช่นการลงทุนซื้อบ้าน หรือเพื่อการศึกษา ท่องเที่ยว เป็นต้น ได้ตามที่คาดหวัง
เงินฝากไม่เสียภาษี ปัจจุบันการฝากเงินเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่สูงสุด ต้องเป็นการฝากประจำที่มีระยะเวลาฝากค่อนข้างยาว แต่น้อยท่านนักจะทราบว่ามีเงินฝากระยะยาวที่ได้รับยกเว้นภาษี (ปกติถูกหักภาษี 15%)และได้รับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษจากปกติอีก(เพิ่มประมาณ 1%แล้วแต่ละสถาบันและระยะเวลาฝาก) เป็นการเปิดบัญชีตั้งแต่ 1,000บาท ถึง 25,000 บาทและยอดเงินฝากรายเดือนต้องเท่ากับยอดเงินเปิดบัญชี ระยะเวลาฝาก 24 เดือนโดยฝากเป็นประจำเท่า ๆ กันทุกเดือน ซึ่งมีเงินต้นรวมกันเมื่อครบกำหนดไม่เกิน 600,000บาท สิทธิได้รับยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก จากสรรพากร คือ ได้ 1บัญชีต่อลูกค้า 1 ท่านเท่านั้น
ประจักษ์พยานเอก การออมเงินกับสถาบันการเงินโดยฉพาะธนาคารทุกแห่ง จะถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญอย่างยิ่งที่จะแสดงได้ว่าผู้กู้มีคุณสมบัติที่ดีพร้อมที่จะได้รับการอนุมัติให้กู้สินเชื่อบ้านได้ เหตุผลที่สำคัญที่สถาบันการเงินพิจารณาใน 2 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นแรก คือ การดูความสามารถในการชำระหนี้ (Ability to repay) เพราะการนำเงินฝากจำนวนเท่า ๆ กันทุกเดือนมาฝาก ย่อมแสดงได้ว่าเมื่อได้กู้ยืมเงินไปแล้ว มีความสามารถในการออมเงินย่อมมีความสามารถที่จะชำระหนี้คืนสถาบันการเงินได้ค่อนข้างแน่นอน
ประเด็นที่สอง คือความตั้งใจที่จะชำระหนี้ (Willingness to repay) มีนิสัยที่ดี เพราะได้นำเงินฝากเป็นประจำในระยะเวลา 24เดือน ย่อมแสดงถึงความตั้งใจที่ดีในการผ่อนชำระคืน