กู้ร่วมซื้อบ้าน ไม่ใช่กู้กับใครก็ซื้อได้

ใครที่วางแผนว่าจะซื้อบ้านหรือคอนโดร่วมกับคนรักกันอยู่ "กู้ร่วม" คืออีกวิธียอดฮิต เพราะการกู้ร่วมซื้อบ้าน ก็คือการร่วมกันเป็นหนี้ ซึ่งคนที่มีเงินเดือนไม่สูงมาก หรือต้องการวงเงินสูงมาก มักจะใช้วิธีนี้ในการขอสินเชื่อบ้านจากธนาคาร เพราะจะเพิ่มโอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติมากขึ้น ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศผ่อนปรนมาตรการ LTV สำหรับการกู้ร่วมซื้อบ้านลงเมื่อสิงหาคม 2562 ให้มีความเหมาะสมตามความเป็นจริงมากขึ้น 

<<080d316ad4e06965feb7b256fa0f3633>>

แม้ว่ากู้ร่วมในการซื้อบ้านจะเพิ่มโอกาสให้กู้ซื้อบ้านง่ายขึ้น หรือได้วงเงินที่สูงขึ้น แต่ใช่ว่าเราจะหาใครก็ได้มากู้ร่วมซื้อบ้านกับเรานะครับ  ธนาคารต่างๆ มักมีเงื่อนไขเกี่ยวของผู้กู้ร่วมกำหนดเอาไว้ โดยทั่วไปมักจะเป็นเครือญาติหรือคู่รัก เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องปัญหาหนี้เสีย

1. สามี-ภรรยาที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฏหมาย หรือมีหลักฐานแสดงการเป็นสามีภรรยากัน เช่น ภาพถ่ายแต่งงาน บุตร เป็นต้น
2. พี่น้องท้องเดียวกันที่นามสกุลเดียวกัน
3. พี่น้องท้องเดียวกัน แต่คนละนามสกุล จะต้องแสดงหลักฐาน
4. พ่อหรือแม่กับลูก
5. ญาติที่นามสกุลเดียวกัน
6. พ่อแม่บุญธรรมกับลูกบุญธรรม
7. LGBT 

LGBT กู้ร่วมซื้อบ้านได้แล้ว

ต้องถือเป็นข่าวดีเลยครับ เพราะปัจจุบันนี้ นอกจากคู่รักชายหญิงแล้ว ปัจจุบันธนาคารบางแห่งยังเพิ่มเงื่อนไขกู้ร่วมซื้อบ้านให้กับคู่รัก LGBT (Lesbian, Gay, Bisexual, Transsexual, Queer) กู้ร่วมซื้อบ้านได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารยูโอบี และธนาคารกสิกรไทย

ในส่วนของเงื่อนไขและหลักในการพิจารณาการกู้ร่วมซื้อบ้านนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร ซึ่งหลักๆ ก็จะใช้หลักของบุคคลที่ไม่ใช่คู่สมรส เช่น เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย, อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และไม่เกิน 65 ปี และไม่เคยเป็นลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงิน และในเรื่องของเอกสารที่ใช้ในการขออนุมัติสินเชื่อบ้านก็คือเอกสารการกู้บ้านพื้นฐานนั่นเองครับ

การกู้ร่วมซื้อบ้านและคอนโดเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนะครับ ผมอยากให้เราวางแผนกันอย่างรอบคอบและรัดกุม โดยเฉพาะคนที่เป็นคู่รักที่มักมีปัญหาเรื่องเลิกกันระหว่างกู้เงินร่วมกันอยู่ หากใครที่มีปัญหานี้อยู่สามารถอ่านวิธีแก้ไขได้ที่ “เลิกกับแฟน สินเชื่อที่กู้ร่วมไว้ทำอย่างไรดี”

ขอบคุณภาพประกอบ
ธนาคารแห่งประเทศไทย