จีนเป็นประเทศใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนเป็นแหล่งอุตสาหกรรมการผลิตของหลากหลายสินค้าชั้นนำของโลก ทำให้ไม่ว่าเราจะหันซ้ายหรือหันขวา ก็จะพบเจอแต่คนจีน สินค้าจีน หรือแม้กระทั่งป้ายที่เป็นภาษาจีนเพื่อให้ความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจีน และเราสามารถพบคนจีนได้ทั่วทุกมุมโลก จากการเปิดประเทศมากขึ้น เพื่อส่งเสริมในด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนทางเศรษฐกิจในประเทศจากนักลงทุนต่างชาติ จึงทำให้จีนที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จะเป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกา แต่ด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องของจีน ทำให้คาดการณ์ได้ว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจีนจะขยับขึ้นเป็น ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลกแทนสหรัฐอเมริกา
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า เอ๊ะ! แล้วจีนเกี่ยวอะไรกับเรา? ตอบได้เลยว่าเกี่ยวแน่นอนครับ เพราะในปัจจุบันจีนถือว่าเป็นประเทศที่มีการลงทุนเม็ดเงินในด้านธุรกิจต่างๆ ในต่างประเทศเยอะมาก ไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่จีนสนใจมาร่วมลงทุนธุรกิจด้วย โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ ครั้งนี้ Baania ได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณพิสิฐ กองพรหม โบรคเกอร์จาก มิ่ง เอสเตท สะท้อนแนวคิดของโบรคเกอร์จากการที่จีนเข้ามาลงทุนและมีบทบาทต่ออสังหาริมทรัพย์ทั้งในไทยและเชียงใหม่
คุณพิสิฐ กองพรหม โบรคเกอร์จาก มิ่ง เอสเตท
ทำไมทุนจีนถึงสนใจเข้ามาลงทุนอสังหาฯ ในไทย?
คุณพิสิฐ
- จริงๆ จีนกับไทยมีความใกล้ชิดกันมาเนิ่นนาน โดยที่จีนได้เข้ามาในไทยในสมัยก่อน และมีคำที่เราเคยพูดกันติดปากว่า “เสื่อผืนหมอนใบ” ด้วยความที่เมื่อก่อนนั้นจีนยังล้าหลังมาก และอยู่ในระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ส่วนในสมัยนั้นบ้านเราค่อนข้างมีเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู ทำให้ดึงดูดคนจีนเข้ามา สมัยก่อนคนจีนจะมาด้วยการโล้สำเภาและทำงานเป็นลูกจ้างคนไทย แต่ในสมัยนี้ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว คนจีนไม่ได้เข้ามาของานทำเหมือนเมื่อก่อน แต่เข้ามาในรูปแบบของนักท่องเที่ยวและนักลงทุน
อย่างในเชียงใหม่ คนจีนจะชอบมาเที่ยวมากๆ พอเข้ามาเที่ยวแล้วชอบความเป็นไทย ชอบธรรมชาติและการเดินทางในบ้านเราค่อนข้างให้ความสะดวกกับนักท่องเที่ยวและยิ่งในอนาคตจะมีรถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้น จะทำให้คนจีนเข้ามาลงทุนค้าขายกับไทยมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อคนจีนมีกำลังทุนมากขึ้นก็แสวงหาช่องทางที่ทำผลกำไรมากขึ้น และช่องทางที่จะให้ผลตอบแทนได้ดีที่สุดคืออสังหาฯ
เพราะอสังหาฯ ในบ้านเรายังถูกกว่าในจีน จีนจึงมองว่าการลงทุนในไทยให้ความคุ้มค่าและการถือครองอสังหาฯ ในไทยค่อนข้างง่าย
ประเภทอสังหาฯ ไหนที่คนจีนสนใจมากที่สุด?
คุณพิสิฐ
- คนจีนชอบซื้อคอนโดมิเนียม เพราะซื้อได้ง่ายกว่าอสังหาฯประเภทอื่น ที่ต้องผ่านกระบวนการมากมายและด้วยข้อจำกัดทางกฏหมาย การซื้อคอนโดจึงเป็นที่นิยมสำหรับคนจีนเพราะซื้อง่าย ขายคล่อง และเขาสามารถถือครองได้แบบ 100% ซึ่งหมายถึงสามารถถือครองกรรมสิทธิเป็นเจ้าของได้เลย (Freehold)
ทำเลไหนที่คนจีนให้ความสนใจซื้อมากที่สุด?
คุณพิสิฐ
- นิมมานเหมินทร์เป็นทำเลอันดับหนึ่งที่คนจีนให้ความสนใจและนิยมมาก แต่ไม่เพียงแค่คนจีนเท่านั้นที่นิยมในทำเลของนิมมานฯ ชาวต่างชาติอื่นๆ ก็สนใจในทำเลนี้เช่นกัน ถือว่านิมมานเหมินทร์เป็นทำเลที่ชาวต่างชาตินิยมมากที่สุด ด้วยความที่ถนนนิมมานฯ มีความหลากหลายของนักท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวและร้านอาหารให้เลือกมากมาย ส่วนทำเลที่รองลงมาก็คือในแถบ CBP (Chiang mai business park) ที่ใกล้กับห้างสรรพสินค้า เช่น เซนทรัลเฟสติวัล, โรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นต้น
ถนนนิมมานเหมินทร์
แนวโน้มการเข้ามาซื้ออสังหาฯ ในไทยหรือเชียงใหม่ของคนจีนในอนาคตจะเป็นอย่างไร?
คุณพิสิฐ
- แนวโน้มการเข้ามาของคนจีนนั้น มีเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆ ปี ถ้าดูจากตัวเลขการเข้ามาของคนจีนที่เข้ามาเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ จากกรมการท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี 2555 มีเพียงแค่ 80,000 คนเท่านั้น
2556 : 200,000 คน
2557 : 400,000 คน
2558 : 500,000 คน
2559 : 800,000 คน
2560 : 1.4 ล้านคน
คาดการณ์ว่าปี 2561 นักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาในเชียงใหม่ประมาณ 2 ล้าน หากจำกันได้ในปี 2555 จีนได้สร้างภาพยนต์เรื่อง lost in thailand ออกฉาย นอกจากรายได้มหาศาลจากการทำเงินของตัวภาพยนต์แล้วยังได้สร้างกระแสการท่องเที่ยวของไทยและเชียงใหม่ต่อคนจีนอย่างมาก ทำให้หลังจากปี 2555 มีคนจีนเข้ามาเที่ยวในไทยและในเชียงใหม่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ส่วนเรื่องแนวโน้มไม่ต้องพูดถึงถ้าดูจากตัวเลขการเข้ามาเที่ยวของคนจีนและจากที่พูดไปช่วงข้างต้นแล้ว แน่นอนว่าอนาคตแนวโน้มต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนและจะมากขึ้นในทุกๆ ปี
ภาพยนต์เรื่อง lost in thailand
คิดว่าการเข้ามากว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ของจีนในไทย จะส่งผลดีหรือไม่อย่างไรต่อเชียงใหม่และไทยในอนาคต?
คุณพิสิฐ
- อย่างที่เรารู้กันคือต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิอสังหาฯ (คอนโดมิเนียม) ในไทยได้ ตามกฏหมายไม่เกิน 49% แต่ก็ใช่ว่าจะมีคนจีนเข้ามาซื้อทั้งหมด 49% ก็ไม่ใช่ แต่จะมีการเฉลี่ยการซื้อจากหลายๆ ชาติ โดยส่วนตัวผมยังไม่เห็นข้อเสีย เพราะการพัฒนาอสังหาฯ ขึ้นมาก็เพื่อให้ขายได้ มีลูกค้ามีต่างชาติมาชื้อเราก็แฮปปี้ และยังพ่วงไปถึงธุรกิจสินค้าเกี่ยวเนื่องอีกด้วย ทำให้วงล้อของการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนไปได้ เขาจะมากว้านซื้อยังไงก็ต้องทำให้ถูกและอยู่ภายใต้กฏหมายบ้านเราอยู่แล้ว ผมจึงเชื่อว่าจะเกิดผลดีต่อบ้านเรา(เชียงใหม่) และประเทศไทยในอนาคตอย่างแน่นอน
เชียงใหม่
แนะนำเทคนิควิธีการสำหรับใครที่อยากขายอสังหาฯ ของตัวเองให้แก่คนจีน ทำอย่างไรถึงจะให้อสังหาฯ เราเตะตาผู้ซื้อชาวจีนได้
คุณพิสิฐ
- ก่อนอื่นเลยผมขอแนะนำให้ใช้บริการนายหน้ามืออาชีพ เพราะถ้าเราไม่มี connection หรือคนที่ใกล้ชิดกับคนจีน และไม่อยากปวดหัวด้วยการขายด้วยตัวเอง เพราะถ้าขายเองจะยุ่งยากและเสียเวลามาก ใช้นายหน้ามืออาชีพจะช่วยได้ดีที่สุด เพราะด้วยประสบการณ์การขายการต่อรองของนายหน้ามืออาชีพเหล่านี้ จะช่วยให้เราขายอสังหาฯ ได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่ว่าถ้าเรามีเครือข่ายหรือ connection ก็ต้องมาดูว่าบ้านของคุณก็ต้องสมกับราคาที่คุณตั้ง
- ดูทำเลที่ตั้งว่ามีความสะดวกสบายรอบด้านแค่ไหน ทำเลดี โอกาสขายก็สูง
- เข้าใจธรรมชาติของความเป็นคนจีน เพราะโดยธรรมชาติของคนจีนคือการต่อรอง ในส่วนนี้บางครั้งเราซึ่งเป็นคนขายต้องเข้าใจและปรับตัวรับมือพฤติกรรมความเป็นคนจีนในข้อนี้ให้ได้ เช่น ถ้าเขาต่อรองเราอาจจะยอมให้เขาซักหน่อย เพราะด้วยความเป็นจีนขอให้ต่อรองได้ซักหน่อยเขาก็โอเคแล้ว
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความชิ้นนี้ หลายๆ ท่านอ่านแล้วก็จะเข้าใจคนจีนที่เข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยกันมากขึ้นและเตรียมรับมือกับคลื่นคนจีนที่จะแห่กันเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนในบ้านเรามากขึ้นในอนาคต ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีนะครับ สำหรับการที่จีนเริ่มมีบทบาทบนเวทีโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การปกครอง หรือในด้านอุตสาหกรรมธุรกิจต่างๆ เพราะอย่าลืมว่าจีน เป็นประเทศใหญ่และทรัพยากรบุคคลที่เยอะมาก สำหรับเราคนไทยก็ต้องกระตือรือร้นในการพัฒนาตัวเองให้ทันและเท่าเทียมกับจีนเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เพียงแค่โลกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เท่านั้นที่เติบโต แต่ทุกธุรกิจทุกอุตสาหกรรมก็กำลังเติบโตด้วยเช่นเดียวกัน เมืองไทยหรือแม้แต่หัวเมืองหลักต่างๆ ของประเทศจะไม่ใช่เพียงแค่แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอีกต่อไป แต่จะเป็นแหล่งลงทุนของคนจีนและต่างชาติเพื่อพัฒนาประเทศของเราให้ก้าวหน้าต่อไปในอนาคต
สุดท้ายนี้ Baania ขอขอบคุณ คุณพิสิฐ กองพรหม โบรคเกอร์จาก มิ่ง เอสเตท ที่ได้มาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนและให้ความรู้ในด้านอสังหาฯ แก่เรา หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านที่ได้อ่านครับ แล้วพบกัน Content ดีๆ อีกมากมายจาก Baania.com