“กลุ่มสตาร์ เอวีนิว” เป็นกลุ่มทุนสายเลือดอินเดีย ที่ทำธุรกิจค้าผ้าและผ้าม่านภายใต้แบรนด์ศิริยีวันในจังหวัดเชียงใหม่มาเป็นเวลานานหลายสิบปี และขณะนี้ได้ขยายธุรกิจเข้ามาสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่อย่างเต็มตัว ล่าสุดทางกลุ่มได้พัฒนาที่ดินราว 10 ไร่ด้านหน้าสถานีขนส่งเชียงใหม่ (อาเขต) ริมถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ใกล้สี่แยกศาลเด็ก เพื่อก่อสร้างศูนย์ธุรกิจและการค้าแบบครบวงจรภายใต้ชื่อ “สตาร์ เอวีนิว (Star Avenue)”
กุลทีป ศรีสกุลชวาลา ผู้บริหารโครงการสตาร์ เอวีนิว บอกว่าที่ดินจำนวน 10 ไร่แห่งนี้อยู่ด้านหน้าสถานีขนส่งเชียงใหม่ (อาเขต) ริมถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ใกล้สี่แยกศาลเด็ก เดิมนั้นเป็นที่ดินว่างเปล่าและไม่ได้รับการพัฒนา ซึ่งทางกลุ่มเห็นว่าที่ดินผืนนี้อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพและมีโอกาสในการพัฒนาธุรกิจ เนื่องจากในเร็วๆ นี้จะมีการลงทุนของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มเซ็นทรัล และโครงการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของกลุ่มทุนเนเธอร์แลนด์ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
ทางกลุ่มจึงได้ตัดสินใจพัฒนาที่ดินผืนดังกล่าวเพื่อก่อสร้างศูนย์ธุรกิจและการค้าแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อ “สตาร์ เอวีนิว ไลฟ์สไตล์ มอลล์ (Star Avenue Lifestyle Mall)” ด้วยมูลค่าการลงทุน 550 ล้านบาท เป็นศูนย์การค้าที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตคนเมืองเชียงใหม่ในปัจจุบัน
ภายในโครงการมีพื้นที่ขายรวมกว่า 7,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารไลฟ์สไตล์มอลล์และอาคารอาคารพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 36 ยูนิต ขณะนี้มียอดขายแล้วมากกว่าร้อยละ 80 มีโซนสำหรับจอดรถได้มากถึง 300 คัน ซึ่งร้านค้าที่เข้ามาลงทุนภายในโครงการส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม SME ในท้องถิ่นเชียงใหม่
โดยมีธุรกิจที่หลากหลายสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครบวงจร ทั้งร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, ห้างริมปิง, ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ, สปา, คลินิกทันตกรรม, คลินิกผิว, คลินิกตา, ร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์หรูจากออสเตรเลีย เป็นต้น
“เราเห็นว่าที่ตั้งของโครงการอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพและมีโอกาสในการพัฒนาธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้มีการลงทุนของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มเซ็นทรัล และโครงการศูนย์ค้าปลีกค้าส่งในโครงการเชียงใหม่บิสสิเนส พาร์คซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่ด้วยรูปแบบของโครงการที่วางให้เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ ที่ลูกค้าสามารถมาเลือกใช้บริการร้านค้าต่างๆ ได้อย่างเฉพาะเจาะจง และเดินทางเข้าออกได้สะดวก ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของผู้มาใช้บริการภายในโครงการไม่ได้เจาะจงเฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนี้เท่านั้น แต่ต้องการให้เป็นสถานที่ช้อปปิ้งและใช้บริการร้านค้าต่างๆ อีกแห่งหนึ่งของคนเชียงใหม่” กุลทีปกล่าว
ขณะเดียวกันโครงการยังสามารถรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป ที่มาใช้บริการรถโดยสารที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ (อาเขต) ที่มีวันละมากกว่า 12,000 คน ซึ่งปัจจุบันฐานลูกค้ากลุ่มนี้ถือว่ามีกำลังซื้อมาก และมีกลุ่มลูกค้าหลากหลายที่ใช้บริการตั้งแต่ระดับล่าง-บน แต่ปัจจุบันยังไม่มีการลงทุนหรือสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ตลาดในกลุ่มนี้ได้
ทั้งนี้หากโครงการเสร็จสมบูรณ์เต็มระบบที่วางไว้ ก็จะช่วยเพิ่มความคึกคักให้ย่านสถานีขนส่งเชียงใหม่ (อาเขต) และจะกลายเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 30 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้เต็มระบบภายในเดือนสิงหาคม 2555
“การเลือกลงทุนไลฟ์สไตล์มอลล์แบบนี้ เพราะรูปแบบการช้อปปิ้งพักผ่อนในลักษณะนี้ยังไม่มีและถือเป็นแห่งแรกของเชียงใหม่ที่จะตอบสนองคนเชียงใหม่ เข้าถึงได้ง่ายและเป็นไลฟ์สไตล์ที่ไม่ซับซ้อน กลุ่มลูกค้าที่ตั้งไว้จะเป็นกลุ่มครอบครัว นักเรียน นักศึกษา พนักงานบริษัทในย่านใกล้เคียง รวมถึงคนเชียงใหม่ในโซนอื่นๆ ด้วย และจุดดึงดูดอีกอย่างคือแมคโดนัลด์ที่มีพื้นทีใหญ่กว่าร้านค้าอื่นๆ ในโครงการ”
โดยบริษัท แมคไทย จำกัด ถือเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในโครงการ และเหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามาลงทุนเปิดสาขาแมคโดนัลด์ภายในโครงการสตาร์ เอวีนิว ไลฟ์สไตล์ มอลล์ เนื่องจากโครงการอยู่ในทำเลที่ดีและมีศักยภาพมากในเชิงการตลาด และถือเป็นทำเลทองอีกแห่งหนึ่งในการทำธุรกิจของเชียงใหม่ โดยทางบริษัทได้ลงทุนราว 20 ล้านบาทบนเนื้อที่ 1,000 ตารางเมตร ในรูปแบบ McDonald’s Admiralty ที่มีความทันสมัยที่สุด และเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง