25 ปี “สองประสาน” บริหารสู่ความสำเร็จกับธุรกิจอสังหาฯ

ปัจจุบันนักธุรกิจหญิงสมัยใหม่เริ่มหันมาสนใจลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เช่นเดียวกับวริทธิ์นันท์ ปัญญาเลิศหรือคุณน้อง และอภิสรา กันโธหรือคุณโรส สองผู้บริหาร บริษัท ดิ เอสตีม เชียงใหม่ จำกัด ทั้งคู่นอกจากจะเป็นเพื่อนกันมานานยังร่วมบริหารโครงการจัดสรรในเชียงใหม่ เริ่มจากขนาดเล็กถึงระดับไฮเอนด์ จนประสบความสำเร็จด้วยแนวคิดการบริหารงานง่ายๆ สั้นๆ ว่า “เรียนรู้และลงมือทำ” (Learning by Doing)

ทั้งสองมีพื้นเพเป็นคนเชียงใหม่ จบด้านบริหารธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เมื่อเรียนจบเริ่มทำงานบริหารจัดการโครงการหมู่บ้านรอยัลวิลล์ ย่านหางดง ประมาณ1 ปี จากนั้นปี 2549 ได้ร่วมทุนกับคุณอภิไตร บุญนาค อดีตเอกอัครทูตไทยประจำประเทศอังกฤษพัฒนาโครงการบ้านเดือนดาราย่านเชียงใหม่-แม่โจ้ ดูแลทั้งงานก่อสร้าง, งานขาย และจัดการชุมชน ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 6 เดือนก็สามารถปิดการขาย30 ยูนิตได้สำเร็จ ระหว่างนั้นคุณน้องกับคุณโรสยังได้ร่วมทุนพัฒนาโครงการแม่โจ้วิลเลจ, โครงการแสงตะวัน และในช่วงนั้นเองก็เป็นจุดที่ทำให้ทั้งสองต้องพักการลงทุนไปกว่า 3 ปี

เมื่อตั้งหลักได้อีกครั้งจึงตัดสินใจลงทุนทำโครงการกับคุณอภิไตรย์ บุญนาคอีกครั้ง ในการบริหารจัดการที่ดินแปลงเล็กบริเวณทางเข้าโครงการเดือนดารา ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ยูนิตได้สำเร็จ จนมีทุนพัฒนาโครงการใหม่ต่อไป

กระทั่งมาเริ่มโปรเจ็กต์ใหม่โครงการรินรดา โซนสันกำแพง ทั้งสองได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนเจ้าที่เป็นเจ้าของที่ดิน โดยคุณน้องกับคุณโรสดูแลด้านการบริหาร, การก่อสร้าง และการตลาด ทั้งสามช่วยกันบริหารโครงการรินรดา 1, 2 และ 3 มูลค่ากว่า200 ล้านบาท กระทั่งประสบความสำเร็จและเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการอสังหาริมทรัพย์ของเชียงใหม่

โครงการ ดิ เอสตีม เชียงใหม่ จำกัด 

กระทั่งปี 2556 ทั้งสองตัดสินใจร่วมกันเปิด “โครงการดิ เอสตีม เชียงใหม่” บนถนนเชียงใหม่-สันกำแพง ในนามบริษัท ดิ เอสตีม เชียงใหม่ จำกัด พื้นที่กว่า 66 ไร่ มี 2 เฟส ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างในเฟสแรกจำนวน 108 ยูนิต ส่วนเฟสที่ 2 อีก 40 ยูนิตกำลังมีแผนพัฒนาทำเป็นไฮไลท์ของโครงการคาดว่าจะเปิดตัวประมาณปี 2559

ระยะเวลากว่า 25 ปี กับความเหนียวแน่นของสองเพื่อนรักที่ตัดสินใจลงเรือลำเดียวกันร่วมทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สิ่งที่ทำให้ทั้งสองสามารถเป็นเพื่อนรักและดำเนินธุรกิจได้โดยไม่มีความขัดแย้งนั่นก็เพราะความซื่อสัตย์และไว้ใจต่อกัน รับฟัง พูดคุยกันอย่างมีเหตุผล จนผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มาได้

“บางครั้งความคิดเห็นของเราทั้งสองคนก็ไม่ตรงกันบ้าง แต่เราจะคุยกันด้วยเหตุผลและรับฟังกันมากกว่า หุ้นส่วนก็คือเหมือนคู่ชีวิต การจดทะเบียนบริษัทก็เหมือนการจดทะเบียนสมรส คือเราได้ตกลงเลือกหุ้นส่วนเลือกคู่ชีวิตแล้ว ฉะนั้นเราจะให้ความซื่อสัตย์ ความไว้ใจซึ่งกัน ส่วนเรื่องเล็กๆ น้อยบางเรื่องก็ยอมกันไป เลยทำงานและคบกันมาได้ถึงวันนี้” คุณน้องกล่าว

ด้านคุณโรสบอกกับทีมงานว่าส่วนประกอบของความสำเร็จที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะเขาสองคนเท่านั้น ทีมงานก็เป็นเหมือนเพื่อนและคนในครอบครัวที่จะต้องดูแลซึ่งกันและกัน โดยจะให้ทีมงานได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่

สิ่งหนึ่งที่ทีมงานทุกคนจะต้องยึดเป็นหลักของการอยู่ร่วมกันคือมีคุณธรรมและมีน้ำใจต่อกัน เพราะคนที่มีจิตใจชอบเผื่อแผ่ให้กับคนอื่นเวลาอยู่ร่วมกันเมื่อเกิดปัญหาก็จะสามารถให้อภัยกันได้ ส่วนเรื่องความสามารถนั้นมองว่าเป็นเรื่องรอง เพราะความสามารถ ความเก่งมันสามารถฝึกฝนกันได้ ทั้งสองได้วางเป้าหมายที่จะทำโครงการดิ เอสตีม เชียงใหม่ให้ประสบความสำเร็จเสียก่อน ส่วนโครงการใหม่นั้นมองไว้อยู่หลายทำเล

ทุกความสำเร็จเกิดได้จากการเรียนรู้และลงมือทำ เฉกเช่นสองเพื่อนรักนักบริหารคู่นี้ที่ได้ลองผิดลองถูกและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เมื่อเป้าหมายของพวกเขาคือความสำเร็จ หากมุ่งมั่นและตั้งใจเช่นนี้เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอคงได้พบกับความสำเร็จนั้นอย่างแน่นอน

ดิ เอสตีม เชียงใหม่