My Space in My Home พื้นที่นี้สำหรับเธอ 'มาเรียม เกรย์ อัลคาลาลี่'
บ้านนี้มีที่มา
ในยุคที่เมืองใหญ่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องเบียดตัวแทรกกันอยู่ตามใจกลางเมือง คอนโดห้องเล็กๆกับบรรยากศที่แสนจะอบอุ่นก็อาจจะเป็นคำตอบสำหรับคนเมืองของ พ.ศ.นี้ เช่นเดียวกับ 'มาเรียม เกรย์ อัลคาลาลี่' หรือ 'มาเรียม B5' นักร้องสาวเสียงทรงพลังขวัญใจเด็กแนว ที่เธอเองก็เลือกใช้ชีวิตอยู่กับคอนโดห้องสวยกลางใจเมือง เช่นเดียวกับผู้คนในยุคนี้...
ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เธอและครอบครัวพักอาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ย่านดินแดง กระทั่งวันหนึ่งมีเหตุให้มาเรียมตต้องตัดสินใจมาซื้อคอนโดย่านทองทองหล่อเป็นบ้านสุดอบอุ่นอย่างเช่นทุกวันนี้
"คือตอนนั้น เบน ชลาทิศ มาหาซื้อวิกร้าน Bangkok Hair ให้คุณแม่ ซึ่งร้านตั้งอยู่ข้างๆคอนโดนี้ เบนก็เลยมาจอดรถทีนี่ เพื่อแกล้งทำเป็นมาดูคอนโด พอเขาได้มาดูห้องตัวอย่างปุ๊บ ปัง! ชอบเลย เขาซื้อเลย แล้วช่วงนั้นมาเรียมก็ทัวร์คอนเสิร์ตอยู่กับเบน เขาก็เลยชวนให้มาเรียมมาซื้อตาม"
มาเรียมตัดสินใจซื้อห้องตัวอย่างบนชั้น 16 พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการตกไว้บนพื้นที่ 36.9 ตารางเมตร ในราคา 3.5 ล้านบาท เธอบอกกับเราว่าทำเลที่ตั้งโครงการที่อยู่ใจกลางเมืองเช่นนี้ เป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัย เพราะด้วยอาชีพศิลปินที่ต้องเดินทางตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้ต้องเลือกทำเลที่เดินทางง่าย มีรถโดยสารและแท็กซี่ขับผ่าน อีกทั้งต้องไม่เปลี่ยวจนเกินไป โครงการนี้จึงเหมาะสมตอบโจทย์ความต้องการของเธอในข้อนี้ได้ดีที่สุด
เมื่อดกลิฟต์ขึ้นมาบนชั้น 16 เราเปิดประตูห้องสาวเสียงดีเข้าไป ก็จะพบกับห้องพักขนาดกระทัดรัดคุมโทนที่อบอุ่นสะอาดตาด้วยสีขาว - เทา ที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้สอยได้อย่างสมบรูณ์แบบ ภายในห้องถูกแบ่งสัดส่วนการใช้งานตามความเป็นจริง โซนลีฟวิ่งรูมตกแต่งด้วยโซฟาสีเข้มตัวใหญ่ โต๊ะกลางวางหนังสือที่เลือกใช้วัสดุโปร่งแสงอย่างกระจกใส เพื่อเพิ่มความกว้างเกินกว่าความเป็นจริงและให้ความรู้สึกไม่อีดอัด เหมาะสำหรับการนั่งดูหนังหรือพักผ่อนในวันว่างของเจ้าของห้อง อีกมุมหนึ่งตกแต่งด้วยกระจกเงาขนาดพอดีตัวข้างชั้นวางหนังสือและทีวี - เครื่องเสียง ถัดไปอีกด้านมีแพนทรี่เล็กๆเอาไว้สำหรับทำอาหารมื้อเบาๆก่อนที่เธอจะออกไปทำงาน ถัดจากห้องลีฟวิ่งรูมก็จะเป็นระเบียงเล็กๆที่มาเรียมมักจะมายืนทอดอารมณ์มองวิวสวยๆยามเย็นจากมุมนี้ไปยังคลองแสนแสบและแสงสีของท้องฟ้ายามค่ำคืนของเมืองกรุงเทพฯ
พื้นที่เหนือจินตนาการ
"ปกติมาเรียมจะชอบมานอนดูหนังในห้องนี้ แต่ถ้าเป็นช่วงที่ไม่สบายใจจะอยู่ในห้องนอนซะมากกว่าค่ะ เพราะมีความรู้สึกว่า ข้าวของในห้องนอนอะไรต่างๆ ทั้งเตียง ผ้าปูที่นอน หรือสีห้องเราก็เลือกของเราเอง แต่ด้วยความที่ไฟในห้องนอนค่อนข้างจะมืด เราก็เลยติดพวก Fairy light ที่พอตอนกลางคืนมันจะเหมือนหิ่งห้อย มาเรียมไม่ค่อยจะเปิดไฟดวงใหญ่ ชอบเปิดไฟพวกนี้ เห็นมันรู้สึกสบายใจ ยิ่งเวลามองออกไปข้างนอกเห็นคลองแสนแสบ ก็แอบคิดไปว่าตัวเองอยู่อัมสเตอร์ดัม มี canal (หัวเราะ) ยังเคยขึ้นสเตตัสประมาณนี้เลยค่ะ วันนั้นเรียมนอนอยู่ในห้อง รู้สึกไม่สบายใจ มองออกไป เห็นไฟตรงนั้น ไฟก่อสร้าง แล้วก็คลองแสนแสบที่ imagine เอาเองว่าเป็นคลองในอัมสเตอร์ดัม เบนที่อยู่ห้องข้างๆกันก็มาคอมเมนต์ว่า นี่เราอยู่คอนโดเดียวกันรึเปล่า (หัวเราะ) มันอยู่ที่จินตนาการค่ะ"
น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อย ทั้งที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยของห้องนี้ก็ไม่ได้ใหญ่โตกว้างขวางเท่าไหร่นัก แต่เมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในห้องนี้แล้วกลับไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบแต่อย่างใด อาจะเป็นเพราะความฉลาดในการเลือกใช้สีของห้องต่างๆและวัสดุพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์เข้ามาช่วยให้ผู้อาศัยรู้ได้ว่ากำลังนั่งอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ มากกว่าจะเป็นคอนโดสูงใจกลางเมืองเช่นนี้
...พื้นที่ในห้องนอนแบ่งเป็นตู้เก็บเสื้อผ้าข้างหัวเตียงที่เจ้าของห้องเลือกใช้กระจกเงาสองแผ่นเป็นบานเลื่อนเพื่อขยายพื้นที่ อีกมุมหนึงเป็นชั้นวางของและตู้หนังสือ เหนือหัวเตียงมาเรียมเลือกที่ประดับภาพศิลปะที่เธอหอบหิ้วมาจากนิวยอร์ค อีกด้านหนึ่งของห้องเป็นผนังกระจกใสทั้งด้านสามารถนอนมองวิวจากเตียงนอนได้เต็มสายตา...
"รูปที่หัวเตียงเป็นนั้นได้มาจากนิวยอร์ค ซึ่งตอนนั้นใกล้ๆ จะกลับเมืองไทยแล้ว อยู่นิวยอร์คมา 2 เดือนกว่าก็ เริ่มไม่มีตังค์ ตอนนั้นเป็นตี 2 กว่าๆ กำลังนั่งซับเวย์สายกลับบ้าน ก็เจอเด็กผู้ชายคนนึง หน้าตาดี แต่งตัว Artist มาก พอซับเวย์ออกปุ๊บ เขาก็แนะนำตัวกับทุกคน แล้วเขาก็โชว์อาร์ตของเขา เราสามารถบริจาคเงินให้เขาได้ เพื่อให้เขาสามารถไปซื้อซับพลายได้ต่อ หรือจะซื้อภาพของเขาด้วยราคาที่คุณเสนอมาก็ได้ เขาถือมา 3 รูป ก็มีผู้ชายฝั่งตรงข้าม ซื้อไป 2 รูป รูปละ 40 เหรียญ มาเรียมก็อาย ถือเงิน 2 เหรียญอยู่ในมือ เพราะตังค์ก็ใกล้จะหมด ช่วงใกล้จะกลับบ้านแล้ว เลยส่งเงินให้เขา 2 เหรียญ ก่อนออกมาเขาก็ถามว่าอยากได้รูปเก็บกลับไปที่บ้านไหม เราก็เปิดกระเป๋าตังค์ดูแล้วถามว่าภาพนี้ราคา 5 เหรียญได้ไหม เขาก็คิดนิดนึงก็ตกลง มันก็เป็นความทรงจำดีๆ รูปนี้ก็มีความหมายกับเรานิดนึง"
บนโต๊ะเก็บของสีขาวนวลที่ขนานไปกับพื้นห้องปลายเตียง เต็มไปด้วยภาพถ่ายขาวดำ และตุ๊กตาที่เธอสะสมไว้เต็มทุกตารางนิ้ว มาเรียมขยายความให้ฟัวว่า นอกจากการเดินทางท่องเที่ยว และหนังสือแล้ว นักร้องสาวหน้าสวยคนนี้ยังชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นขีวิตจิตใจโดยเฉพาะภาพถ่ายโทนขาวดำที่บ่งบอกความเป็นศิลปินโดยจิตวิญญาณของตัวเธอได้เป็นอย่างดี ส่วนหนังสือที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษก็จะเป็นหนังสือแนว Photography book แนวภาพถ่ายและหนังสือพวกเรื่องราวของคนอย่าง Humans of New York แต่ที่มาเรียมบอกกับผมว่าเธอชอบที่สุดก็คือหนังสือของนักเขียนนามว่า 'ฮะรุกิ มูรากามิ' ซึ่งเธอบอกว่าเป็นนักเขียนคนโปรดถึงขนาดที่ว่าสะสมผลงานไว้ครบทุกเล่ม
ตัวตนของตัวเธอ
ภาพรวมที่แสดงความเป็นตัวตนของ'มาเรียม เกรย์ อัลคาลาลี่' ได้ชัดเจนและตรงใจที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นห้องนอนของเธอเอง ซึ่งคนที่สนิทของเธอเมื่อมาเห็นแล้วก็จะรู้ได้ทันทีว่าข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้สิ่งสามารถอธิบายเรื่องราวในแต่ละช่วงชีวิตของเธอได้แบบเห็นภาพเลยทีเดียว
"ถ้าถามว่าที่นี่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์เลยมั้ย? ...ในใจมาเรียมยังอยากจะมีห้องนอนสำหรับแขกเพิ่มอีดนะ เพราะเวลาเพื่อนมาจากเมืองนอก ก็มานอนกับเราได้ ก็เดี๋ยวคงค่อยๆ ขยับขยาย แต่บ้านนี้ก็บ้านเป็นที่เราอยู่แล้วสบายใจ เวลาเราอยู่คนเดียวที่นี่เหมือนเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นจริงๆ เวลาเรากลับมาบ้านเราสามารถทิ้งตัวลงได้ ห้องนี้บ้านหลังนี้มาเรียมมีความรู้สึกว่าเป็นที่ๆ เราสื่อสารกับเขาได้รู้สึกว่า บ้านมันมี Energy เป็นอ้อมกอดเวลาที่เราเหนื่อยจากที่ไหนๆมาก้ตามค่ะ"
...เธอทิ้งท้ายกับผมด้วยควาหมายของคำว่าบ้านในนิยามของเธอ ก่อนที่เราจะเอ่ยคำร่ำลากันในเย็นย่ำค่ำนั้นเพื่อปล่อยให้เธอได้ไปทำหน้าทีศิลปินที่เธอรักในเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดไป...
เรื่อง: ชวลิต อรุณทัต
ภาพ: ชัยธัช ศิรประภาชัย
บทความแนะนำ: